
Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวันจันทร์ (28 พ.ย.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรป ปิดร่วง เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการประท้วงต่อต้าน Zero-Covid ในจีน
▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงลงเกือบ 500 จุดในวันจันทร์ (28 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการประท้วงในจีน ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานทวีความรุนแรงมากขึ้น
Dow Jones -1.45%
S&P500 -1.54%
Nasdaq -1.58%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงกดดันจากการที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ขึ้นดอกเบี้ยต่อไป
หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ดิ่งลง 2.8% และดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 2.74%
หุ้นแอปเปิ้ล ร่วงลง 2.63% หลังจากมีรายงานว่า เหตุการณ์ประท้วงที่โรงงานของบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ ซึ่งเป็นผู้ผลิต iPhone ให้กับบริษัทแอปเปิ้ลนั้น จะส่งผลให้ยอดการผลิต iPhone Pro ลดลงถึง 6 ล้านเครื่องในปีนี้
หุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชนร่วงลง หลังมีรายงานว่า บล็อกไฟ (BlockFi) ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยสินเชื่อคริปโทเคอร์เรนซีประกาศล้มละลาย
นักลงทุนรอติดตามนายเจอโรม พาวเวล กล่าวปาฐกถาเกี่ยวกับนโยบายการเงินและการคลัง เวลา 01.30 ของวันที่ 1 ธ.ค. ตามเวลาไทย เพื่อหาสัญญาณทิศทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบในวันจันทร์ (28 พ.ย.) ตามทิศทางการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลก
CAC-40 -0.70%
Stoxx Europe 600 -0.65%
DAX -1.09%
FTSE 100 -0.17%
หุ้นกลุ่มน้ำมันของยุโรปร่วงลง 1.4% เนื่องจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์จากจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และสินค้าหรูหรา ซึ่งมีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวจีนนั้นก็ร่วงลงตามไปด้วย
หุ้นรายตัวที่ปรับตัวลง เช่น หุ้นเครดิตสวิส ร่วง 4.2% หลังต้นทุนประกันการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น และหุ้นแอร์บัส ร่วง 5.7% หลังรอยเตอร์รายงานว่า แอร์บัสอาจเลื่อนวันส่งมอบเครื่องบินในปี 2566