น้ำมันดิบ WTI ปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 90 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 7 ปีในวันพฤหัสบดี (3 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นจัดทั่วสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมัน และทำให้ความต้องการใช้เชื้อเพลิงปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย เเละตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุมครั้งล่าสุด
ฟิล ไฟน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท The Price Futures Group กล่าวว่า สภาพอากาศหนาวเย็นอันเนื่องมาจากพายุฤดูหนาวในสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมัน และอาจทำให้โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งต้องปิดทำการ ที่สำคัญอากาศที่หนาวเย็นจัดยังส่งผลให้ความต้องการใช้เชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นด้วย
อีกทั้งตลาดน้ำมันยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการที่โอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือน มี.ค. แม้ถูกกดดันจากสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรที่ต้องการให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตน้ำมันมากกว่านี้เพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล
