
สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้พี่โบ้จะพาทุกคนไปรู้จักกับโบรกเกอร์สัญชาติเอเชียกันบ้างครับ นั่นก็คือ โบรกเกอร์ Doo Prime นั่นเอง ซึ่งหากเพื่อน ๆ เป็นคนที่อยู่ในแวดวงของการลงทุน ก็คงจะเคยได้ยินโบรกเกอร์ชื่อนี้ผ่านหูกันบ้างใช่ไหมล่ะครับ แต่สำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังไม่เคยรู้จัก หรือได้ยินชื่อนี้มาก่อน ไม่ต้องกังวลไปครับ วันนี้พี่โบ้จะพาทุกคนไปรู้จักกับ โบรกเกอร์นี้ ผ่านประสบการณ์การใช้ที่พี่โบ้เขียนไว้ในบทความรีวิวนี้เองครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา ไปดูพร้อมกันเลย
1. ประวัติของ โบรกเกอร์ Doo Prime

โบรกเกอร์นี้เป็นโบรกเกอร์สัญชาติฮ่องกง ที่ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี 2014 ครับ สำนักงานใหญ่จะอยู่ที่ฮ่องกง นอกจากนั้น ยังมีสำนักงานอยู่อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ดูไบ ไต้หวัน สิงค์โปร สหรัฐอเมริกา และอื่น ๆ ครับ จุดเด่นของโบรกเกอร์นี้คือ มีเครื่องมือที่ใช้ในการซื้อและขายให้เลือกอย่างหลากหลาย รวมถึงหน้าเว็บหลักรองรับภาษาถึง 5 ภาษา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ภาษาไทย และส่วนใหญ่ภาษาที่รองรับจะเป็นภาษาของประเทศในโซนเอเชีย เนื่องจากที่พี่โบ้ไปตอนแรกครับว่า โบรกเกอร์นี้เป็นโบรกเกอร์สัญชาติเอเชียนั่นเอง ที่สำคัญคือ Doo Prime ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือถึง 6 ใบเลยนะครับ จุดนี้จะทำให้เรารู้ว่า โบรกเกอร์นี้มีความปลอดภัยสูงมาก เพราะต้องปฏิบัติตามกฎของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้มงวดนั่นเอง นี่ก็คือประวัติอย่างคร่าว ๆ ของโบรกเกอร์นี้ครับ ต่อไปเราไปดูพร้อมกันดีกว่าว่า โบรกเกอร์นี้มีดีอย่างไรบ้าง
2. ใบอนุญาต
- ได้รับใบอนุญาต FSA หมายเลข SD090
- ได้รับใบอนุญาต FINRA หมายเลข 24409
- ได้รับใบอนุญาต VFSC หมายเลข 700238
- ได้รับใบอนุญาต ASIC หมายเลข 222650
- ได้รับใบอนุญาต FSC หมายเลข 172054
- ได้รับใบอนุญาต FCA หมายเลข 833414
4. ประเภทบัญชี
Doo Prime ก็เป็นอีกโบรกเกอร์หนึ่งที่มีประเภทบัญชีให้เพื่อน ๆ เลือกใช้อย่างหลากหลายครับ ไม่ว่าจะเป็น

บัญชี Cent
บัญชีนี้จะเป็นประเภทบัญชีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของทางโบรกเกอร์ครับ เนื่องจากจำนวนเงินฝากขั้นต่ำค่อนข้างน้อยหากเทียบกับประเภทบัญชีอื่น ๆ นั่นก็คืออยู่ที่ 100 USC ครับ
บัญชี STP
บัญชีประเภทนี้ จะเป็นบัญชีพื้นฐาน ซึ่งไม่มีค่าธรรมเนียม และค่า spread ต่ำครับ ส่วนเงินฝากขั้นต่ำนั้น จะอยู่ที่ 100 USD
บัญชี ECN
สำหรับบัญชี ECN นั้น จะเป็นบัญชีที่มีไว้สำหรับมืออาชีพครับ บัญชีประเภทนี้จะมีค่า spread ที่ต่ำมาก เพราะส่งคำสั่งไปตลาดโดยตรงครับ แต่จะมีเงินฝากขั้นต่ำที่ค่อนข้างสูงหน่อย นั่นก็คือ 5000 USD
5. ช่องทางการฝาก-ถอน
มาถึงช่องทางการฝากเงินและถอนเงินครับ โบรกเกอร์นี้ จะมีช่องทางการทำธุรกรรมให้เพื่อน ๆ เลือกมากมายถึง 20 ช่องทางเลยครับ ซึ่งรองรับสกุลเงินทั่วโลกกว่า 22 สกุลเงิน

6. ผลิตภัณฑ์ที่สามารถเทรดได้
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ทาง Doo Prime มีให้เพื่อน ๆ เลือกเทรด จะประกอบด้วย หลักทรัพย์, ฟิวเจอรส์, Forex, โลหะมีค่า, สินค้าโภคภัณฑ์, และดัชนีหุ้น ซึ่งพี่โบ้ว่า ค่อนข้างครบจบที่เดียวเลยนะครับ

7. Platform ที่ใช้เทรด
สำหรับ Platform ที่ Doo Prime มีให้เลือกใช้ก็มีอยู่หลาย Platform มาก ๆ เลยครับ ซึ่งประกอบไปด้วย MT4, MT5, Doo Prime InTrade, Trading View, และ FIX API 4.4 โดยเกือบทุก Platform สามารถใช้งานได้ทั้งเวอร์ชั่น PC และ มือถือ ยกเว้นแค่ Trading View แลพ FIX API ที่ไม่มีเวอร์ชั่นมือถือครับ

8. จุดแข็ง-จุดอ่อนของ โบรกเกอร์ Doo Prime
จุดแข็ง
- มีความปลอดภัยสูงมาก เนื่องจากได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่มีความน่าเชื่อถือ
- หน้าเว็บรองรับภาษาไทย
- มีระบบ Social Trading
จุดอ่อน
- จำนวนเงินฝากขั้นต่ำของบัญชีประเภท ECN ค่อนข้างสูง
- ถึงแม้จะมีผลิตภัณฑ์ให้เทรดอย่างหลากหลาย แต่ไม่มีคริปโต ฯ
- ไม่มีโบนัสเงินฝาก
9. สรุปภาพรวมของ โบรกเกอร์ Doo Prime
สุดท้ายนี้ พี่โบ้ขอกล่าวโดยสรุปว่า โบรกเกอร์นี้ ก็เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่น่าสนใจในปีนี้เลยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเราชาวคนไทย เพราะอย่างที่พี่โบ้บอกไปตอนต้นครับว่า โบรกเกอร์นี้ เป็นโบรกเกอร์สัญชาติเอเชีย ดังนั้น อาจจะมีโปรโมชั่นดี ๆ ที่เอื้อผลประโยชน์ให้เราได้นั่นเองครับ ซึ่งหากเพื่อน ๆ รู้สึกสนใจโบรกเกอร์นี้ สามารถลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ และอย่าลืมนะครับว่า การลงทุนมีความเสี่ยง เพื่อน ๆ ควรทำความเข้าใจกับสิ่งที่จะลงทุนก่อนตัดสินใจนะครับ ด้วยความเป็นห่วงจากพี่โบ้ครับ สำหรับวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีครับ
Source: ทีมงาน Traderbobo
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: สาระน่ารู้
อ่านรีวิวโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่: Review Broker