
ตลาดไซด์เวย์ คือ ช่วงที่ราคาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ๆ ไปทางด้านข้าง โดยราคามักจะไม่ขึ้นไม่ลง และไม่แสดงเทรนด์ที่ชัดเจนในช่วงนี้ 🧐
รู้หรือไม่ครับว่า ตลาด Forex ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในช่วง “ไซด์เวย์” หรือช่วงที่เขาว่ากันว่า เป็นฝันร้ายของเทรดเดอร์ เพราะมันถือเป็นช่วงการเคลื่อนไหวของตลาดที่เทรดเดอร์หลายคนไม่กล้าเปิดออเดอร์ แท้จริงแล้วช่วงตลาดไซด์เวย์น่ากลัวแบบที่เราคิดกันจริงหรือไม่ หรือเป็นแค่ความกังวลที่บอกต่อกันมา?
วันนี้พี่โบ้จะพาทุกคนไปหาคำตอบกันครับว่า ตลาดช่วงไซด์เวย์คืออะไร และไม่ควรเปิดออเดอร์เทรดในช่วงดังกล่าวจริงไหม
*หมายเหตุ: บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงให้ชัดเจน
ไซด์เวย์ หรือ Sideway คืออะไร?

ไซด์เวย์ คือ ช่วงที่ตลาดมีแรงซื้อและแรงขายเท่ากัน (อุปสงค์ = อุปทาน) ทำให้ราคาเคลื่อนที่อยู่ในกรอบแคบ ๆ หรือง่าย ๆ คือ เป็นช่วงที่ตลาดไม่มีเทรนด์ที่ชัดเจนนั่นเอง ส่งผลให้ตลาดช่วงนี้ค่อนข้างคาดเดาทิศทางได้ยาก
ตลาด Sideway แตกต่างจากตลาดช่วงที่เป็น Trend อย่างไร?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ไซด์เวย์คือช่วงที่ตลาดเคลื่อนที่โดยไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจนไปเรื่อย ๆ ในกรอบแคบ แต่ในช่วงที่ตลาดเป็น Trend ราคาจะเคลื่อนที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงอย่างชัดเจนครับ
ตลาดช่วงไซด์เวย์บอกอะไรเรา?
สภาวะตลาดที่อยู่ในช่วงไซด์เวย์บอกเราได้หลายอย่างเลยครับ เช่น สภาวะตลาดที่อยู่ในช่วงพักตัวและกำลังรอสัญญาณในการกลับตัว รวมถึงบ่งบอกในเชิงจิตวิทยาว่า นักลงทุนกำลังอยู่ในช่วงลังเลหรือรอจังหวะดี ๆ ในการเข้าเทรด
ปัจจัยที่ทำให้ตลาดอยู่ในช่วงไซด์เวย์มีอะไรบ้าง?
เหตุผลที่ทำให้ตลาดอยู่ในช่วงไซด์เวย์นั้น เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนี้
- ขาดแรงจูงใจและสิ่งกระตุ้นในการซื้อขาย
- เกิดความสมดุลของแรงซื้อและแรงขายในตลาด ทำให้ตลาดไม่แสดงเทรนด์ชัดเจนในฝั่งใดฝั่งหนึ่ง
- เกิดการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อมูลค่าของสกุลเงิน เช่น การปรับเปลี่ยนนโยบายของธนาคารกลาง ความขัดแย้งระหว่างประเทศหรือความขัดแย้งภายในประเทศ
ลักษณะของตลาดไซด์เวย์เป็นอย่างไร?

ลักษณะของไซด์เวย์ถ้าพูดให้เห็นภาพก็คือ ราคาจะถูกดึงด้วยแรงของทั้งสองฝั่งทั้งแรงซื้อและแรงขาย ทำให้เส้นราคาจะเคลื่อนที่อยู่ในพื้นที่ที่จำกัด เหมือนลูกบอลที่เด้งไปมาระหว่างกำแพงสองข้าง โดยมีแนวรับเป็นพื้นและแนวต้านเป็นเพดาน หรือคุณสามารถสังเกตได้จากข้อต่อไปนี้
- ราคาแกว่งไปมาในช่วงแคบ ๆ
- ราคาไม่สามารถทะลุแนวรับหรือแนวต้านได้
- ราคาเด้งกลับ เมื่อแตะระดับสำคัญ
นอกจากลักษณะที่กล่าวมานี้ ไซด์เวย์ยังสามารถแบ่งออกได้มากถึง 6 รูปแบบ ตามลักษณะของกราฟและพฤติกรรมของราคาครับ
รูปแบบของไซด์เวย์มีอะไรบ้าง?
รูปแบบของไซด์เวย์สามารถแบ่งออกได้ตามรูปแบบของการเคลื่อนตัวของกราฟราคาได้เป็น 6 รูปแบบ ดังนี้
ไซด์เวย์รูปแบบที่ 1 : Range-Bound

ลักษณะ: ราคาจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบที่จำกัดระหว่างแนวรับและแนวต้าน และมีลักษณะการเคลื่อนที่คล้ายอักษร “W” หรือ “M” สลับกันไป
ความหมาย: บ่งบอกถึงช่วงเวลาที่ตลาดกำลังลังเลและยังไม่มีทิศทางที่แน่นอน แรงซื้อและแรงขายมีความสมดุลกันอย่างชัดเจน
ไซด์เวย์รูปแบบที่ 2 : Horizontal Channel

ลักษณะ: คล้ายกันกับ Range-Bound แต่กรอบการเคลื่อนที่ของราคามักจะดูเป็นระเบียบและชัดเจนมากกว่า รวมถึงไม่แกว่งตัวมากเท่ากับ Range-Bound ซึ่งแนวรับและแนวต้านจะอยู่ในตำแหน่งที่ขนานกัน
ความหมาย: เป็นช่วงที่ราคากำลังพักตัวและรวบรวมพลังก่อนที่จะเลือกทิศทางในการเคลื่อนตัวใหม่ และรูปแบบนี้เทรดเดอร์มักนิยมใช้กลยุทธ์ “Range Trading” ในการเข้าเทรด
ไซด์เวย์รูปแบบที่ 3 : Consolidation Zone

ลักษณะ: ราคาเคลื่อนที่อยู่ในกรอบสามเหลี่ยมที่บีบตัวแคบลงเรื่อย ๆ
ความหมาย: เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผันผวนที่ลดลง และบ่งบอกว่าตลาดกำลังเตรียมตัวที่จะ Breakout ออกนอกกรอบสามเหลี่ยมไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างรุนแรง
ไซด์เวย์รูปแบบที่ 4 : Rectangle Pattern

ลักษณะ: รูปแบบที่ราคาเคลื่อนที่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ชัดเจน มีแนวรับและแนวต้านที่ขนานกัน
ความหมาย: เป็นรูปแบบการพักตัวที่บ่งชี้ถึงความลังเลของตลาดคล้ายกันกับ Horizontal Channel มักเกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวของราคาที่มีแนวโน้มชัดเจน และราคาจะหยุดพักตัวอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมก่อนที่จะดำเนินแนวโน้มเดิมต่อ
📌 ข้อสังเกตเพิ่มเติม: แม้ทั้งสองรูปแบบจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ Horizontal Channel จะบ่งบอกถึงช่วงสภาวะตลาดที่อยู่ในไซด์เวย์มาเป็นเวลานานแล้ว และ Rectangular Pattern จะเกิดหลังจากที่ตลาดมีแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาที่เป็นแนวโน้มที่ชัดเจนมาก ๆ ทำให้ Rectangular Pattern มักใช้ในบริบทของการพักตัวเพื่อไปต่อ ในขณะที่ Horizontal Channel มักใช้เพื่ออธิบายสภาวะตลาดไซด์เวย์ที่คงที่ครับ
ไซด์เวย์รูปแบบที่ 5 : Sideways with Slight Slope

ลักษณะ: ราคาจะวิ่งโดยมีแนวโน้มขึ้นหรือลงเล็กน้อย และในกรอบการเคลื่อนที่ของราคาจะมีความชัน ซึ่งอาจเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมที่ชันขึ้น (Ascending Triangle) หรือสามเหลี่ยมที่ลาดลง (Descending Triangle) ก็ได้
ความหมาย: ทิศทางของตลาดกำลังถูกผลักให้ไปในทางใดทางหนึ่ง โดยอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวหรือการพักตัวก่อนไปต่อ
ไซด์เวย์รูปแบบที่ 6 : Choppy Market

ลักษณะ: ราคาเคลื่อนไหวขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างรวดเร็วและไม่เป็นระเบียบ และไม่มีทิศทางที่แน่นอน ทำให้ไม่สามารถระบุแนวรับหรือแนวต้านได้อย่างชัดเจน
ความหมาย: เป็นช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงและไม่มีทิศทางที่แน่นอนเป็นช่วงที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ควรหลีกเลี่ยงการเทรด เนื่องจากมีความเสี่ยงที่สูงมากและมีโอกาสในการทำกำไรต่ำ
กลยุทธ์การเทรดในภาวะตลาด Sideway
กลยุทธ์การเทรดในช่วงที่ตลาดอยู่ในไซด์เวย์จะแบ่งออกเป็น 3 กลยุทธ์ ดังนี้
- กลยุทธ์การเทรดแบบ Range Trading
- การทำกำไรในกรอบแคบ ๆ คือ ซื้อที่แนวรับและขายที่แนวต้าน
- กลยุทธ์การเทรดแบบ Breakout Trading
- เป็นการรอให้ราคาทะลุเส้นแนวรับหรือแนวต้านก่อนค่อยทำการเปิดออเดอร์เทรด เช่น หากราคาเคลื่อนตัวทะลุแนวต้านขึ้นไปให้เปิดออเดอร์ Buy หากทะลุแนวรับลงมาให้เปิดออเดอร์ Sell เพื่อทำกำไร
- กลยุทธ์การเทรดแบบ Scalping
- เป็นกลยุทธ์การเทรดแบบระยะสั้น โดยทำกำไรจากเคลื่อนไหวของราคาในระยะเวลาสั้น ๆ เน้นเข้าออเดอร์เร็วและปิดออเดอร์เร็ว เพื่อทำกำไรจากความผันผวนที่เกิดขึ้นในช่วงไซด์เวย์
จากกลยุทธ์ทั้งหมดที่กล่าวไปนี้ จะมีหนึ่งกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์หลายคนนิยมนำมาเทรดในช่วงตลาดไซด์เวย์ นั่นคือ กลยุทธ์การเทรดแบบ Range Trading ครับ
กลยุทธ์ Range Trading คืออะไร?
Range Trading คือ กลยุทธ์เทรดในช่วงที่ตลาดเคลื่อนที่แบบไซด์เวย์ โดยจะอาศัยประโยชน์จากเส้นแนวรับและแนวต้าน เพื่อทำกำไรกับการเคลื่อนไหวของราคาในกรอบเพียงช่วงสั้น ๆ

การเทรดแบบ Range Trading ทำอย่างไร?
จากภาพเป็นตัวอย่างกรเทรดโดยใช้กลยุทธ์ Range Trading ในช่วงที่ตลาดอยู่ในไซด์เวย์ โดยจะนำเครื่องมือทางเทคนิคอย่าง Stochastic เข้ามาช่วยระบุสัญญาณ โดยองค์ประกอบของรูปภาพจะประกอบไปด้วย
- เส้นแนวต้าน (อยู่ด้านบนของราคา)
- เส้นแนวรับ (อยู่ด้านล่างของราคา)
- อินดิเคเตอร์ Stochastic Oscillator ตัวช่วยยืนยันแนวโน้มที่คอยระบุจุด Overbought และ Oversold (พื้นที่ด้านล่างของกราฟราคา)
การระบุจุดเข้า Buy และ Sell ตามกลยุทธ์ Range Trading
เมื่อทราบองค์ประกอบของภาพแล้ว ทีนี้พี่โบ้จะพาทุกคนไปหาจุดเขา Buy และ Sell ที่เหมาะสมกันครับ
จุดเข้า Buy (ซื้อ)
- จุดเข้าซื้อที่เหมาะสมคือ เมื่อราคาลงมาแตะแนวรับ และ Stochastic Oscillator ส่งสัญญาณว่าเป็นช่วงที่ราคาอยู่ในโซน “Oversold” ซึ่งเป็นสัญญาณที่แข็งแกร่งในการเข้า Buy
จุดเข้า Sell (ขาย)
- จุดเข้าขายที่เหมาะสมคือ เมื่อราคาขึ้นไปแตะแนวต้าน และStochastic Oscillator ส่งสัญญาณว่าเป็นช่วงที่ราคาอยู่ในโซน “Overbought”
*คำแนะนำจาก Traderbobo: เทรดเดอร์ควรตั้ง Stop Loss เสมอ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุน สำหรับออเดอร์ Buy ควรตั้ง Stop Loss ไว้ใต้แนวรับเล็กน้อย และฝั่งของออเดอร์ Sell ควรตั้ง Stop Loss ไว้เหนือแนวต้านเล็กน้อยเช่นกัน
ทำไมเทรดเดอร์ควรหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงไซด์เวย์ (Sideway)
เหตุผลที่เทรดเดอร์ส่วนมากหลีกเลี่ยงการเทรดช่วงไซด์เวย์ มีดังนี้
- มีความเสี่ยงจากการเกิด False Breakout
- เป็นช่วงที่แนวโน้มของตลาดไม่ชัดเจนทำให้ยากต่อการวิเคราะห์
- ทำส่วนต่างของกำไรได้ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับการเทรดในช่วงที่เป็นเทรนด์
- อาจทำให้ต้นทุนการเทรดสูงขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากต้องเปิดออเดอร์เพื่อทำกำไรบ่อยครั้งในช่วงที่ราคาเคลื่อนตัวในกรอบแคบ
False Breakout คืออะไร?
False Breakout คือ สถานการณ์ที่ราคาสามารถเคลื่อนที่ทะลุกรอบแนวรับ-แนวต้านไปได้แล้ว แต่ก็กลับตัวมาเคลื่อนที่ในกรอบเดิม
สรุปเกี่ยวกับตลาดไซด์เวย์ (Sideway Market)
ไซด์เวย์ คือ ช่วงที่ตลาดเคลื่อนที่อยู่ในแนวโน้มที่คงที่และไม่แสดงแนวโน้มหรือเทรนด์ที่ชัดเจนออกมา ทำให้เทรดเดอร์ส่วนมากไม่นิยมเข้าเทรดในตลาดช่วงดังกล่าว แต่แท้จริงแล้วการเทรดในช่วงนี้สามารถทำได้และไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอย่างที่คิดครับ เพียงแต่คุณต่อเข้าใจสภาวะของตลาดและอ่านมันให้ขาด เพียงเท่านี้การเทรดในช่วงไซด์เวย์ก็จะไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไซด์เวย์ (Sideway)
1. แนวโน้ม Sideway คืออะไร?
แนวโน้มช่วงไซด์เวย์เป็นแนวโน้มที่เคลื่อนที่ไปด้านข้างเรื่อย ๆ โดยที่ไม่แสดงแนวโน้มอย่างชัดเจน
2. Breakout คืออะไร?
Breakout คือ จุดที่ราคาทะลุเส้นแนวรับหรือแนวต้าน ซึ่งการเกิด Breakout ก็สามารถสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้อีกด้วยครับ
3. หุ้น Sideway หมายถึงอะไร?
หุ้น Sideway หมายถึง ช่วงที่ราคาของหุ้นเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบ ๆ หรือเป็นช่วงพักตัวของหุ้น
4. Sideway Up และ Sideway Down คืออะไร?
Sideway Up และ Sideway Down คือช่วงที่ราคาเคลื่อนที่แบบไม่มีทิศทางชัดเจน แต่จะมีลักษณะเอียงขึ้นหรือลงเล็กน้อย เช่น Sideway Up กราฟราคาจะมีแนวโน้มเอียงขึ้นเล็กน้อย ส่วน Sideway Down แนวโน้มราคาจะเอียงลงเล็กน้อยครับ
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้
พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page