
Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวันอังคาร (13 ธ.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ตัดสินใจชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ย (FOMC) เช้าวันพรุ่งนี้เวลา 02.00 น. ตามเวลาไทย
▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันอังคาร (13 ธ.ค.) ตอบรับตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาต่ำกว่าคาด
Dow Jones +0.30%
S&P500 +0.73%
Nasdaq +1.01%
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 7.1% ในเดือน พ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.3% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.0% ในเดือน พ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1%
ดัชนีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ทะยานขึ้น 2.04% แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน
ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 1.77% หลังจากราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้น 3%
หุ้นโมเดอร์นา ทะยานขึ้นแข็งแกร่งถึง 19.63% หลังจากการทดลองยาคีย์ทรูดา (Keytruda) ซึ่งเป็นยารักษาโรคมะเร็งผิวหนังออกมาดี
นักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมเดือน ก.พ. ปีหน้า แต่การประชุมในพรุ่งนี้จะปรับขึ้น 0.50%
▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกในวันอังคาร (13 ธ.ค.) โดยปรับขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด
CAC-40 +1.42%
Stoxx Europe 600 +1.29%
DAX +1.34%
FTSE 100 +0.76%
หุ้นทุกกลุ่มในดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้น เนื่องจากเป็นหุ้นที่อ่อนไหวต่อดอกเบี้ย เช่น กลุ่มเทคโนโลยี พุ่งขึ้นนำตลาด 3.3%
หุ้นกลุ่มธนาคาร พุ่งขึ้น 1.4% แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์
ส่วนหุ้นรายตัวที่ปรับตัวขึ้น เช่น หุ้นลุฟท์ฮันซ่า พุ่งขึ้น 3.7% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการประจำปี 2565