ราคาทองคำปิดลบในวันพุธ (2 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยฉุดตลาด เนื่องจากจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเกือบ 600 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 1.5% หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือน มี.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ว่าจะปรับขึ้น 0.50% ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ซื้อทองคำสุทธิ 7.84 ตันจากเมื่อวาน
ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง (ADP) ระบุว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่งในเดือน ก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 400,000 ตำแหน่ง
คืนนี้สหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 223,000 ราย ดัชนี PMI ภาคบริการเดือน ก.พ. โดย ISM ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2 จาก 59.9 ในเดือน ม.ค. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน ม.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8% หลังจากที่ลดลง 0.4% ในเดือน ธ.ค. นอกจากนี้ติดตามการแถลงการณ์นโยบายการเงินของประธานเฟดต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 3 มี.ค. ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐฯ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย
