Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2565

Table of Contents
market watch
Market Watch จับตาดูโลก

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงลงกว่า 600 จุด ในวันพฤหัสบดี (9 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะยังคงอยู่ในระดับสูง และผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด

Dow Jones -1.94%

S&P500 -2.38%

Nasdaq -2.75%

ภาวะเงินเฟ้อส่งผลกระทบให้บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ขณะที่ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นเหนือระดับ 26 จุด เป็นครั้งแรกในเดือนนี้

โดยนักลงทุนกังวลว่า การที่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูง และการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย โดยนักลงทุนจับตาการประชุมเฟดครั้งต่อไปในวันที่ 14-15 มิ.ย. อย่างใกล้ชิด

นอกจากนั้น นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ค. ของสหรัฐฯ ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวดาวโจนส์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 5.9% ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 6.2% ในเดือน เม.ย. และคาดว่าดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 8.3% ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังปรับตัวขึ้น 8.3% ในเดือน เม.ย. เช่นกัน

ส่งผลให้หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร โดยหุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ (เฟซบุ๊ก) ดิ่งลง 6.43%, หุ้นทวิตเตอร์ ร่วงลง 2.27%, หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 3.6%, หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 4.96%, หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 2.01% และหุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.08%

หุ้นกลุ่มกาสิโนร่วงลงอย่างหนักเช่นกัน โดยหุ้นลาสเวกัส แซนด์ส ดิ่งลง 5.62%, หุ้นซีซาร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ร่วงลง 3.82% และหุ้นเอ็มจีเอ็ม รีสอร์ท ร่วงลง 3.04%

อีกทั้ง ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 3.073% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. ปีนี้ รวมทั้งตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้น 27,000 ราย สู่ระดับ 229,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 210,000 ราย

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ร่วงลงในวันพฤหัสบดี (9 มิ.ย.) หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อ และปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้

Stoxx Europe 600 -1.36%

CAC-40 -1.40%

DAX -1.71%

FTSE 100 -1.54%

ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง หลัง ECB เปิดเผยในการประชุมในวันพฤหัสบดีว่า จะยุติโครงการซื้อพันธบัตรในวันที่ 1 ก.ค. และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีในเดือน ก.ค. และอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในเดือน ก.ย.

ทั้งนี้ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันพฤหัสบดี โดยคงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

ECB คาดว่า เงินเฟ้อเฉลี่ยในปีนี้อยู่ที่ 6.8% สูงกว่า 5.1% ที่คาดไว้ในเดือน มี.ค. และสูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% ขณะที่ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจลงเหลือ 2.8% ในปีนี้ จากเดิมที่ 3.7%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วยุโรปพุ่งขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ของอิตาลีพุ่งขึ้นมากกว่า 0.20% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2561

ตลาดหุ้นต่าง ๆ ในยุโรปปรับตัวลงตามกัน โดยหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งปกติแล้วจะได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นนั้น ร่วงลง 1.2%

บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ประจำเดือน พ.ค. ในวันศุกร์นี้ ก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในสัปดาห์หน้า โดยเฟดได้ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือน มิ.ย. และ ก.ค.

เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดลบ เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และอังกฤษยังคงอยู่ในระดับสูง ผลัดดันให้ธนาคารกลางอาจเพิ่มอัตราขึ้นของดอกเบี้ย อีกทั้งยังปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้

Social Share
Facebook
Twitter