Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2565

Table of Contents

Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเกือบ 200 จุด เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่ปลอดภัย และสามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี เช่น หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค สวนทางกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลง เนื่องจากกิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนชะลอตัวลงอย่างมาก ในเดือน มิ.ย.

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเกือบ 200 จุด ในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่ปลอดภัย และสามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี (Defensive Stocks) เช่น หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค และกลุ่มเฮลธ์แคร์ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังเป็นปัจจัยช่วยหนุนตลาด

Dow Jones +0.64%

S&P500 +0.95%

Nasdaq +1.62%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในแดนบวก หลังจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นปลอดภัย โดยดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพุ่งขึ้น 2.4% นำโดยหุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 3.24%, หุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น พุ่งขึ้น 1.3% และหุ้นพอร์ทแลนด์ เจเนอรัล อิเล็กทริก ดีดขึ้น 1.28%

ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นปลอดภัย ดีดตัวขึ้น 2% โดยหุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส บวก 0.73%, หุ้นอิไล ลิลลี่ (Eli Lilly) พุ่งขึ้น 1.97%, หุ้นจีเลียด ปรับตัวขึ้น 1.74% และหุ้นบริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ พุ่งขึ้น 1.49%

หุ้นโมเดอร์นา ทะยานขึ้น 5.28% หลังบริษัทเปิดเผยว่า วัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้น เพื่อป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนนั้น สามารถสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งในการป้องกันการติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ซึ่งได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐฯ แล้วในขณะนี้

ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก็พุ่งขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.26%, หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ พุ่งขึ้น 1.86%, หุ้นทวิตเตอร์ บวก 0.6%, หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.16%, หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 1.58% และหุ้นอัลฟาเบท ดีดขึ้น 0.68%

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 3.1%, หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 3.66%, หุ้นชลัมเบอร์เจอร์ ร่วงลง 6.77%, หุ้นฟิลลิปส์ 66 ดิ่งลง 6.78% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 6.36%

ส่วนหุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่อแนวโน้มเศรษฐกิจปรับตัวลง รวมถึงหุ้นกลุ่มวัสดุและกลุ่มอุตสาหกรรม โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ร่วงลง 5.59%, หุ้นยูเอส สตีล คอร์ป ลดลง 0.31%, หุ้นวัลแคน มาเทเรียลส์ ร่วงลง 1.85%, หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 2.43%, หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ลดลง 0.71%, หุ้นฮันนีเวลล์ ร่วงลง 1.78% และหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ดิ่งลง 4.88%

นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) แถลงต่อสภาคองเกรส เป็นวันที่ 2 เมื่อวานนี้ว่า เฟดมุ่งมั่นที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข เนื่องจากขณะนี้ เงินเฟ้อในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นมากกว่า 3 เท่า จากเป้าหมายของเฟด ที่ระดับ 2% อย่างไรก็ดี นายพาวเวล ยอมรับว่า การดำเนินการของเฟดมีความเสี่ยงที่จะทำให้อัตราว่างงานสูงขึ้นด้วย

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 229,000 ราย ในช่วงปลายสัปดาห์ (18 มิ.ย.) แต่ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 227,000 ราย

ทางด้านเอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 51.2 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 5 เดือน โดยลดลงจากระดับ 53.6 ในเดือน พ.ค.

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปรับตัวลงในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) หลังผลสำรวจบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนชะลอตัวลงอย่างมากในเดือน มิ.ย. ซึ่งเพิ่มความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวรุนแรง ขณะที่การร่วงลงของราคาน้ำมันและโลหะส่งผลกระทบต่อหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์

Stoxx Europe 600 -0.82%

CAC-40 -0.56%

DAX -1.76%

FTSE 100 -0.97%

ตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดัน หลังเอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยผลสำรวจ บ่งชี้ว่า การขยายตัวของธุรกิจในยูโรโซนชะลอตัวลงอย่างมากในเดือน มิ.ย. และชะลอตัวลงมากเกินคาด เนื่องจากผู้บริโภควิตกเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และชะลอการใช้จ่ายเพื่อออมเงิน

นอกจากนี้ เอสแอนด์พี โกลบอล ยังเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการขั้นต้นของยูโรโซน ปรับตัวลดลงแตะ 51.9 ในเดือน มิ.ย. 2565 จากระดับ 54.8 ในเดือน พ.ค.

นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์ คาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เหนือ 0% เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ในเดือน ก.ย.

ด้านความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ถ่วงตลาดลงด้วย โดยเขากล่าวเมื่อวันพุธ (22 มิ.ย.) ว่า เฟดมุ่งมั่นที่จะควบคุมเงินเฟ้อ แม้มีความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงก็ตาม

ธนาคารกลางนอร์เวย์ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ปี 2545

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง 2.6% แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 เดือน ขณะที่ราคาทองแดงและโลหะอื่น ๆ ปรับตัวลงต่อท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

หุ้นที่อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจ เช่น หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มรถยนต์ร่วงลงเกือบ 2% และหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซลดลง 1.0%

Social Share
Facebook
Twitter