Copy Trade คืออะไร? ทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาเทรดเอง!

Table of Contents
Copy Trade คืออะไร

Copy Trade คืออะไร? อีกหนึ่งรูปแบบการเทรดที่พี่โบ้เชื่อว่า ทั้งเทรดเดอร์มือใหม่หรือมือฉมังต้องเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว และคงสงสัยใช่ไหมล่ะครับว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราสามารถเข้าถึงความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของเทรดเดอร์มืออาชีพได้ โดยไม่ต้องลงมือเทรดเองแม้แต่คำสั่งเดียว งั้นมาไขข้อสงสัยที่คุณต้องการจะรู้กันครับ


*หมายเหตุ: บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับ Copy Trade เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด และการเทรดโดยใช้ Copy Trade อาจไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกคน ดังนั้น นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนเริ่มทำการลงทุนครับ

ข้อดีของ Copy Trade

  • เพิ่มโอกาสในการเทรด โดยใช้ประสบการณ์การเทรดของเทรดเดอร์มืออาชีพ
  • เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ไม่ค่อยมีเวลา
  • เป็นตัวช่วยให้กับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์น้อย
  • ลดการตัดสินใจโดยมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
  • เทรดเดอร์สามารถเรียนรู้จากกลยุทธ์การเทรดของ Master Trader ที่คุณคัดลอกได้ ทำให้เข้าใจวิธีการตัดสินใจและการบริหารความเสี่ยงมากขึ้น

ข้อเสียของ Copy Trade

  • เทรดเดอร์อาจไม่ได้ฝึกฝนความรู้และทักษะในการเทรดเท่าที่ควร
  • มีความเสี่ยงจากการขาดทุนของ Master Trader เนื่องจากผลงานในอดีตไม่สามารถรับประกันอนาคตได้
  • ผลตอบแทนที่ได้อาจลดลงเมื่อเทียบกับการเทรดด้วยตัวเอง เนื่องจากมีค่าคอมมิชชันและส่วนแบ่งกำไรที่ต้องแบ่งให้กับ Master Trader กรณีที่เทรดได้กำไร

………………….🐶………………….

ความนิยมของการ Copy Trade ในปัจจุบัน

ปัจจุบันการ Copy Trade ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น โดยวัดจากปริมาณการค้นหาเกี่ยวกับ Copy Trade ที่มีมากขึ้นทุกปี โดยมีอัตราเฉลี่ยระหว่าง 22%-38% ต่อปี รวมถึงในช่วงที่ผ่านมายังพบว่า ปริมาณการค้นหามีมากสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากข้อมูลที่กล่าวมา ทำให้พี่โบ้เกิดมุมมองเกี่ยวกับการ Copy Trade ดังนี้

Copy Trading กำลังเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วคราวที่เกิดขึ้นแบบฉาบฉวยอย่างที่หลายคนคิดกัน เพราะจากปริมาณการค้นหาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะในยุโรปและสหราชอาณาจักร แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนของ Copy Trade

อย่างไรก็ดี ในอุตสาหกรรมการเทรด พี่โบ้มองว่า ความนิยมของ Copy Trade ขึ้นอยู่กับการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีที่ทันสมัยผนวกรวมกับการให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ Copy Trade ที่ถูกต้อง เพื่อนำไปสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งและมีคุณภาพของ Copy Trade ในอุตสาหกรรมการเงินในระยะยาวครับ โดยหัวข้ออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Copy Trade ที่คุณควรรู้ พี่โบ้ได้จัดเตรียมมาไว้ให้แล้วในหัวข้อถัด ๆ ไปครับ

อ้างอิงข้อมูลจาก: Brokeree

Copy Trade คือ การคัดลอกคำสั่งซื้อขายของ Master Trader หรือนักเทรดต้นแบบ รวมถึงเทรดเดอร์คนอื่น ๆ ในตลาด Forex ไปที่บัญชีของคุณโดยอัตโนมัติ พูดง่าย ๆ คือ ใช้ความเชี่ยวชาญของเทรดเดอร์คนอื่นมาเทรดบนบัญชีของเรา โดยที่ไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์ตลาดเองครับ

Master Trader หรือ นักเทรดต้นแบบคืออะไร?

Master Trader ในบริบทของการ Copy trade นั้น จะหมายถึง เทรดเดอร์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการเทรดที่จะคอยให้สัญญาณ (Signal) รวมถึงเผยแพร่กลยุทธ์ที่ใช้ในการเทรดของตนเองให้เทรดเดอร์คนอื่น ๆ ได้คัดลอก โดยรูปแบบการให้บริการของ Master Trader ก็จะมีหลายรูปแบบด้วยกันขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้บริการครับ

………………….🐶………………….

รู้จัก 4 รูปแบบการให้บริการของ Master Trader

รูปแบบการให้บริการของ Master Trader

รูปแบบการให้บริการของ Master Trader สามารถให้บริการได้หลายรูปแบบ โดยพี่โบ้จะขอยกตัวอย่าง 4 รูปแบบที่เห็นได้บ่อย ๆ ดังนี้

  1. แบบสมัครสมาชิก: ผู้ใช้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายเดือน/รายปี
  2. แบบแบ่งกำไร: ผู้ให้สัญญาณจะได้รับส่วนแบ่งจากกำไรที่ผู้ใช้ทำได้จากการคัดลอกสัญญาณสามารถพบได้บ่อยใน Copy Trading หรือ บัญชี PAMM/MAM
  3. ให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม Copy Trade: ในบริบทของ Copy Trading นักเทรดต้นแบบ (Master Trader) ก็คือ ผู้ให้สัญญาณในการซื้อขาย (Signal Provider) ที่เทรดเดอร์รายอื่นสามารถคัดลอกการเทรดได้ โดยที่นักเทรดต้นแบบเหล่านี้ อาจได้รับค่าธรรมเนียมจากแพลตฟอร์ม เมื่อเทรดเดอร์รายอื่นใช้รูปแบบการเทรดของพวกเขา
  4. ไม่คิดค่าบริการ/ฟรี: Master Trader บางรายไม่คิดค่าบริการในการให้สัญญาณ เพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน

วิธีการเลือก Master Trader หรือ Signal Provider สำหรับการ Copy Trade

วิธีเลือก Master Trader และ Signal Provider

การเลือกต้นแบบในการเทรดหรือผู้ส่งสัญญาณเทรดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้ครับ

1. ผลการดำเนินงานและประวัติของเทรดเดอร์

  • พี่โบ้อยากให้คุณตรวจสอบประวัติการเทรด หรือติดตามดู Track Record ของ Master Trader อย่างน้อย 6-12 เดือน เพื่อประเมินความสม่ำเสมอของผลงาน 
  • ตรวจสอบเปอร์เซ็นต์การขาดทุนสูงสุดของ  Master Trader ซึ่งไม่ควรเกิน 30%-40% เพราะถือว่าเสี่ยงสูงมาก

2. ประเมินการจัดการความเสี่ยงของ Signal Provider

  • สำหรับพี่โบ้แล้ว เทรดเดอร์ที่วางแผนการเทรดมาอย่างดี ต้องมีการจัดการความเสี่ยงที่ชัดเจน ดังนั้น ควรดูว่าเทรดเดอร์มีการจัดการความเสี่ยงที่ดีหรือไม่ เช่น ใช้ Stop Loss อย่างสม่ำเสมอ หรือมีการควบคุมขนาดของ Position ที่เหมาะสมไหม
  • ดูรูปแบบการจัดการ Risk-Reward (RR) ของเทรดเดอร์ ซึ่งอัตรา RR ที่ดีควรอยู่ที่ระดับ 1:2 หมายความว่า เมื่อเสี่ยง 1 ควรได้กลับมา 2 ครับ เช่น หากคุณออกออเดอร์ด้วยเงินทุน 100 ต้องได้กลับคืนมา 200 ครับ

3. ประเมินความโปร่งใสจากการสื่อสารที่ชัดเจน

  • Master Trader ควรมีการสื่อสารที่ชัดเจน เช่น อธิบายเหตุผลในการเทรด การวิเคราะห์ และรายงานผลงานอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงคนที่เสนอผลตอบแทนที่ไม่สมเหตุสมผล หรือไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลการเทรดที่สำคัญ เช่น ส่วนแบ่งกำไรที่คุณต้องเสีย รวมถึงค่าคอมมิชชันต่าง ๆ 
  • ให้ความสำคัญกับผู้ที่สามารถตอบคำถามของเราได้อย่างละเอียด และมีการอัปเดตข้อมูลเป็นประจำ เพราะผมมองว่า Master Trader ที่ดี ไม่ควรจะหนีหายเมื่อเกิดการขาดทุน แต่ควรจะอธิบายสาเหตุและแผนการแก้ไขครับ

🐶💬พี่โบ้ขอแชร์… ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพแค่ไหนก็ล้วนแต่เคยผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้น ฉะนั้นแล้ว หลังจากเริ่ม Copy Trade คุณควรต้องติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ และทบทวนการเลือก Master Trader ทุก 3 เดือนเป็นอย่างต่ำ เพื่อประเมินว่า รูปแบบการเทรดของเขายังเหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของคุณอยู่ไหม

การเทรดทั่วไปมีความแตกต่างกับการเทรดแบบ Copy Trading แน่นอนอยู่แล้วครับ และเพื่อให้มีความเข้าใจที่เพิ่มมากขึ้น พี่โบ้จะขออธิบายความแตกต่างของทั้งสองรูปแบบการเทรด ดังนี้

ประเด็นการเปรียบเทียบ⭐เทรดโดยใช้ Copy Trade⭐⭐เทรดทั่วไป⭐
ความเสี่ยงความเสี่ยงที่ต้องเจอ มักมาจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเทรดเดอร์ต้นแบบความเสี่ยงมาจากการตัดสินใจของตัวเทรดเดอร์เอง
การตัดสินใจไม่ต้องตัดสินใจด้วยตนเอง ตัดสินใจและวิเคราะห์ตลาดด้วยตนเอง
ความรู้และทักษะลดความจำเป็นในการวิเคราะห์ตลาดเอง และได้เรียนรู้จากเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์อาศัยความรู้และทักษะการเทรดของตนเอง
การจัดการบัญชีช่วยให้เทรดเดอร์ประหยัดเวลาในการจัดการบัญชีจัดการบัญชีด้วยตนเอง
การใช้เวลาในการเทรดเทรดเดอร์ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา ทำให้ประหยัดเวลาในการเทรดต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ตลาดและตัดสินใจซื้อขายเอง

🐶🔍รู้หรือไม่? Copy Trading เป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของ Social Trading เท่านั้น ซึ่งรูปแบบของ Social Trade ที่นอกเหนือจาก Copy Trade คือ Mirror Trading และ Signal Trading แล้วทั้ง 3 รูปแบบนี้แตกต่างกันอย่างไรไปอ่านกันได้ในหัวข้อถัดไปได้เลย

Social Trading คืออะไร

คอนเซปต์ง่าย ๆ ของ Social Trade คือ ผสมผสานแนวคิดของโซเชียลมีเดียเข้ากับตลาดการเงิน เพื่อเปิดโอกาสให้เทรดเดอร์สามารถ “คัดลอก” หรือ “ติดตาม” กลยุทธ์การซื้อขายของเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ได้

จากที่กล่าวไปข้างต้น Social Trading จึงหมายถึง กลุ่มหรือชุมชนที่เทรดเดอร์สามารถเข้ามาและเปลี่ยนกลยุทธ์การเทรดของตนเอง ให้แก่เทรดเดอร์คนอื่น ๆ ได้ และเทรดเดอร์จะสามารถโต้ตอบแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้อย่างอิสระ ไม่ได้เจาะจงไปที่การคัดลอกรูปแบบการเทรดโดยตรงเหมือน Copy Trade 

Mirror Trading คืออะไร?

Mirror Trading คือ การเทรดที่จะคัดลอกรูปแบบการเทรดของเทรดเดอร์ต้นแบบ โดยสมบูรณ์แบบ 100% เทรดเดอร์ไม่สามารถแทรกแซงคำสั่งซื้อขายของเทรดเดอร์ต้นแบบได้ ซึ่งต่างจาก Copy Trade ที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า ทำให้กลยุทธ์การเทรดแบบ Mirror Trade เทรดเดอร์ต้องเป็นฝ่ายติดตามภาพรวมกลยุทธ์การซื้อขายทั้งหมด แทนที่จะติดตามเพียงการซื้อขายแค่เพียงบางออเดอร์

Signal Trading คืออะไร?

Signal Trading คือ การเทรดโดยอาศัยสัญญาณจากผู้เชี่ยวชาญ (Signal Provider) ในการเทรด หรือที่เราเห็นกันบ่อย ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์แบบว่า แจกซิก กลุ่มซิก นั่นแหละครับ แน่นอนว่าการที่คุณจะได้รับสัญญาณต้องสมัครรับข้อมูลก่อน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะมาในรูปแบบการวิเคราะห์ข้อมูลหรือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เพื่อให้เทรดเดอร์ได้นำไปตัดสินใจในการซื้อขาย ทำให้การเทรดประเภทนี้ เทรดเดอร์จะมีบทบาทในการตัดสินใจมากกว่าการเทรดแบบ Mirror Trade และ Copy Trade 

📢 Traderbobo แนะนำ
บทความที่ได้รวบรวม 80 คำศัพท์ Forex ที่จะเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการเริ่มต้นเทรดของคุณ! ไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ขั้นพื้นฐาน คำศัพท์เทคนิคอล หรือคำศัพท์หมวดการใช้งานอื่น ๆ สามารถอ่านได้ที่บทความนี้ 🧐💡

พี่โบ้ขอเปรียบเทียบความแตกต่างของ 3 รูปแบบของ Social Trading เพื่อให้เห็นความแตกต่างในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้

Copy Trading 
(คัดลอกการเทรด)
Mirror Trading
(เลียนแบบกลยุทธ์การเทรด)
Signal Trading 
(เทรดตามผู้ให้สัญญาณ)
สิ่งที่คัดลอกคำสั่งซื้อขายจริงของเทรดเดอร์ (การเปิด-ปิดออเดอร์ และการตั้ง SL/TP)ระบบและอัลกอริทึมการเทรด (EA)สัญญาณการซื้อขาย (บอกจังหวะการเข้า/ออก และการตั้ง SL/TP)
การควบคุม⭐⭐⭐
ผู้คัดลอกปรับความเสี่ยงได้บ้าง 
⭐⭐
ผู้คัดลอกแทบไม่สามารถปรับความเสี่ยงได้เลย
⭐⭐⭐⭐⭐
สามารถตัดสินใจและดำเนินการตามสัญญาณได้เอง
เหมาะกับใครมือใหม่, ผู้ที่ไม่มีเวลา และมีความต้องการเรียนรู้จากเทรดเดอร์ผู้มีประสบการณ์ผู้ที่ต้องการลงทุนอัตโนมัติแบบเต็มรูปแบบ และไม่ต้องการตัดสินใจด้วยตัวเองเทรดเดอร์ที่ต้องการไอเดียและอยากยืนยันความถูกต้องของการวิเคราะห์ แต่ยังต้องการควบคุมการเทรดด้วยตัวเอง

ขั้นตอนการเริ่มใช้ Copy Trade ง่ายนิดเดียวครับ ซึ่งจะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. เลือกโบรกเกอร์สำหรับการ Copy Trade
  2. ทำการลงทะเบียนเพื่อเปิดบัญชีเทรด
  3. เลือก Master Trader หรือ Signal Provider ที่ต้องการคัดลอกการเทรด
  4. ตั้งค่าการเทรด โดยอาจเริ่มจากเงินทุนเพียง 10%-20% ของเงินทุนทั้งหมดก่อน
  5. ติดตามผลและวางแผนการเทรด เพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุน

ปัจจุบันโบรกเกอร์หลายเจ้าได้มีการนำฟังก์ชันเสริมเกี่ยวกับการ Copy Trade เข้ามาให้เทรดเดอร์ใช้กัน เพื่อดึงดูดผู้ใช้ใหม่ ๆ สร้างความหลากหลายในการใช้งานและเพื่อให้เกิดข้อได้เปรียบจากการแข่งขันในตลาดการเงินที่มีค่อนข้างสูง โดย 5 ลำดับโบรกเกอร์ที่มี Copy Trade มีดังนี้

  • อันดับ 1 HFM
  • อันดับ 2 Pepperstone
  • อันดับ 3 EBC Financial Group 
  • อันดับ 4 Tickmill
  • อันดับ 5 AvaTrade

🐶💬 โบรกเกอร์ที่กล่าวไปก็ล้วนแต่มีข้อดีและเงื่อนไขการใช้งานที่แตกต่างกัน หากคุณต้องการศึกษา “เลือกโบรกเกอร์ที่มี Copy Trade เจ้าไหนดี” อย่างละเอียด สามารถอ่านเพิ่มเติม ได้ที่ GoTradeHere

Copy Trade ดีไหม ประสบการณ์จริงจากผู้ใช้ Copy Trade Pantip

ที่มา: Pantip

เคยลงทุน Forex จากเว็บหนึ่งที่มีระบบ Copy Trade คือ ระบบที่ ผู้เล่นคนไหนที่เก่ง ๆ เราสามารถคัดลอกการเทรดของเขาได้ เขาลงทุนอะไร แบบไหน ระบบจะเข้าซื้อให้เหมือนผู้ลงทุนคนนั้นแบบอัตโนมัติ ผมก็ลองเทรดไป ประมาณ 2,000 บาท เขาทำกำไรประมาณ 10% ให้ผมหลายวัน จากนั้นผมก็เพิ่มเงินทุนไปอีก 20,000 (ทุ่มหมดหน้าตัก) ได้กำไร 8%-10% ประมาณ 3 วัน จากนั้น วันที่ 4 ขาดทุนยับเลยครับ

ความคิดเห็น: เวลาจะ Copy ใคร ให้ดูผลงานยาว ๆ ยิ่งระยะยาวยิ่งดี จะดูแค่ 1-2 ปี มันไม่งพอ ถ้าดูยาวได้ 10 ปีให้ดูไปเลย อย่าไปเน้นผลตอบแทนสูง ๆ แต่ไม่สามารถทำกำไรได้ทุกปี ให้เน้นหาผลตอบแทนแบบสม่ำเสมอจะดีกว่า เช่น ทำกำไรได้ทุกปี ถึงจะกำไรไม่หวือหวา แต่ดีกว่าต้องมาเสี่ยง

🐶💬ความเห็นจากพี่โบ้: เคสนี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า  Copy Trade อาจดูเหมือนง่าย แต่ความจริง คือ ต้องทำความเข้าใจกลยุทธ์ของ Master Trader ให้ดี ที่สำคัญคือ การตั้งค่า Stop Loss และการจำกัดความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในบัญชีของคุณเอง รวมถึงการกระจายความเสี่ยงโดยไม่คัดลอก Master Trader เพียงคนเดียว เพราะการเทรดไม่ว่ารูปแบบใดก็มีความเสี่ยงทั้งนั้นครับ

Copy Trade เป็นเครื่องมือที่ “มีประโยชน์” ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงตลาดและประหยัดเวลาได้เป็นอย่างดีครับ แต่บางมุมก็เป็นเหมือน “ดาบสองคม” หากนักลงทุนไม่มีความรู้ความเข้าใจ ไม่มีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มากพอ ขาดการติดตามผลและปรับแผนการเทรดอย่างสม่ำเสมอ ก็มีโอกาสพลาดได้เหมือนกันครับ

อีกทั้ง การลงทุนใน Copy Trade ไม่ได้หมายความว่า เทรดเดอร์ไม่ต้องศึกษาอะไรเลย แค่นั่งเฝ้ารอผลการเทรดเฉย ๆ ก็พอ แบบนั้นเป็นความเชื่อที่ผิดนะครับ ความจริงแล้ว Copy Trade หมายถึงการย้ายภาระการตัดสินใจหลักไปให้ Master Trader ในขณะที่เราก็ยังคงต้องรับผิดชอบในการเลือก Master Trader ที่เหมาะสมและบริหารจัดการความเสี่ยงของพอร์ตตัวเองอย่างรอบคอบต่างหากครับ 

*หมายเหตุ: ก่อนพิจารณาใช้ Copy Trade ควรศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงให้ดีก่อนเริ่มทำการลงทุน 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Copy Trading

1. Copy Trade ดีไหม?

Copy Trade จะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งานครับ Copy Trade เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์และช่วยให้การเข้าถึงตลาดทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้นสำหรับบางกลุ่มนักลงทุน แต่ก็มีความเสี่ยงที่ตามมาอีกหลายข้อ การจะใช้ Copy Trade ให้ดี ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีความเข้าใจในตลาดและความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนครับ

2. Copy Trade เจ้าไหนดี?

ไม่มี Copy Trade เจ้าไหนที่เหมาะกับทุกคน ฉะนั้น เลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะกับแผนการลงทุนและสไตล์การลงทุนของตนเองดีที่สุด

3. Copy Trade ฟรีไหม?

Copy Trade ฟรี มีครับ แต่เป็นส่วนน้อย โดยทั่วไปการ Copy Trade จะถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น 1. ส่วนแบ่งกำไรที่ต้องจ่ายให้ Master Trader เมื่อคุณทำกำไร 2. ค่าธรรมเนียมที่มาจากการเทรดอยู่แล้ว เช่น ค่าสเปรด/ค่าคอมมิชชันที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจากการเทรด และ 3. อาจมีค่าธรรมเนียมในการฝาก/ถอนบางกรณี

4. ถ้าไม่มีความรู้เรื่องการเทรดสามารถใช้ Copy Trade ได้ไหม?

ไม่ควรครับ พี่โบ้ขอแนะนำให้คุณศึกษาความรู้พื้นฐานก่อน เพราะการมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการเทรด Forex และการบริหารความเสี่ยงเบื้องต้น จะช่วยให้คุณสามารถเลือก Master Trader และตั้งค่าการคัดลอกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้

พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense