ปัจจุบันเวียดนามกลายเป็นประเทศที่น่าสนใจในด้านการลงทุนของต่างชาติ ทำให้ หุ้นเวียดนาม กลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในการลงทุน ด้วยแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ในภูมิภาค ทำให้ หุ้นเวียดนาม มีผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่าประเทศไทยในระยะยาว และมีนักลงทุนไทยทั้งสาย VI และกองทุนต่างเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น บทความนี้จะขอแนะนำ 3 หุ้นเวียดนาม ที่น่าลงทุนระยะยาว และสามารถทำไรได้อย่างต่อเนื่อง
ทำไม หุ้นเวียดนาม จึงน่าลงทุน ?
เศรษฐกิจประเทศเวียดนามในปี 2022 มีการปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งมาจากปัจจัยเศรษฐกิจอาเซียนเติบโต ทำให้ประเทศเวียดนามได้รับผลประโยชน์ โดยมีคาดการณ์ว่า GDP จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเวียดนามเป็นประเทศที่มีการส่งออกเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนลองจากประเทศสิงคโปร์ และอีกปัจจัยที่เราเห็นได้ชัด คือ การย้ายถิ่นฐานการผลิตของโรงงานเข้าในประเทศเวียดนามมากยิ่งขึ้น จึงทำให้หลายปีที่ผ่านมาเราเริ่มได้ยินว่านักลงทุนไทยจำนวนมากได้หันไปสนใจ หุ้นเวียดนาม มากขึ้น
จากกราฟจะเห็นว่า ตลาดหุ้นเวียดนามในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา มีมูลค่าการซื้อขายของนักลงทุนต่อวันที่เพิ่มขึ้นจากระดับ 2 ล้านล้านเวียดนามดอง (ประมาณ 2.8 พันล้านบาท) ซึ่งถือว่าต่ำมาก มาเป็นประมาณ 9 ล้านล้านเวียดนามดอง (ประมาณ 12.8 พันล้านบาท) ในปัจจุบัน ซึ่งการเพิ่มขึ้นของมูลค่าซื้อขายส่วนหนึ่งจะช่วยให้ความผันผวนของตลาดหุ้นลดลง
3 “หุ้นเวียดนาม” น่าลงทุนและทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง
VINGROUP Joint Stock Company
VINGROUP Joint Stock Company เป็นบริษัทค้าปลีกผู้นำของประเทศเวียดนาม โดยมีเจ้าของคือ ฝ่าม เหญิต เหวื่อง (Pham Nhat Vuong) มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มผลประโยชน์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และสถานบริการด้านสุขภาพ นอกจากนี้ยังกำลังเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์อีกด้วย และทาง GM ขายธุรกิจให้กับกลุ่ม VINGROUP เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ธุรกิจหลักที่สำคัญของ VINGROUP จะมี Business Model คล้าย ๆ กับ CPN บ้านเรา ที่สำคัญคือ VINGROUP เป็นเจ้าของส่วนแบ่งการตลาดในส่วนของห้างสรรพสินค้ามากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม และตลาดยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก ซึ่งล่าสุด VinGroup ได้มีการเปิดตัวธุรกิจใหม่ นั่นก็คือ การผลิตสมาร์ทโฟน และมีแผนการขายทั่วโลก โดยใช้ชื่อว่า Vsmart
Hoa Phat Group (HPG)
Hoa Phat Group (HPG) เป็นกลุ่ม Holding ที่ติดอันดับ Top 50 บริษัทจดทะเบียนที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามมีธุรกิจหลัก ได้แก่ การผลิตและแปรรูปเหล็ก โดยมีกำลังการผลิต 2 ล้านตันต่อปี และอยู่ระหว่างขยายกำลังการผลิตเป็น 4 ล้านตันต่อปี, ท่อเหล็ก โดยมีกำลังการผลิต 7 แสนตันต่อปี และแผ่นเหล็ก โดยมีกำลังการผลิต 4 แสนตันต่อปี ที่สำคัญการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในเวียดนามทำให้ตลาดเหล็กแปรรูปเหล่านี้มีการขยายตัวถึง 10% ต่อปี
Century Land Joint Stock Company (CENLAND)
Century Land Joint Stock Company เป็นอีกบริษัทที่มีโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจ โดยมีรายได้และกำไรเติบโตสูงมากใน 3 – 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการเติบโตเฉลี่ยถึง 172% ต่อปี และมีกำไรที่เติบโตเฉลี่ย 179% ต่อปี อีกทั้ง บริษัทยังมีธุรกิจหลักเป็นนายหน้าอสังหาฯ ในเวียดนาม โดยกินส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 40% ของตลาด มีจำนวนนายหน้ามากถึง 2,745 คน ผ่านระบบแบบดั้งเดิม คือ Real Estate Supermarket system และล่าสุดมีการพัฒนาระบบการซื้อขายอสังหาฯ ออนไลน์อีกด้วย โดย Cenland เป็นเหมือนตัวกลางระหว่าง Developer กับลูกค้าที่ทำการซื้อขายอสังหาฯ จัดเป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง และเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม 3 หุ้นเวียดนามข้างต้น ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของหุ้นทั้งหมดของเวียดนามที่เป็นที่น่าจับตามองของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนประเทศไทย ที่ได้เริ่มเข้าไปในตลาดเวียดนามมากขึ้น ซึ่งความผันผวนที่มากก็มาพร้อมโอกาสในการสร้างผลตอบเเทนที่มากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น หากใครที่สนใจจะลงทุนในเวียดนาม แนะนำให้ลงทุนระยะยาว 5 – 10 ปีขึ้นไป เพราะระยะเวลาการลงทุนที่ยาวขึ้นนี้จะเป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงการลงทุนได้ดี และทำให้เรามีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากตลาดที่มีการเติบโตมากอีกด้วย
อ่านบทความเพิ่มเติม: สาระน่ารู้
วิเคราะห์ราคาทองคำรายวัน: วิเคราะห์ราคาทองคำ และ Facebook Page