การเทรด forex สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนเริ่มแรก คือ การเลือกโบรกเกอร์ ในแต่ละโบรกเกอร์จะมีบัญชีให้เลือกเทรดมากมายหลายประเภท ในที่นี้เราจะมาพูดถึงบัญชีรูปแบบสเปรดลอยตัว และบัญชีในรูปแบบสเปรดคงที่ ซึ่งทั้งสองบัญชีนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร และมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร เทรดเด้อจะพาไปหาคำตอบครับ...
บัญชีแบบสเปรดลอยตัว
โดยส่วนใหญ่แล้วเกือบทุกโบรกเกอร์จะเป็นรูปแบบบัญชีประเภทนี้ คำว่าสเปรดแบบลอยตัว คือ ไม่มีการ Fix สเปรดไว้ ยกตัวอย่างเช่น EUR/USD มีสเปรดอยู่ที่ 15 เมื่อระยะเวลาผ่านไปอาจจะเพิ่มเป็น 20 หรือมากกว่านั้นก็ได้ หากสภาวะตลาดไม่ปกติหรือผันหวนมาก เช่น ช่วงที่มีข่าวรุนแรง ช่วงเวลาหลังจากตลาดเปิดได้ไม่นาน หรือช่วงที่ตลาดใกล้ปิด
ข้อดี
– ในตลาดสภาวะปกติจะมีสเปรดที่ต่ำ
– พบได้ง่ายในโบรกเกอร์ทั่วไป
ข้อเสีย
– ในช่วงที่ตลาดสภาวะไม่ปกติ หรือมีความผันผวน ค่าสเปรดจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
บัญชีแบบสเปรดคงที่
โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะไม่มีบัญชีรูปแบบนี้ เพราะต้องใช้เงินทุนมากในการเทรด เหมาะกับการลงทุนขนาดใหญ่ บัญชีแบบสเปรดคงที่มีความหมายที่ตรงตัวเลยครับ คือ ค่าสเปรดจะไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าตลาดจะอยู่ในสภาวะใด เช่น EUR/USD มีสเปรดอยู่ที่ 20 เมื่อระยะเวลาผ่านไปก็ยังคงมีสเปรดอยู่ที่ 20 เท่าเดิม แต่โดยปกติแล้วบัญชีประเภทนี้จะมีค่าสเปรดที่สูงกว่าบัญชีแบบสเปรดลอยตัวในสภาวะปกติค่อนข้างมาก
ข้อดี
– ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าสเปรด
ข้อเสีย
– มีค่าสเปรดสูงกว่าบัญชีสเปรดแบบลอยตัว
– พบในยากในโบรกเกอร์ทั่วไป และไม่เป็นที่นิยม
– มี reverage ที่ต่ำ ทำให้ต้องใช้เงินลงทุนมาก
ไม่ว่าจะทั้งบัญชีแบบสเปรดลอยตัว หรือสเปรดแบบคงที่ ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนั้นนักเทรดควรศึกษาให้ดี และเลือกรูปแบบที่เหมาะกับตนเองดีที่สุดครับ 🙂
อ่านบทความเพิ่มเติม: สาระน่ารู้
วิเคราะห์ราคาทองคำรายวัน: วิเคราะห์ราคาทองคำ และ Facebook Page