ราคาน้ำมันดิบปิดร่วงลงกว่า 12% ในวันพุธ (9 มี.ค.) หลังจากสหรัฐฯ อาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ประกาศสนับสนุนการผลิตน้ำมันเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อบรรเทาภาวะอุปทานขาดแคลนอันเนื่องมาจากรัสเซียถูกนานาประเทศคว่ำบาตรฐานใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน
นายยูซุฟ อัล โอไทบา เอกอัคราชทูต UAE ประจำสหรัฐฯ กล่าวว่า UAE สนับสนุนการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น และให้คำมั่นว่าจะผลักดันให้สมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พิจารณาเพิ่มการผลิตน้ำมัน เพื่อคลี่คลายปัญหาด้านอุปทานหลังจากที่นานาประเทศประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย
อีกทั้งทางด้านนางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ได้ออกมาเรียกร้องให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลกเร่งเพิ่มการผลิต โดยกล่าวว่า “วิกฤตการณ์พลังงานในขณะนี้เกิดขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และในยามวิกฤตเช่นนี้จำเป็นต้องผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้น”
นอกจากนั้นสัญญาน้ำมันยังร่วงลงอีกครั้งหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ประกาศความพร้อมที่จะระบายน้ำมันมากขึ้นอีกหากมีความจำเป็น นอกเหนือไปจากจำนวน 60 ล้านบาร์เรลที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในขณะนี้
อย่างไรก็ตามตลาดน้ำมันยังถูกกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 1.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 700,000 บาร์เรล
