เทรดสั้น VS เทรดยาว โบรกเกอร์ Forex ไหนดีเหมาะกับคุณ

Table of Contents
เทรดสั้น VS เทรดยาว

เทรดสั้น VS เทรดยาว เลือกโบรกเกอร์ Forex ไหนดีให้เหมาะกับคุณ เพราะแต่ละกลยุทธ์มีต้นทุนการเทรดที่แตกต่างกัน เลือกให้เหมาะสมเพื่อ “เพิ่มโอกาสทำกำไร” และ “Win Rate ที่มากกว่า” 🔥

. . . . . . . . . . . . . . .

การเลือกโบรกเกอร์เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการเทรด ซึ่งในปัจจุบันมีโบรกเกอร์ Forex เข้ามาตีตลาดในประเทศไทยจำนวนมาก โดยแต่ละโบรกจะทำการคิดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ไม่เท่ากัน ดังนั้น การเลือกโบรกเกอร์ให้เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ จะช่วยลดต้นทุนการเทรดที่ไม่จำเป็น และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรที่มากขึ้นได้ครับ

โบรกเกอร์ Forex คืออะไร?

โบรกเกอร์ Forex คือ ตัวกลางที่ทำหน้าที่ส่งคำสั่งซื้อขายของเทรดเดอร์ไปยังตลาดกลาง และโบรกเกอร์เป็นการทำธุรกิจอย่างหนึ่งที่ต้องการกำไร ซึ่งมาจากค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่คุณต้องจ่ายเมื่อใช้บริการโบรกเกอร์ผ่านการเทรด, การฝากเงิน และการถอนเงิน

ซึ่งเทรดเดอร์ส่วนใหญ่เรียกค่าธรรมเนียมเหล่านี้ว่า ต้นทุนการเทรด เนื่องจากมันมักจะแฝงตัวอยู่ในค่าธรรมเนียมการเทรดหลาย ๆ อย่างที่คุณอาจจ่ายไปอย่างไม่รู้ตัว ดังนั้น การเทรดในแต่ละสไตล์จะให้ความสำคัญกับประเภทของค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน เพื่อลดต้นทุนการเทรดให้ถูกจุดครับ

🔻สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ท่านใดที่ยังไม่รู้ว่า สไตล์การเทรดของคุณเป็นแบบไหน? และเหมาะกับโบรกเกอร์ Forex ไหนดี? ในบทความนี้ Traderbobo จะเล่าให้ฟังอย่างละเอียดครับ

ค่าธรรมเนียมหรือต้นทุนการเทรด Forex มีอะไรบ้าง?Read More
ค้นหาสไตล์การเทรด Forex ของคุณ (เทรดสั้น VS เทรดยาว)Read More
การเทรดสั้น คืออะไร? เหมาะกับใคร?Read More
การเทรดยาว คืออะไร? เหมาะกับใคร?Read More
วิธีเลือกโบรกเกอร์ Forex ให้เหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณRead More
⭐แนะนำโบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะกับการเทรดสั้น VS เทรดยาวRead More
⭐เปรียบเทียบโบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะกับการเทรดสั้นRead More
⭐เปรียบเทียบโบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะกับการเทรดยาวRead More

*หมายเหตุ: การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและอ่านรายละเอียดให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน นอกจากนี้ การเลือกโบรกเกอร์ยังจำเป็นต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์

. . . . . . . . . . . . . . .

ต้นทุนการเทรด Forex มีอะไรบ้าง

ในแต่ละโบรกเกอร์จะมีการคิดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ไม่เท่ากัน และการเทรดในแต่ละสไตล์จะให้ความสำคัญกับประเภทของต้นทุนการเทรดที่ไม่เหมือนกัน เพื่อลดต้นทุนการเทรดที่ไม่จำเป็น และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรครับ

ค่า Spread คืออะไร?

🔻ค่า Spread คือ ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) โดยจะถูกรวมอยู่ในราคาซื้อขายของสินทรัพย์ไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคุณจะสังเกตได้ว่า ราคาซื้อขายของสินทรัพย์ในแต่ละโบรกจะไม่เท่ากัน ดังนั้น การเลือกใช้โบรกเกอร์ Spread ต่ำจะช่วยให้คุณได้เปรียบในการเพิ่มโอกาสทำกำไร ด้วยต้นทุนการเทรดที่ต่ำกว่า ทำให้เทรดเดอร์สายเทรดสั้นมักจะให้ความสำคัญกับค่าสเปรดของโบรกเกอร์เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการซื้อขายหลายครั้งต่อวัน

ค่า Commission คืออะไร?

🔻ค่า Commission คือ ค่าธรรมเนียมที่คุณต้องจ่ายเพิ่มเติมในการเปิดและปิดออเดอร์ ซึ่งมักจะพบได้บ่อยในประเภทบัญชีที่มีค่าสเปรดต่ำอย่างบัญชีมืออาชีพ ทั้งนี้ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มักจะคิดค่า Commission ในจำนวนที่ไม่ได้ต่างกันมาก

ค่า Swap คืออะไร?

🔻ค่า Swap คือ ค่าธรรมเนียมที่คุณต้องจ่ายเมื่อถือออเดอร์ข้ามคืน ซึ่งเป็นต้นทุนการเทรดที่เทรดเดอร์สายเทรดยาวให้ความสำคัญมากที่สุด

ค่าธรรมเนียมการฝากและถอน คืออะไร?

🔻ค่าธรรมเนียมการฝากและถอน คือ ค่าธรรมเนียมที่คุณต้องจ่ายเมื่อทำการฝากเงินและถอนเงินกับโบรกเกอร์ แต่ในปัจจุบันโบรกเกอร์ส่วนใหญ่มักจะไม่คิดค่าธรรมเนียมการฝากถอน เนื่องจากเป็นแผนการตลาดอย่างหนึ่งที่ช่วยดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี ดังนั้น เทรดเดอร์จึงให้ความสำคัญกับความเร็วในการฝากและถอนมากกว่าครับ ซึ่งมีผลอย่างมากทั้งต่อสายเทรดสั้นและสายเทรดยาว

  • ในด้านของการเทรดสั้น: โบรกเกอร์ฝากเงินเร็วจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ในแง่ของการออกออเดอร์ได้ทันท่วงทีตามสัญญาณเทรด
  • ในด้านของการเทรดยาว: โบรกเกอร์ฝากเงินเร็วจะช่วยเติม Margin Level ของคุณได้ทันก่อนถึงระดับ Stop Out โดยเฉพาะในช่วงที่ราคามีความผันผวนสูงจากข่าว

นอกจากนี้ โบรกเกอร์ Forex ถอนเงินเร็วย่อมดีต่อสภาพคล่องทางการเงินของคุณมากกว่าโบรกเกอร์ Forex ที่มีปัญหาด้านการถอนเงินครับ

*หมายเหตุ: ในแต่ละโบรกเกอร์จะมีการกำหนดระดับ Stop Out เอาไว้ ซึ่งเมื่อเงินทุนของคุณลดลงจนถึงระดับดังกล่าว จะส่งผลให้ออเดอร์ของคุณถูกปิดอัตโนมัติ ดังนั้น จึงอาจส่งผลต่อการวางแผนการเทรดของคุณได้

. . . . . . . . . . . . . . .

เทรดสั้น VS เทรดยาว สไตล์การเทรดแบบไหนดี

. . . . . . . . . . . . . . .

สไตล์การเทรด Forex สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ การเทรดสั้นและการเทรดยาว โดยแต่ละประเภทมีรูปแบบการเทรดดังนี้

สรุปลักษณะการเทรดสั้น VS เทรดยาว

⭐เทรดสั้น⭐

⭐เทรดยาว⭐

ลักษณะการเทรด

▪ เล่นกับช่วงเวลาและความผันผวนของตลาด

▪ นิยมใช้ TF 1M, 5M และ 15M

▪ มีการถือออเดอร์ไม่เกิน 1 วัน หรือทำกำไรไม่เกิน 1,000 จุด

▪ เน้นการทำกำไรที่รวดเร็ว

▪ เน้นทำกำไรตามเทรนด์ใหญ่ของตลาด

▪ นิยมใช้ TF 1D และ 1W

▪ มีการถือออเดอร์ไว้ประมาณ 1-2 เดือนขึ้นไป

▪ เน้นทำกำไรในระยะมากกว่า 5,000 จุด

ข้อดี

▪ มีโอกาสทำกำไรได้เร็ว

▪ มีโอกาสทำกำไรได้หลายครั้งใน 1 วัน จากความผันผวนของตลาด

▪ เมื่อเทรดผิดทางสามารถแก้พอร์ตได้เร็ว

▪ ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอทั้งวัน
▪ ไม่ต้องเสียค่า Spread และค่า Commission ซ้ำ ๆ

ข้อเสีย

มีการเปิดปิดออเดอร์หลายครั้ง ซึ่งอาจทำให้ต้องเสียค่า Spread และ Commission จำนวนมาก

ใช้เวลาในการถือ 1 ออเดอร์ค่อนข้างนาน ทำให้ต้องเสียค่า Swap จำนวนมาก และคุณจำเป็นต้องมี Free Margin คงเหลือในบัญชีไว้ค่อนข้างสูง

เหมาะกับใคร?

▪ ผู้ที่มีเวลาเฝ้าหน้าจอ
▪ ผู้ที่ชื่นชอบในการเทรดทาง Technical
▪ ผู้ที่เน้นทำกำไรเร็ว และมีการตั้ง TP หรือ SL ระยะสั้น
▪ ผู้ที่ชื่นชอบในการเทรดช่วงข่าว

▪ ผู้ที่ไม่มีเวลาในการเฝ้าหน้าจอ
▪ ผู้ที่มี Money Management ที่ดี
▪ ผู้ที่ชื่นชอบในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดในระยะยาว
▪ ผู้ที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทาง Fundamental และพฤติกรรมราคา

🔻บทความที่เกี่ยวข้อง: Timeframe (TF) คืออะไร? ใช้ยังไงในการเทรด Forex (อ่านต่อที่นี่)

เทรดสั้น forex คืออะไร

การเทรดสั้น Forex คือ การเทรดที่เล่นกับช่วงเวลาและความผันผวนของตลาด โดยมักนิยมใช้ Timeframe 1M, 5M และ 15M ซึ่งเทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะมีการถือออเดอร์ไม่เกิน 1 วัน หรือทำกำไรไม่เกิน 1,000 จุด และอาจมีการเปิดปิดออเดอร์จำนวนหลายครั้ง เนื่องจากเน้นการทำกำไรที่รวดเร็ว

ข้อดีของการเทรดสั้น

  • มีโอกาสทำกำไรได้รวดเร็ว
  • มีโอกาสทำกำไรได้หลายครั้งใน 1 วันจากความผันผวนของตลาด
  • เมื่อเทรดผิดทางสามารถแก้พอร์ตได้เร็ว

ข้อเสียของการเทรดสั้น

มีต้นทุนการเทรดที่สูงกว่าการเทรดยาว เนื่องจากมีการเปิดปิดออเดอร์จำนวนหลายครั้ง ซึ่งตามมาด้วยค่า Spread และค่า Commission ที่คุณต้องจ่ายซ้ำ ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุว่า ทำไมสายเทรดสั้นจึงควรใช้โบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำและค่าธรรมเนียมถูก

การเทรดสั้นเหมาะกับใคร?

  • เทรดเดอร์ที่มีเวลาเฝ้าหน้าจอ
  • เทรดเดอร์ที่เน้นทำกำไรเร็ว และมีการตั้ง TP หรือ SL ระยะสั้น
  • เทรดเดอร์ที่ชื่นชอบในการใช้อินดิเคเตอร์ เพื่อหาสัญญาณเข้าซื้อขาย
  • เทรดเดอร์ที่ชื่นชอบในการเทรดช่วงข่าว เนื่องจากต้องการเล่นกับความผันผวนของตลาด ทั้งนี้ เทรดเดอร์มือใหม่ควรหลีกเลี่ยงในการเทรดช่วงนี้ เนื่องจากตลาดมักมีความผันผวนสูง และอาจทำให้สูญเงินจำนวนมากได้

📌 Tip: การใช้อินดิเคเตอร์ Forex เป็นหนึ่งในเทคนิคการเทรดทาง Technical ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในสายเทรดสั้น เนื่องจากให้สัญญาณเทรดที่รวดเร็ว โดยอินดิเคเตอร์ยอดนิยม ได้แก่ Stochastic, Bollinger Bands และ Moving Average ซึ่งเป็น 3 ใน 5 ของอินดิเคเตอร์ที่ดีที่สุดในการเทรดฟอเร็กซ์ นอกจากนี้ยังมีเทคนิคที่ชื่อว่า FVG Forex (Fair Value Gap) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มเทรดเดอร์สายเทรดสั้นเป็นอย่างมาก

บทความที่เกี่ยวข้องกับการเทรดสั้น

🔻5 Technical ที่ใช้เทรดได้จริง ไม่ขายฝัน! (อ่านต่อที่นี่)

🔻แนะนำ! 5 อินดิเคเตอร์ Forex ที่ดีที่สุด (อ่านต่อที่นี่)

🔻FVG Forex คืออะไร? ทำกำไรแบบปีศาจด้วย Fair Value Gap (อ่านต่อที่นี่)

เทรดยาว forex คืออะไร

การเทรดยาว Forex คือ การเทรดที่เน้นทำกำไรตามเทรนด์ใหญ่ของตลาด โดยมักนิยมใช้ Timeframe 1D และ 1W ซึ่งเทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะมีการถือออเดอร์ไว้ค่อนข้างนาน หรือประมาณ 1-2 เดือนขึ้นไป รวมถึงมีการทำกำไรในระยะมากกว่า 5,000 จุด ดังนั้น สายเทรดยาวจะไม่นิยมเล่นกับความผันผวนของตลาดระยะสั้น แต่จะวิเคราะห์แนวโน้มและวางกลยุทธ์ในระยะยาวเป็นหลัก

ข้อดีของการเทรดยาว

  • ไม่จำเป็นต้องเฝ้าหน้าจอทั้งวัน
  • ลดต้นทุนการเทรดในด้านของค่า Spread และค่า Commission เนื่องจากไม่ได้มีการเปิดปิดออเดอร์หลายครั้ง

ข้อเสียของการเทรดยาว

เนื่องจากการเทรดยาวใช้เวลาในการถือ 1 ออเดอร์ค่อนข้างนาน ซึ่งตามมาด้วยค่า Swap จำนวนมาก รวมถึงคุณจำเป็นต้องมี Free Margin คงเหลือในบัญชีค่อนข้างสูง ดังนั้น การเทรดยาวจึงจำเป็นต้องใช้เงินทุนในการเทรดที่มาก และเป็นสาเหตุว่า ทำไมสายเทรดยาวจำเป็นต้องเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ไม่มีค่าสวอป และแจกโบนัสฟรี

การเทรดยาวเหมาะกับใคร?

  • เทรดเดอร์ไม่มีเวลาในการเฝ้าหน้าจอ
  • เทรดเดอร์ที่มี Money Management ที่ดี
  • การเทรดยาวเหมาะกับการเทรดตามเทรนด์ เนื่องจากมี Win Rate ที่สูงกว่าการเทรดสวนเทรนด์
  • เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ และสามารถวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดในระยะยาวได้
  • เทรดเดอร์ที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทาง Fundamental และพฤติกรรมราคา รวมถึงรูปแบบแท่งเทียนต่าง ๆ

📌 Tip: เทคนิคการเทรดทาง Fundamental ในตลาด Forex เป็นการวิเคราะห์แนวโน้มราคาในระยะยาว โดยอ้างอิงจากข่าวใน Forex Factory และการศึกษาพฤติกรรมราคาที่สะท้อนออกมาผ่านรูปแบบแท่งเทียนต่าง ๆ เช่น Price Action และ Price Pattern รวมถึงรูปแบบที่มีความซับซ้อนอย่าง QM Pattern และ Harmonic Pattern ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์สูง

บทความที่เกี่ยวข้องกับการเทรดยาว

🔻Price Action Pattern คืออะไร? อ่านจบพร้อมเทรด! (อ่านต่อที่นี่)

🔻Price Pattern คืออะไร? รวม 12 กราฟแท่งเทียนกลับตัวสูง! (อ่านต่อที่นี่)

🔻QM Pattern คืออะไร? QML การกลับตัวที่มี Win Rate สูงสุด! (อ่านต่อที่นี่)

🔻Harmonic Pattern คืออะไร? รวมเทคนิคที่หาไม่ได้จากที่ไหน! (อ่านต่อที่นี่)

. . . . . . . . . . . . . . .

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า เทรดเดอร์ควรให้ความสำคัญกับการเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะกับกลยุทธ์การเทรดของแต่ละบุคคล เพราะมันจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับคุณในหลาย ๆ ด้าน และที่สำคัญคุณสามารถลดต้นทุนการเทรดที่ไม่จำเป็นได้

สรุปโบรกเกอร์ Forex ไหนดีเหมาะกับการเทรดสั้น VS เทรดยาว

⭐เทรดสั้น⭐

⭐เทรดยาว⭐

สเปรดต่ำและคอมมิชชันถูก

ไม่มีค่าสวอป (Free Swap)

ระบบเทรดเสถียร

ไม่เกิดปัญหา Slippage และ Requote

แจกโบนัสเทรดฟรี

ฝากถอนรวดเร็ว

ฝากถอนรวดเร็ว

โบรกเกอร์ Forex ไหนดีที่เหมาะกับการเทรดสั้น

โบรกเกอร์ Forex ไหนดีที่เหมาะกับการเทรดสั้น

📌 สายเทรดสั้นเหมาะกับโบรกเกอร์ Forex สเปรดต่ำ และคอมมิชชันถูก อีกทั้ง โบรกเกอร์ที่ใช้ในการเทรดสั้นควรมีระบบเทรดที่เสถียร เนื่องจากการเทรดสั้นต้องอาศัยความเร็วเพื่อทำกำไร และเล่นกับความผันผวนของตลาด

ดังนั้น โบรกเกอร์ Forex ไม่ควรเกิดปัญหา Slippage และ Requote รวมถึงต้องมีระบบฝากถอนที่รวดเร็ว เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการออกออเดอร์ได้ทันท่วงที และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของคุณครับ

โบรกเกอร์ Forex ไหนดีที่เหมาะกับการเทรดยาว

โบรกเกอร์ Forex ไหนดีที่เหมาะกับการเทรดยาว

📌 สายเทรดยาวเหมาะกับโบรกเกอร์ Forex ไม่มีค่าสวอป และหากมีโบนัสเทรดฟรีจะดีมาก เนื่องจากโบนัสฟรีจะช่วยเพิ่มเงินทุนในการเทรด และทำให้ Free Margin ในบัญชีของคุณสูงขึ้น ซึ่งสามารถช่วยป้องกัน Margin ติดลบ และการเกิด Stop Out ของพอร์ตได้ (เมื่อเกิด Stop Out จะทำให้ออเดอร์ของคุณถูกปิดอัตโนมัติ)

อีกทั้ง โบรกเกอร์ฝากเงินเร็วยังเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่สายเทรดยาวมองข้ามไม่ได้ โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่มีเงินทุนน้อย เพราะการฝากเงินได้เร็วจะช่วยให้พอร์ตของคุณปลอดภัยในช่วงที่ออเดอร์ของคุณต้องเผชิญกับราคาที่มีโอกาสสวิงสูงในช่วงข่าว ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่ม Margin Level ได้ทันท่วงที

ส่วนในด้านของการถอนเงินเร็วมีผลตายตัวต่อสภาพคล่องทางการเงิน และ Money Management ของคุณอยู่แล้วครับ ดังนั้น เทรดเดอร์จึงควรคำนึงถึงประเด็นเหล่านี้ให้มากก่อนตัดสินใจเลือกใช้โบรกเกอร์นั้น ๆ

. . . . . . . . . . . . . . .

เลือกโบรกเกอร์ Forex ไหนดีให้เหมาะกับเทรดสั้น vs เทรดยาว

. . . . . . . . . . . . . . .

จากการศึกษาข้อมูลเชิงลึกของโบรกเกอร์ และตรวจสอบความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง พบว่า มีโบรกเกอร์อยู่ 4 ราย ที่มีคุณสมบัติเหมาะกับการเทรดสั้นและเทรดยาวครับ ได้แก่ IUX Markets, Exness, IC Markets และ XM โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

เทรดสั้น vs เทรดยาว โบรกเกอร์ Forex ไหนดี
รีวิวฉบับเต็มทางลัดเปิดบัญชีไปที่หน้าเว็บไซต์
IUX Marketsอ่านต่อเปิดบัญชีที่นี่
Exnessอ่านต่อเปิดบัญชีที่นี่
IC Marketsอ่านต่อเปิดบัญชีที่นี่
XMอ่านต่อเปิดบัญชีที่นี่

เปรียบเทียบโบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะกับการเทรดสั้น

อย่างที่เราได้อธิบายความสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์สำหรับการเทรดสั้นไว้ในหัวข้อที่ผ่านมา พบว่า IUX Markets, Exness และ IC Markets มีคุณสมบัติโดยรวมค่อนข้างตรงกับรูปแบบการเทรด แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในแต่ละโบรกเกอร์มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้น ในหัวข้อนี้เราจะทำการเปรียบเทียบคุณสมบัติของแต่ละโบรกเกอร์ เพื่อให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นครับ

เปรียบเทียบโบรกเกอร์ Forex เทรดสั้น
  1. เปรียบเทียบค่า Spread และค่า Commission
  2. เปรียบเทียบระบบเทรด
  3. เปรียบเทียบความเร็วในการฝากถอน

1. เปรียบเทียบค่า Spread และค่า Commission โบรกเกอร์ Forex ไหนดี?

🔻สำหรับการเปรียบเทียบคุณสมบัติด้านแรกในการเทรดสั้นของโบรกเกอร์ Forex พบว่า IUX Markets ค่อนข้างมีความโดดเด่นในด้านของค่า Spread มากกว่า Exness และ IC Markets โดยเฉพาะ XAU/USD (เทรดทอง) ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่สายเทรดสั้นนิยมลงทุนมากที่สุด ส่วนในด้านของค่า Commission ทั้ง 3 โบรกไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมส่วนนี้เพิ่มเติมครับ

*หมายเหตุ: เปรียบเทียบในบัญชี Standard เนื่องจากเป็นบัญชีมาตรฐานของทุกโบรก และเทรดเดอร์นิยมใช้มากที่สุด

🔻นอกจากนี้ รีวิวของผู้ใช้จริงส่วนใหญ่มีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ในช่วงที่มีข่าวค่า Spread ของ IUX Markets มีความเสถียรกว่าโบรกเกอร์รายอื่น เนื่องจากมีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น รองลงมา คือ Exness ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน แต่ในช่วงที่มีข่าวค่า Spread ของ Exness มักจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวแตกต่างกับช่วงเวลาปกติ ในขณะเดียวกัน IC Markets ก็มีรายงานเชิงลบเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่อนข้างมาก

*หมายเหตุ: สำหรับใครที่ต้องการเปรียบเทียบค่า Spread ของ IUX Markets และ Exness โดยตรง สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ซึ่งเรามีการบันทึกและแสดงค่าสเปรดในช่วงเวลาปกติ VS ช่วงที่มีข่าวไว้อย่างชัดเจน

ตารางเปรียบเทียบค่า Spread

IUX MarketsExnessIC Markets
เริ่มต้น0.2 pips0.2 pips1.0 pips
XAU/USD1.8 pips2.0 pips2.08 pips
EUR/USD0.8 pips1.0 pips1.0 pips
GBP/USD0.8 pips1.2 pips1.0 pips
USD/JPY0.8 pips1.1 pips1.0 pips

ตารางเปรียบเทียบค่า Commission

IUX MarketsExnessIC Markets
ค่า Commission

🔻บทความที่เกี่ยวข้อง: 5 โบรกเกอร์ Forex สเปรดต่ำ ค่าธรรมเนียมถูก ปี 2024 (อ่านเพิ่มเติม)

2. เปรียบเทียบระบบเทรดของโบรกเกอร์ Forex ไหนดี?

🔻จากการตรวจสอบรีวิวของผู้ใช้งานส่วนใหญ่ยังไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาด้าน Slippage และ Requote ของ IUX Markets ส่วนในด้านของ Exness และ IC Markets พบรายงานปัญหาด้านนี้อยู่บ้างโดยเฉพาะในช่วงที่มีข่าว

รีวิวระบบเทรด IUX Markets จากผู้ใช้จริง

รีวิว IUX Markets จากผู้ใช้งานจริง: “ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง ระบบการเทรดของ IUX Markets มีความเสถียรเป็นอย่างมาก” จาก Trustpilot

รีวิวระบบเทรด Exness จากผู้ใช้จริง

รีวิว Exness จากผู้ใช้งานจริง: “Exness ทำการปิดออเดอร์อัตโนมัติทั้ง ๆ ที่ผู้ใช้มี Margin เพียงพอ” จาก Trustpilot

รีวิวระบบเทรด ic markets จากผู้ใช้จริง

รีวิว IC Markets จากผู้ใช้งานจริง: “มีความคิดเห็นเชิงลบเกี่ยวกับการใช้ IC Markets เทรดในช่วงที่มีข่าว” จาก Facebook

3. เปรียบเทียบความเร็วในการฝากถอนโบรกเกอร์ Forex ไหนดีสำหรับเทรดสั้น?

🔻ความเร็วในการฝากถอนเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ดีของโบรกเกอร์ที่จะใช้ในการเทรดสั้น ซึ่งส่งผลทั้งในด้านการเพิ่มโอกาสทำกำไร และสภาพคล่องทางการเงินของคุณ โดยจากการตรวจสอบ พบว่า IUX Markets ค่อนข้างมีความได้เปรียบในเรื่องนี้มากกว่าโบรกเกอร์รายอื่น ซึ่งเราได้ทำการสรุปข้อมูลไว้ดังนี้

ตารางเปรียบเทียบความเร็วในการฝากถอน

IUX MarketsExnessIC Markets
ระยะเวลาการฝากเงินทันทีทันที15-30 นาที
ระยะเวลาการถอนเงินประมาณ 3-15 นาที
แต่ไม่เกิน 1 วันทำการ
ประมาณ 30 นาที
แต่ไม่เกิน 1 วันทำการ
ประมาณ 1 ชม.
แต่ไม่เกิน 2 วันทำการ

ความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง

รีวิวฝากถอน iux markets จากผู้ใช้จริง

รีวิว IUX Markets จากผู้ใช้งานจริง: “โบรกเกอร์ IUX Markets มีค่า Spread ต่ำ และถอนเงินได้เร็วมาก” จาก Trustpilot

รีวิวฝากถอน exness จากผู้ใช้จริง

รีวิว Exness จากผู้ใช้งานจริง: “ในช่วงเวลาปกติโบรกเกอร์ Exness มีค่า Spread ที่ค่อนข้างต่ำ และถอนเงินได้รวดเร็ว” จาก Trustpilot

รีวิวฝากถอน ic markets จากผู้ใช้จริง

รีวิว IC Markets จากผู้ใช้งานจริง: “ผู้ใช้รอการอนุมัติถอนเงินนานกว่า 2 วัน และยังไม่มีการอัปเดตใด ๆ จากทางโบรก” จาก Trustpilot

สรุป โบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะกับการเทรดสั้น

  • อันดับ 1 ได้แก่ IUX Markets เนื่องจากมีค่า Spread ต่ำ, ไม่มีปัญหาด้าน Slippage และ Requote รวมถึงฝากถอนเร็ว
  • อันดับ 2 ได้แก่ Exness เนื่องจากมีค่า Spread ต่ำ แต่ในช่วงที่มีข่าวสเปรดค่อนข้างถ่าง รวมถึงพบปัญหาด้าน Slippage และ Requote อยู่บ้าง แต่ในขณะเดียว Exness มีการฝากถอนที่ค่อนข้างรวดเร็ว
  • อันดับ 3 ได้แก่ IC Markets เนื่องจากมีค่า Spread ระดับกลาง แต่สเปรดค่อนข้างถ่างในช่วงข่าว รวมถึงพบปัญหาด้าน Slippage และ Requote ทั้งนี้ มีระยะเวลาการฝากถอนที่ช้ากว่า IUX Markets และ Exness

จากการเปรียบเทียบข้อมูลข้างต้น พบว่า โบรกเกอร์ Forex ที่มีความคุ้มค่าในด้านการเทรดสั้นมากที่สุด คือ IUX Markets รองลงมา คือ Exness และ IC Markets เนื่องจากมีค่า Spread ที่ค่อนข้างต่ำ แต่สำหรับค่าสเปรดในช่วงที่มีข่าวของ Exness และ IC Markets นั้นมีจำนวนสูงขึ้นกว่าเท่าตัว อีกทั้ง จากการตรวจสอบข้อมูลในด้านของระยะเวลาการฝากถอน พบว่า โบรกเกอร์ IUX Markets นั้นมีความได้เปรียบมากกว่าโบรกเกอร์รายอื่นมาก

*หมายเหตุ: หากคุณต้องการอ่านรีวิวของแต่ละโบรกอย่างละเอียด สามารถคลิก ที่นี่ เพื่อไปยังตารางที่เราได้ทำการแนบรีวิวฉบับเต็มของโบรกเกอร์แต่ละรายไว้ให้แล้วครับ

เปรียบเทียบโบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะกับการเทรดยาว

จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า IUX Markets และ XM มีคุณสมบัติโดยรวมที่ค่อนข้างตรงกับลักษณะการเทรดยาว ในขณะเดียวกับแต่ละโบรกก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันมากเช่นกัน ดังนั้น ในหัวข้อนี้เราจะทำการเปรียบเทียบในแต่ละคุณสมบัติ เพื่อให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น

เปรียบเทียบโบรกเกอร์ Forex เทรดยาว
  1. เปรียบเทียบค่า Swap
  2. เปรียบเทียบโบนัสเทรดฟรี
  3. เปรียบเทียบความเร็วในการฝากถอน

1. เปรียบเทียบค่า Swap โบรกเกอร์ Forex ไหนดี?

🔻ค่า Swap เป็นต้นทุนการเทรดที่คุณต้องจ่ายจำนวนมากในการเทรดยาว ดังนั้น การเลือกโบรกเกอร์ Free Swap ย่อมดีกว่าในทุก ๆ ด้าน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า IUX Markets ไม่คิดค่าสวอปในทุกสินทรัพย์และทุกประเภทบัญชี

🔻ส่วนในด้านของ XM มีการคิดค่า Swap เพิ่มเติมในทุกสินทรัพย์ โดยจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า XM มีค่า Swap ที่ค่อนข้างสูงโดยเฉพาะทองคำ แต่สำหรับใครต้องการ Free Swap จำเป็นต้องเปิดบัญชีมืออาชีพอย่าง XM Ultra Low เท่านั้น ซึ่งมีเงื่อนไขต่าง ๆ กำหนดไว้มาก

ตารางเปรียบเทียบค่า Swap

IUX MarketsXM
Long Swap: XAU/USD0-41.52 จุด
Short Swap: XAU/USD019.00 จุด
Long Swap: EUR/USD0-7.37 จุด
Short Swap: EUR/USD01.13 จุด
Long Swap: GBP/USD0-4.18 จุด
Short Swap: GBP/USD0-2.88 จุด
Long Swap: USD/JPY012.33 จุด
Short Swap: USD/JPY0-33.26 จุด

*หมายเหตุ: เปรียบเทียบในบัญชี Standard เนื่องจากเป็นบัญชีมาตรฐาน และเทรดเดอร์นิยมใช้มากที่สุด

🔻บทความที่เกี่ยวข้อง: ห้ามพลาด! 5 โบรกเกอร์ Free Swap แห่งปี 2024 (อ่านเพิ่มเติม)

2. เปรียบเทียบโบนัสเทรดฟรี โบรกเกอร์ Forex ไหนดี?

🔻สำหรับโบนัสเทรดฟรีของทั้ง 2 โบรกค่อนข้างมีความโดดเด่นเลยครับ โดยมีทั้งโบนัสไม่ต้องฝาก, โบนัสเงินฝาก และ Lot Back ซึ่งจะช่วยเพิ่ม Free Margin ของคุณได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ จำนวนโบนัสของ XM จะให้มากกว่า แต่แลกมาด้วยเงื่อนไขจำนวนมากเช่นกันครับ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ตารางเปรียบเทียบโบนัสไม่ต้องฝาก

IUX MarketsXM
จำนวน$30$30
เงื่อนไขการรับเฉพาะลูกค้าใหม่เฉพาะลูกค้าใหม่
เงื่อนไขการถอนกำไรมีปริมาณการเทรด 10 Micro Lot ขึ้นไป
และมีออเดอร์ที่ทำการปิดแล้ว 5 ออเดอร์ขึ้นไป

ตารางเปรียบเทียบโบนัสเงินฝาก

IUX MarketsXM
จำนวน 35% และ 25% รวมสูงสุด $3,300100% และ 20% รวมสูงสุด $10,500
เงื่อนไขการรับฝากขั้นต่ำ $10
ในบัญชี Standard+
ฝากขั้นต่ำ $5
ในบัญชี Micro และ Standard
เงื่อนไขการถอนกำไรมีปริมาณการเทรด 10 Micro Lot ขึ้นไป
และมีออเดอร์ที่ทำการปิดแล้ว 5 ออเดอร์ขึ้นไป

*หมายเหตุ: คุณสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับโบนัสฟรีของ IUX Markets ได้ “ที่นี่” และของ XM ได้ “ที่นี่”

ตารางเปรียบเทียบโปรแกรม Lot Back

🔻Lot Back เป็นการแลกจำนวน Lot จากการเทรดของคุณเป็น Ponit เพื่อนำไปแลกเป็นเครดิตโบนัสฟรีอีกที หมายความว่า ยิ่งคุณมี Lot Back มากเท่าไร จะสามารถแลกรับโบนัสได้มากเท่านั้นตามระดับที่คุณอยู่ (เทรดเดอร์จะถูกยกระดับขึ้นตามจำนวนวันที่ทำการเทรด) โดยทั้ง IUX Markets และ XM สามารถแลก Lot Back ได้เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันในด้านของสิทธิประโยชน์ ดังนี้

IUX MarketsXM
ระดับของเทรดเดอร์Risting Star 0.3 IRP/Lot
Champion 0.5 IRP/Lot
Elite 0.8 IRP/Lot
Executive 7 XMP/Lot
Gold 10 XMP/Lot
Diamond 13 XMP/Lot
Elite 16 XMP/Lot
จำนวนโบนัสที่แลกได้1 IRP = $1
(แลกได้เต็มจำนวน)
1 XMP = $1/3
(แต้มจะมีการหาร 3 ทุกครั้ง)
ใช้แต้มแลกเป็นเงินสด✅*

*หมายเหตุ: เงื่อนไขของการแลก Point เป็นเงินสด คือ แต้มที่คุณได้รับจะถูกหาร 2 ทุกครั้ง และจะถูกเพิ่มเข้าไปอยู่ใน Balance โดยคุณสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Lot Back ของ IUX Markets ได้ “ที่นี่” และของ XM ได้ “ที่นี่”

3. เปรียบเทียบความเร็วในการฝากถอน โบรกเกอร์ Forex ไหนดีสำหรับเทรดยาว?

🔻ความเร็วในการฝากเงินของโบรกเกอร์ Forex จะช่วยให้พอร์ตของคุณปลอดภัยในช่วงที่ราคาเกิดความผันผวนสูงจากข่าว ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่ม Margin Level ได้ทันท่วงที และความเร็วในการถอนเงินของโบรกเกอร์นั้นมีผลต่อการวางแผนการเงินของคุณโดยตรง โดยจากการตรวจสอบ พบว่า IUX Markets มีความรวดเร็วในการฝากถอนมากกว่า XM ค่อนข้างมาก ซึ่งเราได้ทำการสรุปข้อมูลไว้ดังนี้

ตารางเปรียบเทียบความเร็วในการฝากถอน

IUX MarketsXM
ระยะเวลาการฝากเงินทันที5-15 นาที
แต่ไม่เกิน 1 วันทำการ
ระยะเวลาการถอนเงินประมาณ 3-15 นาที
แต่ไม่เกิน 1 วันทำการ
ประมาณ 5 นาที – 1 ชั่วโมง
แต่ไม่เกิน 2-5 วันทำการ

ความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง

รีวิวฝากถอน iux markets จากผู้ใช้จริง 2

รีวิว IUX Markets จากผู้ใช้งานจริง: “IUX Markets ถอนได้เร็วมาก เสร็จภายใน 5-10 นาที” จาก Trustpilot

รีวิวฝากถอน xm จากผู้ใช้จริง

รีวิว XM จากผู้ใช้งานจริง: “XM ฝากเงินเร็ว แต่ถอนเงินได้ช้ามาก ซึ่งทำให้ผู้ใช้ไม่พอใจเป็นอย่างมาก” จาก Trustpilot

สรุป โบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะกับการเทรดยาว

  • อันดับ 1 ได้แก่ IUX Markets เนื่องจากมี Free Swap ทุกสินทรัพย์และทุกประเภทบัญชี, มีโบนัส และฝากถอนรวดเร็ว
  • อันดับ 2 ได้แก่ XM เนื่องจากมี Free Swap เฉพาะในบัญชีมืออาชีพ, มีโบนัสแต่กำหนดเงื่อนไขในการถอนไว้มาก และมีการฝากถอนที่ช้ากว่าทาง IUX Markets

จากการเปรียบเทียบข้อมูลข้างต้น พบว่า IUX Markets เป็นโบรกเกอร์ที่คุ้มค่าในด้านการเทรดยาวมากกว่า XM เนื่องจาก Free Swap โดยไม่มีเงื่อนไข และมีความเร็วในการฝากถอนที่ได้เปรียบมากกว่า ในขณะเดียวกัน โปรโมชันโบนัสของ XM มีความโดดเด่นมากกว่า แต่มีเงื่อนไขกำหนดไว้มากในการถอนกำไรครับ

*หมายเหตุ: หากคุณต้องการอ่านรีวิวแต่ละโบรกเกอร์เพิ่มเติม สามารถคลิก ที่นี่ เพื่อไปยังตารางที่เราได้ทำการแนบรีวิวฉบับเต็มของโบรกเกอร์ในแต่ละรายไว้ให้แล้วครับ

. . . . . . . . . . . . . . .

การเลือกโบรกเกอร์ Forex จำเป็นอย่างมากที่ต้องเหมาะกับสไตล์การเทรดของแต่ละบุคคล เพื่อลดต้นทุนการเทรดที่ไม่จำเป็น และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้ได้มากที่สุด ซึ่งจากการเปรียบเทียบคุณสมบัติหลาย ๆ ด้านที่เหมาะกับการเทรดสั้นและเทรดยาว พบว่า มีโบรกเกอร์อยู่ 4 รายที่มีคุณสมบัติในภาพรวมที่เหมาะสม ได้แก่ IUX Markets, Exness, IC Markets และ XM โดยมีรายละเอียดดังนี้

โบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะกับการเทรดสั้น

  • อันดับ 1 : IUX Markets
  • อันดับ 2 : Exness
  • อันดับ 3 : IC Markets

โบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะกับการเทรดยาว

  • อันดับ 1 : IUX Markets
  • อันดับ 2 : XM

อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุกครั้ง และการเลือกโบรกเกอร์ Forex จำเป็นต้องคำนึงถึงคุณสมบัติหลาย ๆ ด้าน และที่สำคัญโบรกเกอร์ต้องมีความน่าเชื่อถือ รวมถึงมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์กับสไตล์การเทรดของคุณ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกโบรกเกอร์สำหรับเทรดสั้น VS เทรดยาว

เทรดสั้น Forex โบรกไหนดี?

สำหรับโบรกเกอร์ที่เหมาะกับการเทรดสั้น ได้แก่ IUX Markets, Exness และ IC Markets โดย IUX Markets มีค่าสเปรดที่ต่ำที่สุดโดยเฉพาะในช่วงที่มีข่าว และไม่พบรายงานเกี่ยวกับ Slippage และ Requote ส่วนในด้านของ Exness และ IC Markets มีค่าสเปรดค่อนข้างสูงในช่วงข่าว และพบรายงานปัญหาเกี่ยวกับระบบเทรดอยู่บ้าง

เทรดยาว Forex โบรกไหนดี?

สำหรับโบรกเกอร์ที่เหมาะกับการเทรดยาว ได้แก่ IUX Markets และ XM เนื่องจาก IUX Markets ไม่คิดค่าสวอปในทุกสินทรัพย์และทุกประเภทบัญชี แต่ในด้านของ XM ไม่คิดค่าสวอปเฉพาะในบัญชีมืออาชีพเท่านั้น


อ่านบทความเพิ่มเติม: สาระน่ารู้

วิเคราะห์ราคาทองคำรายวัน: วิเคราะห์ราคาทองคำ และ Facebook Page

Social Share
Facebook
Twitter