Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวันอังคาร (6 ธ.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ จากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ทำให้หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่อดอกเบี้ยร่วงลง และตลาดยังถูกกดดันจากการที่ผู้บริหารธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ ออกมาเตือนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันอังคาร (6 ธ.ค.) จากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยผู้บริหารธนาคารรายใหญ่ได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
Dow Jones -1.03%
S&P500 -1.44%
Nasdaq -2.00%
นายไบรอัน มอยนิฮาน ซีอีโอของแบงก์ ออฟ อเมริกา กล่าวในการประชุมด้านการเงินว่า “เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะหดตัวลงเล็กน้อยเป็นเวลานานถึง 3 ไตรมาสในปีหน้า” พร้อมทั้งนายเดวิด โซโลมอน ซีอีโอของโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า “เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวลง และขณะนี้ลูกค้าของธนาคารมีความกังวลในเรื่องนี้อย่างมาก”
เหตุการณ์นี้ฉุดราคาหุ้นปรับตัวลงเกือบทุกกลุ่ม นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 2.74%, หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 2.63%, หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ลดลง 1.74% และหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ดิ่งลง 3.14%
และหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง เนื่องจากเศรษฐกิจถดถอยอาจทำให้ภาคธนาคารเผชิญปัญหาหนี้เสียและการชะลอตัวของยอดการปล่อยกู้
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงเช่นกัน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.03%, หุ้นอัลฟาเบท ดิ่งลง 2.51%, หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 2.54% และหุ้นแอมะซอน ดิ่งลง 3.03%
หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ทรุดตัวลง 6.79% หลังจากมีรายงานว่า หน่วยงานด้านกำกับดูแลของสหภาพยุโรป (EU) ห้ามกำหนดให้ผู้ใช้งานต้องยอมดูโฆษณาสินค้าเมื่อกำลังใช้งานบนแพลตฟอร์ม
▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบในวันอังคาร (6 ธ.ค.) หลังหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่อดอกเบี้ยร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอย
CAC-40 -0.14%
Stoxx Europe 600 -0.58%
DAX -0.72%
FTSE 100 -0.61%
นักลงทุนกังวลว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลภาคบริการของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือน พ.ย. และข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ฟื้นตัวขึ้น
ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลง 1.6% โดยปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ร่วง 1.2%
