Gold Spot ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันพฤหัสบดี (24 ก.พ.) โดยราคาทองคำทะยานขึ้นผ่านระดับสูงสุดของสัปดาห์ที่ 1,914 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในทันทีที่นายปูตินแห่งรัสเซีย ประกาศเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารพิเศษ สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ จนผลักดันให้ทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี 5 เดือนที่ 1,974.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงแรงหลังตลาดสหรัฐฯ เปิดทำการ
โดยได้รับแรงกดดัน ดังนี้
1. แรงขายทองเพื่อถือเงินสด และโยกเงินเติมมาร์จิ้น รวมถึงชดเชยผลขาดทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ขณะที่นักลงทุนกลับมาปิดรับความเสี่ยง (Risk off)
2. การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์จากแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย และมีสภาพคล่องสูง
3. แรงขายทำกำไร เนื่องจากทองคำอยู่ในภาวะขายมากเกินไปในทุก TF
4. นักลงทุนบางส่วนมองว่า สถานการณ์ในยูเครนอาจไม่ลุกลามเป็นสงครามหลังจากนาโตจะไม่ส่งกำลังทหารเข้าไปในยูเครน เนื่องจากยูเครนไม่ได้เป็นสมาชิกนาโต
ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อรัสเซียด้วยมาตรการที่ขัดขวางความสามารถของรัสเซียในการทำธุรกิจในสกุลเงินหลักพร้อมกับการคว่ำบาตรต่อธนาคาร และรัฐวิสาหกิจของรัสเซีย
อย่างไรก็ตามสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปได้เลือกที่จะไม่ตัดรัสเซียออกจากระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารทั่วโลกของ SWIFT พร้อมยืนยันว่า กองกำลังสหรัฐฯ จะไม่เข้าไปสู้รบในยูเครน ส่งผลกระตุ้นแรงขายกดดันให้ทองคำร่วงลงอย่างหนักเกือบ 100 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี 5 เดือน ลงมาแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,879.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง
