Market Watch จับตาดูโลก วันที่ 7 กันยายน 2565

Table of Contents

Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวันอังคาร (6 ก.ย.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของภาคบริการสหรัฐฯ จะผลักดันให้ FED ปรับขึ้นดอกเบี้ย สวนทางกับตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก หลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มรถยนต์ช่วยหนุนตลาด

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันอังคาร (6 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของภาคบริการสหรัฐฯ จะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการที่จีนล็อกดาวน์เมืองสำคัญเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

Dow Jones -0.55%

S&P500  -0.41%

Nasdaq -0.74%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ร่วงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะ 3.347% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. ปีนี้ โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดิ่งลง 3.41%, หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ร่วงลง 1.11%, หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 1.10% และหุ้นอัลฟาเบท ปรับตัวลง 0.96%

หุ้นแอปเปิล ลดลง 0.82% หลังมีรายงานว่า รัฐบาลบราซิลสั่งห้ามบริษัทแอปเปิลจำหน่าย iPhone 12 หรือ iPhone รุ่นที่ใหม่กว่า รวมทั้งห้ามจำหน่าย iPhone ทุกรุ่นที่ไม่ได้มาพร้อมกับที่ชาร์จแบตเตอรี่ โดยระบุว่า การที่แอปเปิลจำหน่าย iPhone ที่ขาดอุปกรณ์สำคัญ ถือเป็นพฤติกรรมที่จงใจในการเลือกปฏิบัติต่อผู้บริโภค นอกจากนี้ ทางการบราซิลยังสั่งปรับบริษัทแอปเปิลเป็นเงินจำนวน 2.38 ล้านดอลลาร์

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 1.24%, หุ้นเชฟรอน ปรับตัวลง 0.46%, หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 0.67% และหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 1.48%

หุ้นเบด บาธ แอนด์ บียอนด์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเครื่องใช้ภายในบ้านรายใหญ่ของสหรัฐฯ ร่วงลง 18.42% หลังจากนายกัสตาโว อาร์แนล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน (ซีเอฟโอ) ของบริษัท ปลิดชีพตัวเองด้วยการกระโดดลงมาจากตึกไทรเบกาในนครนิวยอร์ก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากบริษัทประกาศปิดสาขาจำนวน 150 สาขา และปลดพนักงานจำนวนมากเพื่อพลิกฟื้นธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาด้านการเงิน

นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมประจำปีของสถาบันคาโต (Cato Institute) ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดุลการค้าเดือน ก.ค., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด หรือ Beige Book และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกในวันอังคาร (6 ก.ย.) หลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มรถยนต์ช่วยหนุนตลาด ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานและภาวะเศรษฐกิจถดถอย

CAC-40 +0.19%

Stoxx Europe 600 +0.24%

DAX +0.87%

FTSE 100 +0.18%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์พลังงานในยุโรป หลังรัสเซียหยุดส่งก๊าซผ่านท่อนอร์ด สตรีม 1 ไปยังยุโรปเพื่อทำการซ่อมบำรุง

นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 0.75% เพื่อลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

หุ้นโฟล์คสวาเกน พุ่งขึ้น 3.7% หลังตัดสินใจทำการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) สำหรับหุ้นปอร์เช่ ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์หรูของบริษัท

หุ้นดิลิเวอรี ฮีโร่ บริษัทบริการรับส่งอาหารของเยอรมนี พุ่งขึ้น 7.7% หลังมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นตัวนี้ โดยระบุถึงการขยายตัวและผลกำไรที่เพิ่มขึ้น

หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ และหุ้นเจดี สปอร์ตของอังกฤษ ได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือด้านพลังงานสำหรับภาคธุรกิจ

Social Share
Facebook
Twitter