Economic Oblivion อาจเกิดขึ้นแล้วในรัสเซีย แม้ว่าในมิติทางเศรษฐกิจหลายคนมองว่า รัสเซียได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรน้อยกว่าที่ประเมินไว้มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าเงินรูเบิลที่กลับมาแข็งค่า รวมถึงการส่งออกก๊าซธรรมชาติและน้ำมันได้เช่นเดิม หรือแม้แต่ภาพรวมทางเศรษฐกิจที่ดูเหมือนจะดีขึ้น อีกทั้งยังสามารถสร้างเครือข่ายการค้าระหว่างประเทศได้อย่างเหนียวแน่น แต่ในระยะยาวมีการประเมินว่า รัสเซียอาจกลายเป็นประเทศที่ถูกลืมทางเศรษฐกิจ
Economic Oblivion คืออะไร ?
Economic Oblivion คือ ภาวะการถูกหลงลืมทางเศรษฐกิจ อธิบายสั้น ๆ เปรียบเหมือนการถูกโดนแบนจากนานาประเทศ เนื่องจากทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งประเทศที่เข้าสู่ภาวะนี้อาจไม่ได้รับการสนุบสนุนจากประเทศต่าง ๆ รวมถึงต้องเผชิญกับการคว่ำบาตรในด้านต่าง ๆ
เหตุใดรัสเซียถึงกำลังจะเกิด Economic Oblivion ?
นักวิเคราะห์บางกลุ่มต่างออกมาเตือนว่า ภาวะ Economic Oblivion ที่จะเกิดขึ้นกับรัสเซียในระยะสั้นนั้น อาจยังไม่เห็นผลชัดเจน แต่ในระยะกลางและระยะยาว รัสเซียอาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จากการคว่ำบาตรของทางชาติตะวันตก และการที่หลายประเทศถอนการทำธุรกิจในรัสเซีย ทำให้นักเศรษฐศาสตร์มองว่า การถูกแบนออกจากเวทีโลกจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของรัสเซียอย่างแน่นอน
เศรษฐกิจรัสเซียต้องแบกรับต้นทุนจากการที่บริษัทต่างชาติถอนตัวออกจากประเทศในระยะยาว เนื่องจากการถอนตัวดังกล่าวจะส่งผลต่อกำลังการผลิตและทุน อาจทำให้เกิดภาวะสมองไหล (Brain Drain) ควบคู่ไปกับการสูญเสียตลาดน้ำมันและก๊าซ รวมถึงโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีและวัตถุดิบ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตก็จะลดลงด้วยเช่นกัน
เอียน เบรมเมอร์ ประธานของ Eurasia Group เคยกล่าวกับ CNBC ว่า ความคลาดเคลื่อนของการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทำให้สินค้าคงคลังเริ่มหมดลงแล้วในรัสเซีย อีกทั้งยังขาดแคลนชิ้นส่วนจากต่างประเทศอย่างชิปอีกด้วย ในส่วนการค้างชำระหนี้ของรัฐบาลรัสเซีย ก็มีแนวโน้มก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนในวงกว้าง การนำเข้าสินค้าอุปโภคและบริโภคที่มากขึ้น รวมไปถึงการผลิตและการลงทุนในประเทศที่ลดลง
นอกจากนั้น หากการคว่ำบาตรในรัสเซียรุนแรงมากเท่าไร จะยิ่งบีบให้ผู้มีความสามารถเดินทางออกจากรัสเซีย เพื่อหาโอกาสที่ดีกว่ามากขึ้นเท่านั้น และยังส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ อีกทั้ง รัสเซียอาจถูกตัดออกจากการแลกเปลี่ยนด้านการพัฒนาเทคโนโลยีจากนานาประเทศด้วยเช่นกัน ดังนั้น หากมองในระยะยาวแล้ว เศรษฐกิจรัสเซียมีความน่าสนใจลดลงเป็นอย่างมากในกลุ่มนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยเยล ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภค การค้า และการขนส่ง แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจที่แท้จริงของทางรัสเซียอาจแย่กว่าที่ทางรัฐบาลรัสเซียได้ประกาศออกไป เนื่องจากการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ และการอพยพของบริษัทระดับโลกมากกว่า 1,000 แห่ง กำลังทำลายล้างเศรษฐกิจรัสเซีย และใกล้จะหลุดจากตำแหน่งยุทธศาสตร์สำคัญของการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะในยุโรป และยากต่อการทวงตำแหน่งคืน
Source: CNBC
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: สาระน่ารู้
อ่านรีวิวโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่: Review Broker