Market Watch จับตาดูโลก วันที่ 26 สิงหาคม 2565

Table of Contents

Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวันพฤหัสบดี (25 ส.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มน้ำมัน และกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้น หลังจากบริษัทซิสโก ซิสเต็มส์ เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานที่เกิดขึ้น

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันพฤหัสบดี (18 ส.ค.) หลังจากบริษัทซิสโก ซิสเต็มส์ เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ช่วยหนุนให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นตามอีกด้วย

Dow Jones +0.98%

S&P500 +1.41%

Nasdaq +1.67%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ปรับตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ชะลอตัวลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ทะยานขึ้น 3.38%, หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.49%, หุ้นไมโครซอฟท์ ดีดขึ้น 1.11%, หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 1.90% และหุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.6%

หุ้นกลุ่มวัสดุดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน พุ่งขึ้น 6.06%, หุ้นยูเอส สตีล คอร์ป ทะยานขึ้น 7.40% และหุ้นวัลแคน มาเทเรียลส์ พุ่งขึ้น 2.19%

หุ้นอินวิเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 4.01% เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัท แม้ว่าอินวิเดียปรับลดคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ก็ตาม

หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2.06% หลังจากบริษัทประกาศแผนการปิดธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในรัสเซีย โดยจะเริ่มต้นขึ้นในไตรมาส

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ยังช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 243,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 255,000 ราย

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกในวันพฤหัสบดี (25 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มน้ำมัน และกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้น แต่นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานที่กำลังเกิดขึ้น

CAC-40 +0.30%

Stoxx Europe 600 0.08%

DAX +0.39%

FTSE 100 +0.11%

หุ้นกลุ่มพลังงาน พุ่งขึ้น 1.2% สู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 12 สัปดาห์ เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นจากความวิตกเกี่ยวกับอุปทาน

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น 1.0% โดยปรับตัวตามหุ้นกลุ่มเดียวกันของสหรัฐฯ ขณะที่จุดสนใจของตลาดอยู่ที่การประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง ในสัปดาห์นี้

ส่วนการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) บ่งชี้ว่า ผู้กำหนดนโยบายดูเหมือนมีความวิตกมากขึ้นว่า เงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ระดับสูงขณะที่ยูโรโซนเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ตลาดการเงินคาดการณ์ในขณะนี้ว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ภายในเดือน ต.ค. โดยในเดือน ก.ย. นั้น ECB อาจปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% และมีความเป็นไปได้เล็กน้อยที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75%

Social Share
Facebook
Twitter