ราคาทองคำปิดลดลงในวันศุกร์ (11 มี.ค.) โดยถูกกดดันจากการที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และนักลงทุนขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเปิดเผยว่า มีความคืบหน้าในการเจรจาเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน
ราคาทองคำ Spot สัปดาห์ที่ผ่านมามีความผันผวนอย่างมาก โดยในช่วงต้นสัปดาห์ราคาทองคำปรับขึ้นร้อนแรงทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2563 เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงและผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ จากที่สหรัฐฯ ประกาศจะคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย อย่างไรก็ตามช่วงกลางถึงท้ายสัปดาห์ราคาทองเกิดแรงเทขายออกมามาก เนื่องจากการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนเริ่มมีความคืบหน้ามากขึ้น ทำให้นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน
อีกทั้งการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ นอกจากนี้ราคาทองยังถูกกดดันจากการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ซื้อทองคำสุทธิ 9.87 ตันจากสัปดาห์ก่อน
สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในวันที่ 15-16 มี.ค. ซึ่งตลาดคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 25% มาสู่ระดับ 0.25%-0.50% นอกจากนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.พ. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.0% เมื่อเทียบกับรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 10.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี จาก 9.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี
