Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวันอังคาร (22 พ.ย.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรป ปิดพุ่ง จากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน ซึ่งหนุนให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น ท่ามกลางการคาดการณ์ของนักลงทุนเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งขึ้นเกือบ 400 จุด ในวันอังคาร (22 พ.ย.) จากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน ซึ่งหนุนให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น และบริษัทค้าปลีกสินค้าอิเลกทรอนิกส์รายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
Dow Jones +1.18%
S&P500 +1.36%
Nasdaq +1.36%
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.9%, หุ้นเชฟรอน ดีดขึ้น 2.57%, หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ทะยานขึ้น 3.68% และหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 3.64%
หุ้นเบสท์บาย ทะยานขึ้น 12.71% และช่วยหนุนหุ้นบริษัทค้าปลีกรายอื่น ๆ ด้วย เช่น หุ้นโลว์ส พุ่งขึ้น 1.99%, หุ้นวอลมาร์ท ดีดตัวขึ้น 0.34% และหุ้นเมซีส์ อิงค์ พุ่งขึ้น 4.05%
นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของนายเจมส์ บูลลาร์ด รองประธานเฟด ก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือน พ.ย. ในวันนี้
▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดปรับตัวขึ้นในวันอังคาร (22 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มน้ำมัน 4.8% ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซน
CAC-40 +0.35%
Stoxx Europe 600 +0.73%
DAX +0.29%
FTSE 100 +1.03%
ดัชนี STOXX 600 ทะยานขึ้นเกือบ 15% แล้วจากระดับต่ำสุดในเดือน ก.ย.
หุ้นรายตัวที่พุ่งขึ้น เช่น หุ้นเรปโซลซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของสเปน พุ่งขึ้น 6.8% หลังอาร์บีซีปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนหุ้นตัวนี้ว่าปรับตัวโดดเด่นกว่าตลาด (outperform)
