
ราคาน้ำมันดิบปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพุธ (18 พ.ค.) หลังมีรายงานว่า โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ เร่งเพิ่มการผลิต เพื่อรับมือกับสต็อกที่ลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเงินเฟ้อ
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังมีรายงานว่า โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ ต่างก็เร่งเพิ่มการผลิตน้ำมัน เพื่อรับมือกับสต็อกเชื้อเพลิงที่ลดลงอย่างมาก โดยขณะนี้ศักยภาพการกลั่นในเขตอีสต์โคสต์และกัลฟ์โคสต์อยู่เหนือระดับ 95% ซึ่งบ่งชี้ว่า บรรดาโรงกลั่นได้ดำเนินการผลิตใกล้ถึงขีดจำกัดสูงสุด
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐฯ ลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 4.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า สหรัฐฯ จะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานต่อเวเนซุเอลา เพื่อเปิดทางไปสู่การเจรจาระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่สหรัฐฯ หนุนหลัง
การผ่อนคลายดังกล่าวครอบคลุมถึงการอนุญาตให้บริษัทเชฟรอน คอร์ป สามารถเจรจาโดยตรงกับบริษัท PDVSA ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา ทั้งนี้ เวเนซุเอลาเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กำลังประสบปัญหาการส่งออกน้ำมันลดลงต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษ เนื่องจาก PDVSA ถูกกระทรวงการคลังสหรัฐฯ คว่ำบาตร