
ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ (18 มี.ค.) แต่ยังคงลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากที่การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนในสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมันหลังจากรัสเซียถูกคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมัน
ตลาดได้รับเเรงหนุนจากหลายปัจจัย ดังนี้
- สัญญาน้ำมันได้แรงหนุนหลังรัสเซียเปิดเผยว่า การเจรจาวันที่ 4 กับยูเครน ยังไม่บรรลุข้อตกลงแต่อย่างใด แม้การเจรจาจะมีความคืบหน้าบางส่วนในช่วงต้นสัปดาห์ก่อนก็ตาม
- แรงหนุนจากความวิตกด้านอุปทานน้ำมันตึงตัว ขณะที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย และสต็อกน้ำมันลดลง
- ผลผลิตน้ำมันจากกลุ่มโอเปกพลัสที่ต่ำเป้าหมายในเดือน ก.พ. ได้ช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบขึ้นด้วย
- ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนหลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานเตือนเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน โดยมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ส่งผลให้รัสเซียไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันอื่น ๆ รวม 3 ล้านบาร์เรล/วันในเดือน เม.ย. ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะลดลงเพียง 1 ล้านบาร์เรล/วัน
การผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ยังเป็นไปอย่างจำกัดหลังรัสเซียบุกยูเครน โดยเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 3 แท่น เหลือ 524 แท่นในสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความวิตกด้านอุปสงค์หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นในจีน และการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านถ่วงตลาดอีกด้วย