Market Watch จับตาดูโลก วันที่ 8 กันยายน 2565

Table of Contents

Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวันพุธ (7 ก.ย.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่ง หลัง Bond Yield ปรับตัวลง จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเติบโตและหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี สวนทางกับตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลง หลังจากการเปิดเผยข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีน

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดในวันพุธ (7 ก.ย.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลง ซึ่งช่วยหนุนแรงซื้อหุ้นกลุ่มเติบโต (Growth Stock) รวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้น Defensive ซึ่งเป็นหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจได้ดี

Dow Jones +1.40%

S&P500 +1.83%

Nasdaq +2.14%

หุ้นกลุ่มเติบโต ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ดีดตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเทสลา ทะยานขึ้น 3.38%, หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ดีดขึ้น 1.17%, หุ้นแอมะซอน พุ่งขึ้น 2.67%, หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1.91%, หุ้นคาปรี โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 3.77% และหุ้นราล์ฟ ลอเรน พุ่งขึ้น 3.28%

หุ้นแอปเปิล ดีดตัวขึ้น 0.93% หลังแอปเปิลประกาศเปิดตัว iPhone 14 Series จำนวน 4 รุ่น ในงานอีเวนต์ “Far Out”

นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่ม Defensive เช่น หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และกลุ่มสาธารณูปโภค ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน โดยหุ้นเมอร์ค แอนด์ โค เพิ่มขึ้น 0.51%, หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ บวก 0.61%, หุ้นบริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ เพิ่มขึ้น 0.16%, หุ้นพีจีแอนด์อี พุ่งขึ้น 4.09% และหุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น พุ่งขึ้น 2.78%

แต่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงสวนทางกับตลาด โดยหลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงกว่า 5% ทำให้หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 2.88%, หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 1.72%, หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.28% และหุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.85%

นักลงทุนยังคงจับตาการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบในวันพุธ (7 ก.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลง หลังจากการเปิดเผยข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีนได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

CAC-40 -0.57%

Stoxx Europe 600 +0.021%

DAX +0.35%

FTSE 100 -0.86%

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ซึ่งพึ่งพาตลาดจีน ร่วงลง 2.3% ขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซของยุโรป ร่วงลง 3.1% โดยปรับตัวลงตามราคาโลหะและน้ำมันดิบ

ข้อมูลจากจีนบ่งชี้ว่า การส่งออกและการนำเข้าชะลอตัวลงเกินคาดในเดือน ส.ค. ขณะที่เงินเฟ้อที่ระดับสูงได้สกัดกั้นอุปสงค์ในต่างประเทศ และการควบคุมครั้งใหม่เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงคลื่นความร้อนนั้นได้ส่งผลกระทบต่อผลผลิต

หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพุ่งขึ้นรับข่าวดังกล่าว โดยหุ้นอีดีพี, หุ้นเอสเอสอี, หุ้นเอ็นจี, หุ้นอาร์ดับบลิวอี และหุ้นเวอร์บันด์ พุ่งขึ้น 3.4-13.3%

หุ้นยูบิซอฟต์ ซึ่งเป็นบริษัทเกมของฝรั่งเศส ร่วงลง 17.2% หลังประกาศข้อตกลงที่บริษัทเทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์ของจีนจะเพิ่มการถือหุ้นในยูบิซอฟต์ ซึ่งบ่งชี้ว่า ไม่มีแนวโน้มที่ยูบิซอฟต์จะขายหุ้นทั้งหมด

หุ้นเอชแอนด์เอ็ม (H&M) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกสินค้าแฟชั่นของสวีเดน ร่วงลง 2.3% หลังเจพีมอร์แกนแนะนำให้ลดน้ำหนักในหุ้นตัวนี้

นักลงทุนจะจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ (8 ก.ย.) ซึ่งคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า ECB จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์ในยูโรโซน

Social Share
Facebook
Twitter