สรุปข้อดี ข้อเสีย ในการหารายได้ทั้ง 4 รูปแบบ จากตลาด Forex

Table of Contents
ตลาด Forex

ถ้าพูดถึงการหารายได้จากตลาด Forex ทุกคนคงคิดถึงเทคนิค กลยุทธ์ และรูปแบบการเทรดที่แตกต่างกันไป วันนี้พี่โบ้จะพาทุกคนไปดูสรุปของการหารายได้จาก Forex ทั้ง 4 รูปแบบ ว่ามีข้อดี ข้อเสีย และข้อแตกต่างกันอย่างไร เผื่อทุกคนจะนำมาใช้ตัดสินในการเทรดหรือลงทุน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย

รูปแบบที่ 1 การวิเคราะห์กราฟด้วยตนเอง

รูปแบบนี้จะเป็นการที่นักเทรดลองผิด ลองถูกด้วยตนเอง มีความต้องการที่จะเรียนรู้ ขยันหาความรู้ ฝึกนด้วยตนเอง จนสามารถวิเคราะห์รูปแบบกราฟต่างๆ เพื่อใช้ในการเทรดได้

ข้อดีของรูปแบบที่ 1 : มีความรู้และมีการพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมีโอกาสที่จะสามารถพัฒนาเป็นนักเทรดที่มีความเชี่ยวชาญได้ จนสามารถสร้างรายได้จากความรู้ในการเทรดที่เรามีได้ เช่น เป็นอาจารย์สอนเทรด

ข้อเสียของรูปแบบที่ 1  : ใช้เวลาในเรียนรู้ ฝึกฝน เพื่อที่จะสามารถทำให้เราวิคราะห์กราฟได้ รวมไปถึงต้องมีความทุ่มเทที่สม่ำเสมอ ติดตามข่าวสารต่างๆที่จะมีผลกระทบกับการลงทุนของเรา ทำให้อาจจะเกิดความเครียดและความ

รูปแบบที่ 2 Copy Trade หรือ Social Trade

รูปแบบนี้จะมีลักษณะคล้ายกับชื่อของการลงทุนเลย คือ การคัดลอก ซึ่งการคัดลอกในที่นี้จะเป็นการคัดลอกมาจากผู้เชี่ยวชาญในการลงทุนเพื่อมาเป็นต้นแบบในการลงทุนของเรา โดยรูปแบบนี้จะเป็นการลงทุนสำหรับคนที่กล้าได้เสียในการลงทุน อาจจะมีพื้นฐานในการลงทุนมาบ้างเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ของคนที่เราจะลงทุนตาม นอกเหนือจากนั้นยังเป็นรูปแบบที่ใช้เงินลงทุน เพื่อหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าต้องไปลองผิดลองถูก

ข้อดีของรูปแบบที่ 2 :  เราไม่ต้องเสียเวลาในการมานั่งเฝ้าหน้อจอหรือกระดานเทรดของเรา สามารถนำเวลาไปทำอย่างอื่นได้สบายๆ รวมไปถึงการบริหารพอร์ตของตนเองได้ (Social Trade) ทำให้เราเราทำกำไรได้แบบไม่ต้องเหนื่อยเลย

ข้อเสียของรูปแบบที่ 2 : ถ้าเราเลือกที่จะคัดลอกคนที่ไม่เก่งหรือไม่มีความเชี่ยวชาญก็อาจจะทำให้เราขาดทุนได้ รวมไปถึงในการคัดลอกการลงทุนนั้นมักจะมีค่าธรรมเนียมในการคัดลอกนั้นเอง

รูปแบบที่ 3 เทรดตาม Signals  (ซิก Forex)

รูปแบบนี้มักจะเป็นนักลงทุนที่มีความรู้หรือได้ศึกษาการเทรดมาบ้างแล้ว แต่ประสบการณ์และความมั่นใจอาจจะยังไม่มากพอ ( อาจจะยังไม่กล้าได้กล้าเสียเท่าที่ควร) แต่อยากได้กำไรที่ดีและเร็ว จึงเลือกที่จะเทรดตามซิก Forex จากแหล่งต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุน

ข้อดีของรูปแบบที่ 3 : เราไม่ต้องใช้การวิเคราะห์ด้วยตนเอง เลือกเทรดตามใจเรา ว่าจะเทรดตามซิกไหนก็ได้

ข้อเสียของรูปแบบที่ 3  : การที่เราจะได้ซิกนั้นเราต้องจ่ายค่าสมาชิก อีกทั้งเราต้องตัดสินใจเลือกซิกที่ดีและมีความแม่นยำ ถ้าไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เราขาดทุน 3 ต่อ ทั้งค่าสมาชิก เงินในพอร์ต และรวมไปถึงเวลาของเรานั้นเอง

รูปแบบที่ 4 ใช้ EA ในการเทรด

EA คือระบบหุ่นยนต์ที่ช่วยในการเทรดของเรา สามารถสร้างกำไรได้ ซึ่งจะมีข้อแตกต่างกับ Social Trading คือ Social Trading ที่เป็นมนุษย์เทรดเอง ทำให้จะมีประสบการณ์ ความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง

ข้อดีของรูปแบบที่ 4  : เราไม่ต้องเสียเวลาในการคอยดู เฝ้าหน้าจอ สามารถบริหารพอร์ตของตนเองได้ เราจึงจึงสามารถทำกำไรได้แบบไม่เหนื่อย

ข้อเสียของรูปแบบที่ 4 : อาจจะมีค่าใช้จ่ายส่วนต่าง เช่น เรื่องค่าเช่า VPN หรือการที่เราต้องเปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้ เพื่อให้ EA คอยทำงาน รวมไปถึงต้องคอย Backtest อยู่เรื่อยๆ เพื่อสร้างประสิทธิภาพใน Setup ของเรา

               พี่โบ้ขอสรุปเลยนะครับว่า การเทรดทุกรูปแบบย่อมมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความชอบ ความสะดวก และการวิเคราะห์ของแต่ละคน ยังไงทุกคนก็ลองไปปรับใช้ดูนะครับว่ารูปแบบไหนเหมาะกับการลงทุนของเรา ยังไงถ้าชอบบทความการลงทุนแบบนี้ อย่าลืมกดติดตามให้เรา tradeเด้อ ด้วยนะครับ วันนี้พี่โบ้ลาไปก่อน สวัสดีครับ


อ่านบทความเพิ่มเติม: สาระน่ารู้

วิเคราะห์ราคาทองคำรายวัน: วิเคราะห์ราคาทองคำ และ Facebook Page

Social Share
Facebook
Twitter