Category: อัตราแลกเปลี่ยน

จากการที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี พลังงานที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง และประกอบกับหุ้น Zoom Video Communications ที่ร่วงลงกว่า 16% ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบไปในช่วงคืนที่ผ่านมา

การที่นักลงทุนยังคงตอบรับเกี่ยวกับข่าว FDA ของสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับเรื่องการอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มที่ โดยการตัดสินใจเช่นนี้จึงทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าจะได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกไปในช่วงคืนที่ผ่านมานี้

จากการที่รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิบและหุ้นกลุ่มธนาคารที่พุ่งสูงขึ้น ประกอบกับในตอนนี้นั้นนักลงทุนยังคงจับตาเกี่ยวกับการประชุมประจำปีของ FED ที่จะพูดถึงสัญญาณแนวโน้มการเงิน จึงเป็นผลให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกไปในช่วงคืนที่ผ่านมา นอกเหนือจากนั้นดัชนี S&P500 และ Nasdaq ยังปิดทำนิวไฮอีกด้วย

จากการที่นักลงทุนเทขายหุ้นวัฎจักร (Cyclical Stock) จากความวิตกกังวัลกับผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 จึงทำให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบไปในช่วงคืนที่ผ่านมา

  จากการที่ได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ตลาดดัชนีดาวโจนส์ปืดบวกไปในช่วงวันศุกร์ที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมานั้นเอง

FDA ของสหรัฐอเมริกาได้อนุมัติการใช้วัคซีน เพื่อป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มกำลัง โดยมีการคาดการณ์ว่าอัตราการฉีดวัคซีนในสหรัฐอเมริกาจะปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับนักลงทุนต่างจับตาการประชุมประจำปีของ fed จึงทำให้ตลาดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกไปในช่วงคืนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนั้น Nasdaq ก็ได้ทำนิวไฮอีกด้วย

หลังจากที่ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาได้ประกาศตัวเลขยอดค้าปลีก ที่ล่วงลงจนน่าตกใจ ในรอบของเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประกอบกับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน เกี่ยวกับแนวโน้มของสหรัฐอเมริกา อีกทั้งผลประกอบการของโฮม ดีโปท์ ที่เป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่สุดของสหรัฐอเมริกานั้นมีผลประกอบการที่ไม่น่าพึ่งพอใจต่อนักลงทุน จึงส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบไปในช่วงคืนที่ผ่านมา

หลังจากที่รายงานประชุมของธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา (FED) ประจำเดือนกรกฎาคม 2564 ได้มีการประกาศว่า จะมีการเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในช่วงปีนี้ จึงส่งผลหุ้นเกือบทั้งหมดติดลบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบไปกว่า 1% ในช่วงคืนที่ผ่านมา

จากการที่หุ้นกลุ่ม Health Care และเทคโนโลยี มีการปิดบวกไปในช่วงคืนที่ผ่านมา ประกอบกับการประกาศตัวเลขจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐอเมริกาที่มีการปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว จึงทำให้ดาวโจนส์ และ S&P500 ปิดทำนิวไฮไปสูงสุดไปในช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นเหตุผลให้ดัชนีดาวโจนส์ก็ปิดบวกไปในช่วงคืนที่ผ่านมาเช่นกัน 

จากการที่ได้รับแรงหนุนจากหุ้นวอลท์ ดิสนีย์ที่พุ่งตัวสูงขึ้น ซึ่งแตกต่างกับในทางตลาดหุ้นนิวยอร์กกลับไม่ได้คึกคักเท่าที่ควร แต่จากการที่ดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ปิดตลาดในระดับที่สูงสุดในประวัติการณ์ จึงทำให้ดัชนีนิวยอร์กปิดบวกไปในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมานั้นเอง