Market Watch จับตาดูโลก วันที่ 8 สิงหาคม 2565

Table of Contents
Market Watch

Market Watch จับตาดูโลก

Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อศุกร์ (5 ส.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้นขานรับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น สวนทางกับตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลง หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในเดือนหน้า

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันศุกร์ (5 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้นขานรับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง โดยถูกกดดันจากหุ้นเทสลาและหุ้นเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ปรับตัวลง หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) อาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อที่ระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปี

Dow Jones +0.23%

S&P500 -0.16%

Nasdaq -0.50%

ส่วนหุ้น 6 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดลบ โดยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร ปรับตัวลงมากที่สุด 1.66% และ 0.88% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นมากที่สุด 2.04%

หุ้นเทสลา ร่วงลง 6.6% และถ่วงดัชนี S&P500 และ Nasdaq ลงมากที่สุด ขณะที่หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ร่วงลง 2% และหุ้นแอมะซอน ร่วงลง 1.2%

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 68.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 31.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%

การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งช่วยหนุนหุ้นรายตัว โดยหุ้นลิฟต์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทบริการรับ-ส่งผู้โดยสาร พุ่งขึ้น 17% หลังเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสสูงเป็นประวัติการณ์ และคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินงานที่ระดับ 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567

ในสัปดาห์หน้า นักลงทุนจะมุ่งคว ามสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ โดยคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ จะพุ่งขึ้น 8.7% ในเดือนก.ค. หลังพุ่งขึ้น 9.1% ในเดือนมิ.ย.

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลดลงในวันศุกร์ (5 ส.ค.) หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในเดือนหน้า นอกจากนี้ ความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซาของยุโรปถ่วงตลาดลงด้วย

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 435.72 จุด ลดลง 3.34 จุด หรือ -0.76% และปรับตัวลง 0.6% ในรอบสัปดาห์นี้

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,472.35 จุด ลดลง 41.04 จุด หรือ -0.63%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,573.93 จุด ลดลง88.75 จุด หรือ -0.65% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,439.74 จุด ลดลง 8.32 จุด หรือ -0.11%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนก.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในเดือนก.ย.

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของยูโรโซน, ความตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น และความวิตกว่าอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

ส่วนหุ้นรายตัวที่ปรับตัวลง อาทิ หุ้นอลิอันซ์ ร่วงลง 1.6% หลังเปิดเผยผลกำไรรายไตรมาสลดลงเกินคาด 23%

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้น 1.1% โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองแดงและราคาโลหะพื้นฐานอื่น ๆ และหุ้นกลุ่มน้ำมันบวกขึ้นเช่นกัน 0.6% โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้น

หุ้นดอยซ์ โพสต์ พุ่งขึ้น 4.6% หลังเปิดเผยรายได้ขยายตัวเป็นตัวเลขสองหลักในไตรมาส 2/2565

Social Share
Facebook
Twitter