
ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง โดยเฉพาะในช่วงข่าวเศรษฐกิจแรง ๆ หรือการประกาศตัวเลขสำคัญ เทรดเดอร์หลายคนอาจเคยเจอกับ Requote โดยไม่รู้ตัว แล้วมันคืออะไร ทำไมถึงเกิดขึ้น จะป้องกันได้อย่างไร? วันนี้พี่โบ้จะพาไปทำความเข้าใจว่า Requote คืออะไร พร้อมเจาะลึกสาเหตุ ผลกระทบ และวิธีป้องกันแบบเข้าใจง่าย สำหรับเทรดเดอร์ทั้งมือใหม่และมือโปร ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันครับ!
Requote คืออะไร?
Requote คือ การแจ้งเตือนจากโบรกเกอร์เมื่อคำสั่งซื้อหรือขายของเทรดเดอร์ไม่สามารถดำเนินการในราคาที่แสดงบนหน้าจอ ณ ขณะนั้นได้ โดยระบบจะเสนอราคาที่ปรับใหม่ขึ้นมาให้เทรดเดอร์ “ยืนยัน” อีกครั้งก่อนที่จะส่งคำสั่งจริงเข้าไปในตลาดครับ
โดย Requote มักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดผันผวนสูง เช่น ระหว่างการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ข่าวด่วน หรือช่วงเวลาที่มีปริมาณการซื้อขายหนาแน่น ทำให้ราคามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในเสี้ยววินาทีครับ
สาเหตุที่ทำให้เกิด Requote
การเกิด Requote ในการเทรดมักเกิดจาก “ความล่าช้า” ในช่วงที่เทรดเดอร์เปิดคำสั่งซื้อขายและระบบของโบรกเกอร์ดำเนินการ ซึ่งเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่วินาที อาจทำให้ราคาตลาดขยับไปจากเดิม ส่งผลให้คุณต้องยืนยันราคาใหม่ก่อนคำสั่งจะถูกส่งเข้าตลาดจริงอีกครั้ง ซึ่งความล่าช้าที่เกิดขึ้นอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนี้

1. เซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ อาจทำให้คำสั่งดีเลย์ : ในช่วงที่ตลาดเปิด อาจจะเกิดการคาบเกี่ยวกันของเวลา ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศอาจเกิดเกิดความล่าช้า ส่งผลให้ราคาเป็นไปในทิศทางตรงข้ามกับที่คาดหวัง
2. ราคาผันผวนรุนแรง : ราคาผันผวนอย่างรุนแรง เกินกว่าที่ระบบจะสามารถยืนยันคำสั่งซื้อขายได้
3. เทรดช่วงตลาดหลักเปิด : ปริมาณการเทรดสูง ทำให้ระบบหน่วงและเกิด Requote
4. ระบบคำสั่งแบบ Instant Execution : ต้องจับคู่ราคาตรงเป๊ะ หากคลาดเคลื่อนจะโดนแจ้ง Requote
5.ประเภทบัญชีที่ใช้ : บัญชีที่เลือกใช้งานไม่ได้ส่งคำสั่งซื้อขายไปยังตลาดโดยตรง
6. อินเทอร์เน็ตช้า หรือระบบเชื่อมต่อไม่เสถียร : เมื่อเกิดปัญหาอินเตอร์เน็ตล่าช้า มักส่งผลให้ได้รับราคาไม่ตรงตามที่คาดหวังไว้
ผลกระทบจากการเกิด Requote
การเกิด Requote อาจมีผลกระทบหลายด้านที่ทำให้เทรดเดอร์ต้องพิจารณาก่อนดำเนินการเทรด โดยผลกระทบจากการเกิด Requote มีทั้งเชิงบวกและเชิงลบ ดังนี้
ผลกระทบเชิงบวก | ผลกระทบเชิงลบ |
ป้องกันการซื้อขายในราคาที่ไม่เหมาะสม | อาจพลาดโอกาสในการทำกำไร |
อาจจะมีโอกาสซื้อขายได้ในราคาที่ดีกว่า | เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุน |
เพิ่มความรอบคอบในการตัดสินใจ | อาจทำให้แผนการเทรดคลาดเคลื่อน |
เพิ่มความยืดหยุ่นในการตัดสินใจ | เสียเวลาในการยืนยันราคาใหม่ |
ป้องกันการเกิด และหลีกเลี่ยงการเกิด Requotes ได้อย่างไร?

1. ตั้งค่า Maximum Deviation
กำหนดช่วงเบี่ยงเบนจากราคาที่ส่งไป เช่น ตั้งค่าเผื่อเกิด Requote ไว้ 3 จุด หากราคาของเซิร์ฟเวอร์ไม่เปลี่ยนแปลงเกิน 3 จุด คำสั่งจะได้รับการดำเนินการโดยไม่ต้องยืนยันราคาใหม่
2. ใช้คำสั่งเปิด/ ปิดออเดอร์แบบอัตโนมัติ Pending Orders
ใช้คำสั่ง Pending Orders เพื่อกำหนดจุดเข้าออเดอร์ล่วงหน้า และคำสั่ง Stop Loss และ Take Profit เพื่อกำหนดจุดปิดกำไรและจุดตัดขาดทุนแบบอัตโนมัติ ไม่ต้องรอราคาด้วยตัวเอง ทำให้มั่นใจได้ว่าคำสั่งจะดำเนินการตามราคาที่ต้องการ ลดความเสี่ยงจากการเกิด Requote
3. ใช้ Expert Advisor (EA)
ให้ EA ช่วยตรวจสอบว่าคำสั่งซื้อหรือขายถูกเปิดสำเร็จก่อนจะทำการเปิดคำสั่งถัดไป ช่วยลดปัญหาการเกิด Requote ทั้งนี้ EA บางตัวอาจไม่รองรับคำสั่งนี้ โปรดศึกษารายละเอียดก่อนใช้งาน
4. เลือกบัญชี ECN หรือ STP
บัญชีประเภท ECN หรือ STP จะทำให้คำสั่งดำเนินการตามราคาตลาดได้รวดเร็วและแม่นยำ ลด Requote เพราะคำสั่งซื้อขายถูกส่งตรงไปยังตลาดจริงโดยไม่ผ่านตัวกลาง จึงไม่มีการแทรกแซงราคา หรือดีเลย์จากโบรกเกอร์
5. หลีกเลี่ยงการเทรดช่วงผันผวนสูง
หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงที่มีความผันผวนสูง เช่น การประกาศข่าวเศรษฐกิจ เพราะราคาอาจแกว่งแรงจนเกิด Slippage หรือ Requote ได้ง่าย ทำให้เปิดหรือปิดออเดอร์ในราคาที่ไม่ต้องการ
6. ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ใช้การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียร เช่น สาย LAN เพื่อลดปัญหาความล่าช้า
7. เตรียมกลยุทธ์ล่วงหน้า
วางแผนจุดเข้า-ออก, กำหนด Stop Loss / Take Profit อย่างชัดเจน และใช้ Pending Orders เพื่อให้ระบบจัดการเข้าออกออกเดอร์ในระดับราคาที่ต้องการ เพื่อลด Human Error และการใช้อารมณ์ร่วมในการเทรด ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจ
8. การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม
เนื่องจากแต่ละโบรกเกอร์มีระบบการประมวลผลคำสั่งซื้อขาย ความเร็วของเซิร์ฟเวอร์ และประเภทบัญชีที่แตกต่างกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อโอกาสในการเกิด Requote ขณะเทรด เพราะโบรกเกอร์ที่มีระบบเสถียรและตอบสนองเร็วจะช่วยให้คำสั่งซื้อขายดำเนินการได้อย่างแม่นยำและลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาในเสี้ยววินาที
สรุป Requote คืออะไร
Requote คือสิ่งที่เทรดเดอร์ควรทำความเข้าใจ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง เช่น ระหว่างการประกาศข่าวเศรษฐกิจแรง ๆ หรือช่วงเปิดตลาด ซึ่งระบบของโบรกเกอร์อาจจับคู่คำสั่งไม่ทัน ทำให้ต้องเสนอ “ราคาที่ปรับใหม่” เพื่อให้ผู้ใช้งานตัดสินใจอีกครั้งว่าจะยอมรับหรือไม่นั่นเองครับ
แม้จะดูเป็นเรื่องเล็ก แต่ Requote สามารถกระทบต่อแผนการเทรดได้ทั้งในด้านบวกและลบ เทรดเดอร์จึงควรเตรียมรับมือให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเวลาเทรดที่เหมาะสม ปรับการตั้งค่าระบบ หรือเลือกโบรกเกอร์ที่มีระบบเสถียรและประมวลผลเร็ว เพื่อให้การเทรดเป็นไปอย่างราบรื่นและแม่นยำที่สุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Requote
Requote เกิดขึ้นในช่วงไหน?
Requote มักเกิดขึ้นในช่วงตลาดผันผวนสูง เช่น ระหว่างประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญ หรือช่วงตลาดเปิด-ปิด ซึ่งคำสั่งอาจไม่สามารถดำเนินการได้ทันเวลาตามราคาที่เห็น
Requote สามารถป้องกันได้จริงหรือไม่?
สามารถลดความเสี่ยงได้ แต่ไม่สามารถป้องกันได้ 100% เพราะ Requote เกิดจากความล่าช้าในการจับคู่ราคาระหว่างคำสั่งของเทรดเดอร์กับราคาจริงในตลาด ซึ่งอาจจะมีหลายปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ความเร็วอินเทอร์เน็ต ประเภทบัญชี หรือช่วงเวลาที่เทรด
การใช้ EA (Expert Advisor) มีผลอย่างไรกับ Requote?
EA สามารถช่วยส่งคำสั่งได้รวดเร็วและมีความแม่นยำมากขึ้น ลดโอกาสเกิดความล่าช้าจากฝั่งผู้ใช้งาน และช่วยประมวลผลการเข้าออร์เดอร์ตามเงื่อนไขอัตโนมัติ
ตั้งค่า Maximum Deviation ช่วยลด Requote ได้อย่างไร?
การตั้ง Maximum Deviation เป็นการกำหนดช่วงเบี่ยงเบนของราคาที่เทรดเดอร์ยอมรับได้ ซึ่งหากราคาที่ระบบพบ ไม่เบี่ยงเบนเกินค่าที่เทรดเดอร์กำหนด คำสั่งจะถูกดำเนินการทันทีโดยไม่แจ้งเตือน Requote อีกครั้ง
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้
พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page