
Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวันพุธ (2 พ.ย.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ หลังผลการประชุม FED ออกมาว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามที่ตลาดคาดไว้ แต่เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไป เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงลงกว่า 500 จุดในวันพุธ (2 พ.ย.) เนื่องจากเฟดยืนยันว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไป เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงมาก
Dow Jones -1.55%
S&P500 -2.50%
Nasdaq -3.36%
โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงหนักที่สุด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่อ่อนไหวต่อดอกเบี้ย นำโดยหุ้นแอมะซอน ดิ่งลง 4.82%, หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 4.80%, หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ร่วงลง 4.89%, หุ้นเทสลา ดิ่งลง 5.64%, หุ้นเซลส์ฟอร์ซ ร่วงลง 6.14% และหุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 3.87%
ส่วนหุ้นในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยนั้น หุ้นคาปรี โฮลดิ้งส์ ร่วงลง 4.77%, หุ้นไนกี้ ลดลง 3.7% และหุ้นราล์ฟ ลอเรน ดิ่งลง 3.43%
หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 2.81% หลังบริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถส่งมอบเครื่องบินโบอิ้ง 737 จำนวน 400-450 ลำในปีหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นจากจำนวน 375 ลำในปีนี้
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน ต.ค. ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้
ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบในวันพุธ (2 พ.ย.) จากการที่นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อ เพื่อรอฟังผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ซึ่งประกาศหลังปิดตลาด
CAC-40 -0.81%
Stoxx Europe 600 -0.29%
DAX -0.61%
FTSE 100 -0.58%
หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลและครัวเรือน, กลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มเทคโนโลยี ร่วงลงมากที่สุดราว 1.3-1.8%
ส่วนหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด หลังหุ้นโนโว นอร์ดิสก์ ปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี
หุ้นเมอส์ก ซึ่งเป็นบริษัทเดินเรือของเดนมาร์ก ร่วง 5.8% หลังเตือนเกี่ยวกับอุปสงค์การขนส่งที่ชะลอลง และปรับลดคาดการณ์ความต้องการตู้คอนเทนเนอร์ในปีนี้
หุ้นเดอแมนต์ บริษัทผลิตเครื่องช่วยฟังของเดนมาร์ก ร่วงลง 15.1% หลังปรับลดคาดการณ์รายได้และผลกำไรเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้