Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 2 สิงหาคม 2565

Table of Contents

Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวันจันทร์ (1 ส.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดลบ โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันจันทร์ (1 ส.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้

Dow Jones -0.14%

S&P500 -0.28%

Nasdaq -0.18%

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากข้อมูลลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับ 52.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 โดยดัชนีภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากคำสั่งซื้อใหม่ที่หดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และการจ้างงานหดตัวลงเป็นเดือนที่ 3

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างดิ่งลง 1.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค.

หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 2.18% หลังจากราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเชฟรอน ร่วงลง 2%, หุ้นเอ็กซอน โมบิล ดิ่งลง 2.56%, หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 2.4% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 3.79%

ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง 0.89% โดยหุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 1.09%, หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับตัวลง 0.26%, หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ลดลง 0.75%, หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 0.3 % และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวลง 0.39%

อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคดีดตัวขึ้น 1.21% โดยหุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) พุ่งขึ้น 2.87%, หุ้นโคคา-โคลา เพิ่มขึ้น 0.55%, หุ้นคิมเบอร์ลีย์-คล้าค พุ่งขึ้น 2.72% และหุ้นฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชันแนล พุ่งขึ้น 1.37%

หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 6.13% หลังจากสื่อรายงานว่า คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนสหรัฐฯ ได้อนุมัติแผนการตรวจสอบและการปรับปรุงเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ เพื่อให้โบอิ้งสามารถส่งมอบเครื่องบินรุ่นดังกล่าวได้อีกครั้ง

นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงานประจำเดือนก.ค. ในวันศุกร์นี้ เพื่อเป็นสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาความตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างจีนและสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด หลังจากสื่อรายงานว่า กองทัพสหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบินรบ รวมทั้งเรือบรรทุกเครื่องบินหลายลำเข้าใกล้ช่องแคบไต้หวัน เพื่อเตรียมการรักษาความปลอดภัยสำหรับเครื่องบินของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ หากมีการเยือนไต้หวัน

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลดลงในวันจันทร์ (1 ส.ค.) โดยถูกถ่วงลงโดยหุ้นกลุ่มพลังงานท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวัง และข้อมูลบ่งชี้ว่า กิจกรรมการผลิตหดตัวลงในยูโรโซน

Stoxx Europe 600 -0.19%

CAC-40 -0.18%

DAX -0.03%

FTSE 100 -0.13%

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.5% หลังบวกขึ้น 6 วันติดต่อกัน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างรุนแรงหลังข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์

ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า ผู้ค้าปลีกของเยอรมนีมียอดขายครึ่งปีแรกลดลงมากที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี โดยได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อ, สงครามในยูเครน และโรคโควิดระบาด

หุ้นรายตัวที่ปรับตัวลง อาทิ หุ้นไฮเนเก้น ลดลง 0.4% หลังปรับลดเป้าหมายผลกำไรปีหน้า เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้น

แต่หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด หลังหุ้นเอชเอสบีซี พุ่งขึ้น 6.1% จากการเปิดเผยผลกำไรที่ดีเกินคาด และแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลมากขึ้น

Social Share
Facebook
Twitter