หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า โดยทั่วไปแล้วในตลาดการเงินจะเรียกผู้ลงทุนว่า ‘นักเทรด’ หรือ ‘เทรดเดอร์’ โดยเทรดเดอร์นั้นจะมีอยู่หลายประเภท ซึ่งจำแนกจากรูปแบบการเทรดที่แตกต่างกันออกไป สำหรับบทความนี้จะอธิบายถึง ประเภทของเทรดเดอร์ ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อที่นักลงทุนจะได้เข้าใจการเทรดของตนเอง และนำไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม และทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ประเภทของเทรดเดอร์ 4 ประเภท
1. เทรดเดอร์ระยะสั้น
มาเริ่มกันที่เทรดเดอร์ประเภทแรกเลยครับ นั่นก็คือ เทรดเดอร์ระยะสั้น เทรดเดอร์ประเภทนี้ จะเป็นเทรดเดอร์ที่ชอบทำกำไรอย่างรวดเร็ว จะเข้าออกตลาดจำนวนหลายครั้ง มักใช้กรอบเวลาเพียง 1 นาที และ 5 นาที โดยเทรดเดอร์ประเภทนี้ จะทำกำไรวันละเล็กน้อย แต่จะเข้ามาทำทุกวันครับ เทรดเดอร์ประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะชอบความตื่นเต้นของการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของกราฟ และอุทิศเวลาให้กับการเฝ้ากราฟแทบทั้งวัน
ข้อได้เปรียบของเทรดเดอร์ระยะสั้น
- สามารถทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว
2. เทรดเดอร์รายวัน
มาต่อกันที่เทรดเดอร์ประเภทที่ 2 นั่นก็คือ เทรดเดอร์รายวัน เทรดเดอร์ประเภทนี้ ส่วนมากมักจะเข้ามาเทรดตั้งแต่เริ่มต้นวัน และจะปิดออเดอร์ก่อนที่จะหมดวัน ซึ่งเทรดเดอร์ประเภทนี้จะไม่ถือไว้ข้ามคืน ส่วนมากมักใช้กรอบเวลาอยู่ที่ 15 นาที และ 30 นาที
ข้อได้เปรียบของเทรดเดอร์รายวัน
- นอนหลับได้อย่างสนิท เพราะไม่มีสถานการณ์ที่จะต้องเปิดเทรดทิ้งไว้
- วิเคราะห์ได้ง่าย เพียงแค่ติดตามข่าวในแต่ละวัน
- คำนวณขนาดคำสั่งง่าย เพราะไม่มีออเดอร์ค้าง ทำให้คำนวณการบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น
- 90% ทำกำไรจาก Block Trade โดยใช้ต้นทุนที่น้อยกว่า
- Wear to Earn NFTs คืออะไร ?
- 5 ข้อสุดกวน ชวนให้นักลงทุนมือใหม่กว่า 90% “ขาดทุนจากคริปโต”
- ‘ ทองคำ ‘ โอกาสในการลงทุนปี 2022
- Free Float คืออะไร ? สำคัญอย่างไรในตลาดหุ้น
3. เทรดเดอร์ระยะกลาง
เทรดเดอร์ประเภทต่อมาก็คือ เทรดเดอร์ระยะกลาง เทรดเดอร์ประเภทนี้ จะถือออเดอร์ค้างไว้เกินหนึ่งวัน แต่จะไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ครับ และมักใช้กรอบเวลาอยู่ที่ 1 ชั่วโมง และ 4 ชั่วโมง ซึ่งพี่โบ้ว่า เทรดเดอร์ประเภทนี้ เหมาะกับผู้ที่ทำงานประจำอยู่แล้ว ไม่ค่อยมีเวลามากนัก ที่สำคัญ การเทรดในระยะกลางนี้ จะต้องระวังมากกว่าระยะสั้นและรายวัน เนื่องจากต้องดูสัญญาณหลาย ๆ อย่าง รวมกันก่อนการเทรด และเทรดเดอร์ประเภทนี้จะไม่ใส่ใจกับความผันผวนระหว่างวันมากเท่าไร แต่จะให้ความสำคัญกับแนวโน้มในระยะกลางค่อนข้างมาก
ข้อได้เปรียบของเทรดเดอร์ระยะกลาง
- ประหยัดเวลา
- ลดโอกาสการแทรกแซงของออเดอร์อื่น
4. เทรดเดอร์ระยะยาว
ต่อมาคือ เทรดเดอร์ระยะยาว เทรดเดอร์ประเภทนี้ จะไม่มีขอบเขตเวลา ดังนั้นจึงสามารถทิ้งออเดอร์ไว้ได้หลายสัปดาห์ หรือหลายเดือนเลยครับ ซึ่งเทรดเดอร์ประเภทนี้ มักจะเป็นเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์สูง และจำเป็นจะต้องมีบัญชีซื้อขายขนาดใหญ่ เพื่อให้ทนกับการแกว่งตัวของตลาด
ข้อได้เปรียบของเทรดเดอร์ระยะยาว
- ต้นทุนในการทำธุรกรรมต่ำ เพราะเปิด-ปิด ออเดอร์จำนวนน้อยครั้ง
5. เทรดเดอร์ตามระบบ
มาถึงเทรดเดอร์ประเภทสุดท้ายครับ นั่นก็คือ เทรดเดอร์ตามระบบ เทรดเดอร์ประเภทนี้ จะใช้ระบบเข้ามาช่วย หรือมีเครื่องมือต่าง ๆ ในการช่วยเทรดนั่นเอง แต่ก็ใช่ว่าจะดีเสมอไปนะครัย เพราะอย่างที่เราทราบกันว่า ตลาดอาจผันผวนเมื่อไหร่ก็ได้ ดังนั้น ทำให้เทรดเดอร์จะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อยู่ตลอด
ข้อได้เปรียบของเทรดเดอร์ตามระบบ
- ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา
- มีเวลาว่าง
- การซื้อขายมีความยืดหยุ่น
อย่างไรก็ตาม ประเภทของเทรดเดอร์ ที่ได้กล่าวไปนั้นเป็นการจำแนกโดยลักษณะการเทรด ซึ่งจะมีข้อได้เปรียบที่แตกต่างกันออกไป หากใครคิดว่า ตนเองเหมาะที่จะเทรดแบบใด ก็ให้มุ่งมั่นไปทางนั้นและไม่โลเล จะทำให้การเทรดของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น
Source: ทีมงาน Traderbobo
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: สาระน่ารู้
อ่านรีวิวโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่: Review Broker