
Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวันศุกร์ (25 พ.ย.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางหลังตลาดปิดเมื่อวันที่ 24 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า สวนทางกับตลาดหุ้นยุโรป ปิดทรงตัว เนื่องจากนักลงทุนหวังว่า ข่าวการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยจะช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และหุ้นกลุ่มค้าปลีก
▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันศุกร์ (25 พ.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางหลังตลาดปิดเมื่อวันที่ 24 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
Dow Jones +0.45%
S&P500 -0.03%
Nasdaq -0.52%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งนับตั้งแต่แตะระดับต่ำสุดในช่วงต้นเดือน ต.ค. โดยดัชนี S&P500 บวกขึ้นมากกว่า 15% แล้วโดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน
ยอดขายในช่วงวัน Black Friday ชะลอลง เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย และภาวะเงินเฟ้อที่ระดับสูง ทำให้นักลงทุนจับตาดูหุ้นกลุ่มนี้เป็นพิเศษ อีกทั้ง หุ้นกลุ่มค้าปลีกของสหรัฐฯ ได้กลายเป็นตัวบ่งชี้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
หุ้นกลุ่มค้าปลีก เช่น ทาร์เก็ต, เมซี่ และเบสต์บาย ปรับตัวขึ้นลงคละเคล้ากัน และดัชนี S&P500 กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยขยับขึ้นเล็กน้อย
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดบวก โดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสาธารณูปโภค เพิ่มขึ้น 0.64% และ 0.63% ตามลำดับ ขณะที่กลุ่มบริการด้านการสื่อสาร และกลุ่มเทคโนโลยี ลดลง 0.7% และ 0.67% ตามลำดับ
▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดทรงตัวในวันศุกร์ (25 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนหวังว่า ข่าวการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยจะช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และหุ้นกลุ่มค้าปลีก
CAC-40 +0.08%
Stoxx Europe 600 -0.02%
DAX +0.01%
FTSE 100 +0.27%
หุ้นกลุ่มค้าปลีก ลดลง 0.6% ในวัน Black Friday ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นฤดูกาลชอปปิง เนื่องจากวิกฤตค่าครองชีพย่ำแย่ลง และผู้คนกำลังให้ความสนใจกับการแข่งขันฟุตบอลโลก
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ร่วงลง 0.9% นำโดยหุ้นกลุ่มเคหะของอังกฤษ
สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้นเครดิตสวิส ร่วง 6.6% แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังเปิดเผยแผยรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอ
แต่ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจของเยอรมนีในไตรมาส 3 ขยายตัวขึ้นเล็กน้อยมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ขั้นต้น โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค