Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565

Table of Contents

▪ ดัชนี Dow Jones ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ (7 ก.พ.) ส่วนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดในแดนลบ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนตลอดทั้งวัน ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)

Dow Jones +0.004%

S&P500 -0.37%

Nasdaq -0.58%

ความผันผวนเกิดจากการที่นักลงทุนยังคงผิดหวังกับผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัท Meta ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Facebook รวมทั้งความกังวลที่ว่า FED อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วและแรงกว่าที่คาดไว้ หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือน ม.ค.

ขณะที่ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 35% ที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือน มี.ค. จากเดิมที่ให้น้ำหนักเพียง 14% ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

▪ ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (7 ก.พ.) หลังปิดลบ 5 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ +1.7% และการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป ได้ช่วยบดบังความวิตกเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบาย และความตึงเครียดทางการเมืองที่เกี่ยวกับรัสเซียและยูเครน

Stoxx Europe 600 +0.68%

CAC-40 +0.83%

DAX +0.71%

FTSE 100 +0.76%

อีกทั้ง ตลาดยังได้แรงหนุนหลังนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) แสดงความเห็นในวันจันทร์ว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้ออาจลดลงก่อนจะกลายเป็นการคาดการณ์ในตลาด ซึ่งจะลดความจำเป็นในการปรับนโยบายการเงิน

นอกจากนี้ การเปิดเผยผลกำไรที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปได้ช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นออรูบิส เอจี ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ที่สุดของยุโรป พุ่งขึ้น 3.2% หลังรายงานผลกำไรรายไตรมาสพุ่งขึ้น 85% และคาดว่าผลประกอบการทั้งปีจะเพิ่มขึ้นตามราคาโลหะ และผลผลิตที่แข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวลว่ารัสเซียอาจจะบุกโจมตียูเครนภายในไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์นี้ ขณะที่สหรัฐและยุโรปยังคงพยายามที่จะเสนอวิธีทางการทูตให้กับรัสเซียเพื่อแก้ไขวิกฤตดังกล่าว

▪ นักลงทุนจับตาสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือน ม.ค. ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์ก่อนที่ FED จะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มี.ค.

▪ เเละยังต้องจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆ ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ด้วย ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือน ม.ค. จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB), ดุลการค้าเดือน ธ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือน ธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

Social Share
Facebook
Twitter