Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 22 มิถุนายน 2565

Table of Contents

Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดบวก โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงช้อนซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน และหุ้นเติบโต ในขณะที่นักลงทุนจับตาดูการแถลงนโยบายการเงิน และภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ รอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส ในสัปดาห์นี้

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งขึ้นกว่า 600 จุด ในวันอังคาร (21 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงช้อนซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน และหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ที่มีทุนจดทะเบียนสูง เช่น หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ อย่างแอปเปิล และไมโครซอฟท์ ขณะที่นักลงทุนจับตา นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ซึ่งจะแถลงนโยบายการเงิน และภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ รอบครึ่งปี ต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้

Dow Jones +2.15%

S&P500 +2.45%

Nasdaq +2.51%

นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นเป็นวงกว้างหลังจากตลาดดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว โดยดัชนี Dow Jones และ Nasdaq ต่างก็ร่วงลง 4.8% ส่วนดัชนี S&P 500 ร่วงลง 5.8% ทำสถิติทรุดตัวลงมากที่สุดรายสัปดาห์ นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563 และได้เข้าสู่ภาวะหมี โดยปัจจัยที่กดดันตลาดในสัปดาห์ที่แล้วมาจากความกังวลที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเข้าสู่ภาวะถดถอยหลังจากเฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

หุ้นทุกกลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 5.14% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ฟื้นตัว โดยหุ้นไดมอนแบ็ค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 8.17%, หุ้นชลัมเบอร์เจอร์ พุ่งขึ้น 6.01%, หุ้นฟิลลิปส์ 66 ดีดตัวขึ้น 6.04%, หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 5.87%, หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 4.22% และหุ้นเอ็กซอน โมบิล ทะยานขึ้น 6.22%

หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นแอมะซอน พุ่งขึ้น 2.32%, หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.46%, หุ้นแอปเปิล ดีดขึ้น 3.28%, หุ้นเทสลา ทะยานขึ้น 9.35% และหุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 4.11%

หุ้นบริษัทผลิตชิป ดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นอินวิเดีย พุ่งขึ้น 4.32%, หุ้นเคแอลเอ พุ่งขึ้น 4.9%, หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ พุ่งขึ้น 2.72% และหุ้นอินเทล ดีดขึ้น 2.06%

นักลงทุนจับตานายพาวเวล ซึ่งมีกำหนดแถลงนโยบายการเงิน และภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ รอบครึ่งปี ต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา ในวันพุธ ที่ 22 มิ.ย. และจากนั้นจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎร ในวันพฤหัสบดี ที่ 23 มิ.ย.

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ล่าสุด ทีมนักวิเคราะห์ของบริษัทโกลด์แมน แซคส์ เตือนว่า ขณะนี้มีโอกาส 30% ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 15% โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากผลกระทบของการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น และรุนแรงขึ้น เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 3.4% สู่ระดับ 5.41 ล้านยูนิต ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด นับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2563 โดยยอดขายบ้านมือสองได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาบ้าน และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น เดือนมิ.ย. จากเอสแอนด์พี โกลบอล, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น เดือน มิ.ย. จากเอสแอนด์พี โกลบอล, ยอดขายบ้านใหม่ เดือน พ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน มิ.ย. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกขึ้นต่อ ในวันอังคาร (21 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์, กลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มน้ำมัน เนื่องจากนักลงทุนได้เข้าช้อนซื้อหุ้นราคาถูก หลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

Stoxx Europe 600 +0.35%

CAC-40 +0.75%

DAX +0.20%

FTSE 100 +0.42%

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ดีดตัวขึ้น 1.6% หลังแตะระดับต่ำสุด นับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2564 เมื่อวันจันทร์ (20 มิ.ย.) ขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ พุ่งขึ้น 1.2% เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเกือบ 1% หลังปริมาณน้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงตึงตัว

หุ้นแอร์ ลิควิด ซึ่งเป็นบริษัทก๊าซอุตสาหกรรมของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 2.8% หลังทำข้อตกลงซื้อกิจการพลังงานครั้งใหญ่ที่สุดกับบริษัทแวตเทนฟอลของสวีเดน

หุ้นแอร์บัส ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องบินของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 2.0% หลังสายการบินอีซีเจ็ตของอังกฤษเปิดเผยว่า จะซื้อเครื่องบินแอร์บัส รุ่น A320neo จำนวน 56 ลำ

Social Share
Facebook
Twitter