
Gold Spot ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันอังคาร (24 พ.ค.) เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ภายหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ ท่ามกลางความกังวลว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมจากเมื่อวานที่ผ่านมา
Gold Spot ปิดในแดนบวก หลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.21% แตะที่ 101.8580 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะทำให้สัญญาทองคำ ซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ซึ่งดอลลาร์อ่อนค่าจากแรงกดดันการแข็งค่าของยูโร ขานรับการคาดการณ์ที่ธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในเดือน ก.ค. และ ก.ย.
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลง 16.6% สู่ระดับ 591,000 ยูนิตในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 750,000 ยูนิต จากระดับ 709,000 ยูนิตในเดือน มี.ค.
ทางด้านเอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือน พ.ค. ของสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับ 57.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 59.2 ในเดือน เม.ย. และดัชนี PMI ภาคบริการดิ่งลงสู่ระดับ 53.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 55.6 ในเดือน เม.ย.
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมเดือน พ.ค. ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐฯ เพื่อหาทิศทางอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ของเฟด