
Hedging Forex การใช้กลยุทธ์ เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด โดยการเปิดออเดอร์ตรงข้ามกับออเดอร์หลัก เพื่อชดเชยความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น 🧐
การเข้าใจถึงเทคนิคและกลยุทธ์ Hedging Forex เป็นการใช้กลยุทธ์ทางการเงิน เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน แม้ว่าการ Hedging จะช่วยลดความเสี่ยงได้ แต่ก็มีความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่ตามมา ดังนั้น การใช้กลยุทธ์ Hedging จึงต้องคำนึงถึงสภาวะตลาดและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของนักลงทุนอย่างรอบคอบครับ!
*หมายเหตุ: การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง และฟอเร็กซ์ถือเป็นหนึ่งในการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ ทั้งนี้ บทความนี้เป็นเพียงการให้ความรู้เท่านั้น
การทำ Hedge หรือ Hedging Forex คืออะไร?
การ Hedge หรือ Hedging คือ การเปิดออเดอร์สองออเดอร์ทั้งซื้อ (Buy) และขาย (Sell) ในสินทรัพย์ตัวเดียวกันหรือต่างกันก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดออเดอร์พร้อมกัน เช่น เปิดออเดอร์ใหม่หลังจากสถานการณ์เริ่มไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เพื่อป้องกันการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นจากการคาดการณ์แนวโน้มราคาที่ผิดพลาด ซึ่งจากที่กล่าวมาการทำ Hedging ก็สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบครับ
ข้อควรรู้ บางโบรกเกอร์จะไม่เปิดให้เทรดเดอร์สามารถทำการ Hedging Forex ได้ด้วยเหตุผลบางประการ ดังนั้น หากคุณกำลังจะเทรดโดยใช้กลยุทธ์ Hedging คุณควรตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการของโบรกเกอร์ให้ดีก่อนครับ
………………….🐶………………….
3 ประเภทการ Hedging ยอดนิยมในตลาด Forex

3 ประเภท การ Hedging Forex ที่นิยมมากที่สุดสามารถแบ่งออกได้ตามรูปแบบการใช้งาน ดังนี้
1. การ Hedging Forex แบบ Direct Hedging
- การเปิดออเดอร์ที่ตรงกันข้ามกับสถานะปัจจุบันในคู่สกุลเงินเดียวกัน
🔻 ตัวอย่าง เทรดเดอร์เปิดออเดอร์ซื้อ (Buy) ในคู่สกุลเงิน EUR/USD และ Hedging โดยการเปิดออเดอร์ขาย (Sell) ใน EUR/USD เช่นกัน กล่าวคือ หากราคาของออเดอร์หลักเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่คาดคิดก็ยังมีอีกออเดอร์ที่คอยป้องกันไม่ให้พอร์ตติดลบอยู่นั่นเอง โดยวิธีนี้เป็นวิธีที่เทรดเดอร์นิยมใช้มากที่สุด เพราะมีความตรงไปตรงมาและเข้าใจได้ง่ายครับ
2. การ Hedging Forex แบบ Correlation Hedging
- การเปิดออเดอร์ในคู่สกุลเงินที่ต่างกันและมีความสัมพันธ์กันในเชิงบวกหรือเชิงลบ
🔻 ตัวอย่าง เทรดเดอร์เปิดออเดอร์ซื้อ (Buy) EUR/USD แต่หลังจากเปิดสถานะได้ไม่นาน มีข่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น ทำให้เกิดความกังวลว่า ดอลลาร์อาจจะแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น ซึ่งส่งผลให้ออเดอร์ที่เปิดไปขาดทุน เทรดเดอร์จึงอาศัยความสัมพันธ์ของคู่สกุลเงินในการ Hedging ดังนี้
- เปิดออเดอร์ซื้อ (Buy) USD/CHF เพราะทราบว่า USD/CHF มีความสัมพันธ์เชิงลบกับ EUR/USD (เมื่อ EUR/USD ปรับตัวขึ้น USD/CHF มักปรับตัวลดลง) เนื่องจากทั้งยูโรและฟรังก์สวิสมักเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันเมื่อเทียบกับดอลลาร์ แต่ในกรณีนี้ทั้งสองคู่เงินมี USD อยู่ในตำแหน่งคู่เงินที่ต่างกันทำให้การเคลื่อนไหวของราคามีทิศทางที่สวนทางกัน
3. การ Hedging Forex แบบ Options Hedging
- การใช้สัญญา Options เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา
- Put Options ให้สิทธิ์ในการขายคู่สกุลเงิน ณ ราคาที่กำหนดไว้ (Strike Price) ภายในวันที่กำหนด
- Call Options ให้สิทธิ์ในการซื้อคู่สกุลเงิน ณ ราคาที่กำหนดไว้ (Strike Price) ภายในวันที่กำหนด
🔻 ตัวอย่าง เทรดเดอร์เปิดออเดอร์ซื้อ (Buy) EUR/USD แต่กังวลว่าราคาอาจจะลดลงชั่วคราวจากข่าวเศรษฐกิจ จึงซื้อ Put Option ของ EUR/USD ไว้ โดยจ่ายค่าพรีเมียม เพื่อให้มีสิทธิ์ขายในราคาที่กำหนด (Strike Price) ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบันเมื่อราคาลดลง ทำให้กำไรจากการขายเข้ามาช่วยชดเชยการขาดทุนที่เกิดจากออเดอร์หลักได้
📢 Traderbobo แนะนำ
ค่าพรีเมียม คือ ค่าใช้จ่ายที่ผู้ซื้อออปชันจ่ายเพื่อซื้อสิทธิ์ในการซื้อหรือขายสกุลเงิน ณ ราคาและวันเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เปรียบเสมือน “เบี้ยประกัน” ที่จ่ายเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา ค่าพรีเมียมนี้จึงเป็นจำนวนเงินสูงสุดที่ผู้ซื้อออปชันจะเสีย หากตัดสินใจไม่ใช้สิทธิ แต่เป็นการแลกกับโอกาสที่จะป้องกันการขาดทุนที่อาจมีมูลค่ามากกว่าครับ
การ Hedging Forex แบบ Direct Hedging
ทีนี้มาดูการ Hedging Forex ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดอย่าง Direct Hedging กันบ้างครับ จากภาพแสดงกลยุทธ์ Direct Hedging ในตลาด Forex ซึ่งเป็นเทคนิคป้องกันความเสี่ยงแบบพื้นฐาน

คุณจะเห็นได้ว่า ผมออกออเดอร์ Buy และ Sell ในเวลาเดียวกัน ตรงตามหลักของ Direct Hedging เมื่อทำเช่นนี้เท่ากับว่าผม ‘ล็อก’ สถานะของออเดอร์เอาไว้ กล่าวคือ ไม่ว่าตลาดจะวิ่งขึ้นหรือลง ผมก็จะไม่ได้กำไรหรือขาดทุนเพิ่ม (ยกเว้นหากมีการเก็บค่า Swap และค่า Spread) เพราะกำไรของฝั่งหนึ่งจะถูกหักล้างด้วยการขาดทุนของอีกฝั่งหนึ่งนั่นเองครับ
🔎 จุดสังเกต
- ตำแหน่งแรกผมใช้กลยุทธ์ Hedging โดยเปิดออเดอร์ Buy และ Sell เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวของราคาที่อาจวิ่งไปในทิศทางตรงข้ามกับที่คาดการณ์ไว้
- ตำแหน่งด้านบนผมปิดออเดอร์ Buy เพื่อทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวขึ้น
- ตำแหน่งด้านล่างผมปิดออเดอร์ Sell เพื่อทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวลง
หมายเหตุ: กลยุทธ์ Hedging เหมาะสำหรับตลาดที่มีความผันผวนสูงหรือช่วงที่เทรดเดอร์ไม่แน่ใจว่าราคาจะไปในทิศทางไหน โดยคุณสามารถทำกำไรได้ทั้งในกรณีที่ราคาขึ้นหรือลง แต่อาจต้องระวังในเรื่องของค่าธรรมเนียมการเทรด (Spread) ที่อาจเกิดขึ้นจากการเปิดหลายออเดอร์พร้อมกัน
………………….🐶………………….
ความเสี่ยงที่ต้องระวังจากการ Hedging Forex
ความเสี่ยงที่คุณอาจพบเจอหากเลือกเทรดแบบ Hedging Forex มีดังนี้
- ต้นทุนที่คาดไม่ถึงซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อผลกำไร
- ความซับซ้อนและความผันผวนของตลาด Forex
- ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการใช้ Leverage ที่เกินพอดี
- ความไม่แน่นอนของตลาดที่เกิดขึ้นจากปัจจัยอื่น ๆ
3 ทริคพัฒนากลยุทธ์ Hedging ของตนเอง
เทรดเดอร์สามารถพัฒนากลยุทธ์การเทรดแบบ Hedging ได้โดยใช้ 3 วิธีต่อไปนี้

- การทดสอบกลยุทธ์ Hedging ด้วยบัญชีเดโม
- บันทึกและวิเคราะห์ผลการทำ Hedging
- ปรับปรุงและพัฒนากลยุทธ์ Hedging อย่างต่อเนื่อง
ทำ Hedging Forex แทนการตั้ง Stop Loss ได้ไหม?
เมื่อคุณเข้าใจความหมายและจุดประสงค์ของการทำ Hedging Forex แล้ว ผมเชื่อครับว่า ต้องมีคนเกิดข้อสงสัยว่า หลักการทำงานของ Hedging นั้น สามารถนำมาใช้แทน Stop Loss ได้หรือไม่? เพราะถือเป็นการจัดการความเสี่ยงเหมือน ๆ กัน คำตอบคือ คุณสามารถใช้การ Hedging แทนการตั้ง Stop Loss ได้ แต่พี่โบ้ไม่แนะนำครับ หากคุณจะเลือกใช้การ Hedging แทนการตั้ง Stop Loss พี่โบ้ก็อยากให้พิจารณาหลักการต่อไปนี้
- การ Hedging อาจก่อให้เกิดการใช้ต้นทุนที่สูงเกินจำเป็น เพราะต้องเสียค่า Spread และอาจมีการคิดค่า Swap เพิ่มเติมจากการเปิดออเดอร์ข้ามคืน
- การ Hedging ค่อนข้างมีความซับซ้อนในการบริหารจัดการ เพราะต้องติดตามและจัดการหลายออเดอร์พร้อม ๆ กัน
- ไม่เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ เพราะต้องคอยวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของคู่เงิน และการคำนวณขนาดออเดอร์ที่เหมาะสมในการเทรด
หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วคุณยังอยากจะใช้ Hedging Forex แทน การตั้ง Stop Loss อยู่ งั้นเอาแบบนี้ดีไหมครับ พี่โบ้ขอแนะนำ ให้ตั้ง Stop Loss ควบคู่ไปกับการทำ Hedging Forex โดยเลือกตั้ง Stop Loss ในจุดที่สามารถป้องกันการขาดทุนได้อย่างเหมาะสม ส่วนการทำ Hedging ให้เลือกใช้กับบางสถานการณ์เท่านั้น เช่น ช่วงประกาศข่าวสำคัญหรือช่วงที่ตลาดเกิดความผันผวนสูง ๆ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รับประโยชน์จากทั้งสองเครื่องมือโดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นแล้วครับ
ข้อดี-ข้อเสียของการ Hedging Forex
ข้อดีของ Hedging Forex
- ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
- ช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
- ช่วยรักษารักสมดุลของพอร์ตไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงที่มากเกินไป
ข้อเสียของ Hedging Forex
- เทรดเดอร์จะเสียค่า Spread เป็นสองเท่าจากการเปิดออเดอร์ทั้งสองฝั่ง
- มีความเสี่ยงที่พอร์ตจะขาดทุนเพิ่มจากความถ่างของค่า Spread
- มีโอกาสขาดทุนจนเกิดการล้างพอร์ตสูงกรณีที่ตลาดเกิดความผันผวนสูง
สรุปเกี่ยวกับ Hedging Forex
Hedging เป็นการเปิดออเดอร์การเทรดที่ช่วยชดเชยความเสี่ยงจากออเดอร์หลักที่เปิดอยู่ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดหรือจำกัดผลกระทบที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ผิดพลาด กลยุทธ์การ Hedging ไม่ใช่เครื่องมือที่สร้างกำไรโดยตรง พี่โบ้จึงอยากให้มองว่า Hedging Forex เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่ช่วยให้คุณมีเวลาคิด และรอจังหวะเข้าเทรดที่เหมาะสม
เพราะหากคุณทำความเข้าใจธรรมชาติของกลยุทธ์นี้ให้ดีคุณจะพบว่านี่คือวิธีการรักษาสมดุลอันแยบยล นอกจากนี้ เทรดเดอร์ควรพิจารณาความเสี่ยงและวางแผนการเทรดให้รัดกุม เพราะการลงทุนในตลาด Forex นั้นเกิดความผันผวนได้ทุกเมื่อ
*หมายเหตุ: การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ บทความนี้เป็นเพียงการให้ความรู้เท่านั้น
………………….🐶………………….
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Hedging Forex
Hedging Forex มีกี่ประเภท?
Hedging Forex แบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามรูปแบบการใช้งาน ดังนี้
- การ Hedging Forex แบบ Direct Hedging
- การ Hedging Forex แบบ Correlation Hedging
- การ Hedging Forex แบบ Options Hedging
ต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการทำ Hedging Forex มีอะไรบ้าง?
หากคุณเทรดด้วยกลยุทธ์ Hedging Forex คุณจะเสียต้นทุนจากค่า Spread คูณสองจากการเปิดออเดอร์ 2 ออเดอร์พร้อมกัน และถ้าหากคุณเปิดออเดอร์ไว้ข้ามคืนต้นทุนในการเทรดที่ตามมาอีกหนึ่งอย่างก็คือ ค่า Swap ครับ
Hedging เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ประเภทใด?
กลยุทธ์การ Hedging Forex เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ในการเทรดและต้องการป้องกันความเสี่ยง รวมถึงยังเหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องเผชิญความเสี่ยงในการเทรดในระยะยาว เพราะกลยุทธ์การ Hedging จะช่วยให้เทรดเดอร์รักษากำไรและป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนเหล่านั้นได้
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้
พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page