Trailing Stop คืออะไร? เข้าใจศิลปะแห่งการล็อกกำไรอย่างเซียน!

Table of Contents
Trailing Stop คืออะไร

ในตลาดการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงอย่างตลาดฟอเร็กซ์ การบริหารและจัดการความเสี่ยงให้ดีถือเป็นเรื่องที่เทรดเดอร์ไม่ควรมองข้าม วันนี้พี่โบ้จึงอยากพาทุกคนมาทำความรู้จักคำสั่ง Trailing Stop หนึ่งในเครื่องมือจัดการความเสี่ยงสุดเก๋าที่เทรดเดอร์นิยมใช้ แล้วเครื่องมือดังกล่าวทำงานอย่างไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ

*หมายเหตุ: บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับคำสั่ง Trailing Stop เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด อีกทั้งการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ยังมีความเสี่ยงสูง นักลงทุนควรศึกษาความเสี่ยงในการลงทุนให้ดีก่อนเริ่มทำการลงทุน

Trailing Stop คืออะไร ในตลาด Forex

Trailing Stop Loss คือ คำสั่ง Stop Order ที่สามารถเปลี่ยนจุดตัดขาดทุนหรือทำกำไรได้ อธิบายง่าย ๆ ก็คือ Trailing Stop ทำงานคล้าย Stop Loss ที่จะทำงานผ่านการตั้งค่าระยะห่างการเคลื่อนไหวของราคาที่คุณตั้งไว้ล่วงหน้า หรือเรียกอีกอย่างว่า เป็นเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่จะติดตามความเคลื่อนไหวของราคาโดยอัตโนมัติและปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาด ซึ่ง Trailing Stop จะเลื่อนตามราคาเฉพาะในทิศทางที่ได้กำไร แต่จะไม่เลื่อนกลับเมื่อราคาเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้าม โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ ปกป้องกำไรที่มีอยู่และจำกัดการขาดทุน

ประเภทการตั้งค่า Trailing Stop

ประเภทการตั้งค่าของคำสั่ง Trailing Stop สามารถแบ่งได้ 2 รูปแบบ ตามหน่วยระยะห่างที่เราต้องการ ได้แก่ แบบเปอร์เซ็นต์ และ แบบ Pips

  • Trailing Stop แบบคงที่ (Fixed Trailing Stop): กำหนดระยะห่างเป็นจำนวน จุด หรือ หน่วยราคา ที่แน่นอน โดยระยะห่างนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงจนกว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ทำกำไร

  • Trailing Stop แบบเปอร์เซ็นต์ (Percentage Trailing Stop): กำหนดระยะห่างเป็น เปอร์เซ็นต์ ของราคาปัจจุบัน โดยกำหนดจากราคาสูงสุดที่เคยทำได้จากการเปิด Buy หรือต่ำสุดที่เคยทำได้ในฝั่งของการเปิดออเดอร์ Sell และเมื่อราคาเปลี่ยนแปลงไป ระดับ Trailing Stop ก็จะปรับตามสัดส่วนนั้น

คำสั่ง Trailing Stop จะทำงานตามรูปแบบที่คุณกำหนดระยะห่างของจำนวนที่เทรดเดอร์กำหนดอย่างที่กล่าวไปข้างต้นครับ แต่เพื่อความเข้าใจที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น พี่โบ้จะขออธิบายหลักการทำงานของคำสั่งดังกล่าวทั้งในฝั่งของการ Buy และ Sell ดังนี้

การทำงานของ Trailing Stop (Buy)

การทำงานของ Trailing Stop คำสั่ง Buy

ข้อควรรู้ประการแรกสำหรับการตั้ง Buy Trailing Stop คือ การทำงานของ Buy Trailing Stop จะตั้งอยู่ต่ำกว่าเส้นราคาและจะเคลื่อนตัวขึ้นตามระดับราคาที่สูงขึ้นเท่านั้น ทำให้คำสั่ง Trailing Stop จึงเป็นเหมือนเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่ใช้ล็อกและป้องกันกำไรเมื่อราคาปรับตัวลง

ตัวอย่างการทำงานฝั่งออเดอร์ Buy

สถานการณ์ที่ 1: พี่โบ้ทำการเปิดออเดอร์ Buy คู่สกุลเงิน  EUR/USD ที่ราคา 1.1000 และตั้ง Trailing Stop ไว้ที่ระยะห่าง 20 pips

สถานการณ์ที่ 2: ราคาของคู่สกุลเงินปรับตัวขึ้นไปแตะที่ระดับราคา 1.1100 (+100 pips) Trailing Stop จึงเคลื่อนไปอยู่ที่ระดับราคา 1.1080 เท่ากับว่าจุดที่ถูกล็อกกำไรคือ ระดับราคา 1.1080 (1.1100 – 20 pips)

สถานการณ์ที่ 3: หากราคากลับตัวลงมาแตะที่ 1.1080 คำสั่ง Trailing Stop ที่ถูกตั้งไว้จะทำงานและปิดออเดอร์ โดยอัตโนมัติทันที ทำให้พี่โบ้ได้กำไรจากการเทรดครั้งนี้ 80 pips

ข้อสงสัย: Trailing Stop จะ “ป้องกันกำไรเมื่อราคาปรับตัว” ได้อย่างไร?

🐶💬 พี่โบ้จะขออธิบายในฝั่งของการ Buy ดังนี้  เมื่อราคาสินทรัพย์ปรับตัวขึ้นและเทรดเดอร์จะมีกำไรจากออเดอร์ Buy ที่เปิดอยู่และ Trailing Stop จะยังคงเคลื่อนที่ตามราคาที่สูงขึ้นไป โดยรักษาระยะห่างตามการตั้งค่าที่ถูกกำหนดไว้ พอตลาดเกิดความผันผวนและราคากลับตัวลงมาอย่างกะทันหัน คำสั่ง Trailing Stop จะทำงานและปิดออเดอร์ทันทีที่ราคาลดลงถึงระดับคำสั่งที่ถูกกำหนดไว้ ทำให้ที่กล่าวมานี้ คือ “การป้องกันกำไร” โดยการใช้ Trailing Stop นั่นเอง

การทำงานของ Trailing Stop (Sell)

การทำงานของ Trailing Stop คำสั่ง Sell

ฝั่งของออเดอร์ Sell อย่างที่เรารู้กันดีว่าการเปิดออเดอร์ Sell จะทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ลดลง ดังนั้น คำสั่ง Sell Trailing Stop จึงถูกตั้งสูงกว่าเส้นราคาเสมอ และหากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น Trailing Stop จะไม่ปรับตัวขึ้นตาม แต่จะคงอยู่ที่ระดับต่ำสุดที่เคยปรับลงมาแล้ว

ตัวอย่างการทำงานฝั่งออเดอร์ Sell

สถานการณ์ที่ 1: พี่โบ้ทำการเปิดออเดอร์ Sell ในคู่สกุลเงิน  EUR/USD ที่ราคา 1.1500 และตั้ง Trailing Stop ไว้ที่ระยะห่าง 30 pips

สถานการณ์ที่ 2: ราคาของคู่สกุลเงินปรับตัวลงแตะที่ระดับราคา 1.1450 (-50 pips) Trailing Stop จึงเคลื่อนไปอยู่ที่ระดับราคา 1.1480 (1.1450 + 30 pips)

สถานการณ์ที่ 3: หากราคากลับตัวขึ้นอย่างกะทันหันทำให้แตะ 1.1480 คำสั่ง Trailing Stop ที่ถูกตั้งไว้จะทำงานและปิดออเดอร์โดยอัตโนมัติทันที ทำให้พี่โบ้ได้กำไรจากการเทรดครั้งนี้ 20 pips เนื่องจากขายที่ราคา 1.1500 และปิดออเดอร์ที่ราคา 1.1480 ซึ่งราคาลดลง 20 pips ในทิศทางที่เอื้อประโยชน์ต่อออเดอร์ Sell

Buy Trailing StopSell Trailing Stop
ตำแหน่งของ Trailing Stopอยู่ต่ำกว่าราคาตลาดอยู่สูงกว่าราคาตลาด
การเคลื่อนไหวเคลื่อนขึ้นเมื่อราคาขึ้นและไม่เคลื่อนลงเมื่อราคาลงเคลื่อนลงเมื่อราคาลงและไม่เคลื่อนขึ้นเมื่อราคาขึ้น
หลักการทำงานทำงานเมื่อราคาลงมาถึงระดับ Trailing Stopทำงานเมื่อราคาขึ้นไปถึงระดับ Trailing Stop

*ข้อสังเกต ทั้งการเปิดออเดอร์ Buy และ Sell จะมีการเคลื่อนไหวของ Trailing Stop เป็นขั้นบันไดเหมือนกันทั้งคู่ และหลักการง่าย ๆ คือ อยากให้จำไว้ว่า บันไดที่สร้างขึ้นจากการเคลื่อนไหวของ Trailing Stop เปรียบเสมือน One-way เพราะสำหรับการ Buy บันไดจะขึ้นได้อย่างเดียวไม่มีการลง ส่วน Sell บันไดจะลงได้อย่างเดียวไม่สามารถขึ้นได้ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยว่าการทำงานของ Trailing Stop ทำไมถึงมีความคล้ายคลึงกับคำสั่ง Stop Loss แล้วทั้งสองคำสั่งเป็นคำสั่งเดียวกันไหม? ไปหาคำตอบได้ในหัวข้อถัดไปเลยครับ

ความแตกต่างของ Trailing Stop และ Stop Loss

แม้ Trailing Stop และ Stop Loss จะเป็นคำสั่งที่ใช้บริหารความเสี่ยงด้วยกันทั้งคู่ แต่รู้ไหมครับว่า ความเป็นจริงแล้วทั้งสองคำสั่งมีความแตกต่างและการทำงานที่ต่างกันครับ โดยพี่โบ้จะขออธิบาย ดังนี้

Stop LossTrailing Stop
การใช้งานใช้กำหนดจุดขาดทุนที่แน่นอนปรับจุดตัดขาดทุนหรือกำไรตามการเคลื่อนไหวของระดับราคา
การทำงานคำสั่งปิดออเดอร์จะทำงานเมื่อถึงจุดที่กำหนดคำสั่งปิดออเดอร์จะเคลื่อนไหวตามระดับราคา (เคลื่อนไหวแบบไดนามิก)
วัตถุประสงค์จำกัดการขาดทุนจำกัดการขาดทุน, ล็อกผลกำไร และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
การปรับเปลี่ยนระดับราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนเปลี่ยนอัตโนมัติตามการเคลื่อนไหวของราคา

➡️ แนะนำ! ลงลึกเกี่ยวกับ Stop Loss ได้ที่ TP SL คืออะไร? พร้อมวิธีการตั้งอย่างมือโปร

คำสั่ง Stop Loss คืออะไร?

Stop Loss คือ คำสั่งอัตโนมัติที่มีวัตถุประสงค์ในการจำกัดความเสี่ยง ใช้จำกัดความเสี่ยงในรูปแบบตัดขาดทุน โดยจะถูกตั้งไว้เหนือคำสั่ง Sell และอยู่ด้านล่างคำสั่ง Buy คำสั่งนี้จะทำงานเมื่อราคาเคลื่อนไหวมาถึงจุดที่ถูกกำหนดไว้ และจะถูกตัดขาดทุน ณ จุดดังกล่าว เพื่อให้เกิดการขาดทุนน้อยที่สุดครับ

เมื่อไหร่ควรใช้ Trailing Stop เมื่อไหร่ควรใช้ Stop Loss?

เมื่อคุณแยกคำสั่งทั้งสองออกแล้ว จะทำให้เห็นถึงการใช้งานได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นครับ ซึ่งทั้งสองคำสั่งจะใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • คำสั่ง Trailing Stop ใช้เมื่อต้องการล็อกผลกำไรในกรณีของการ Take Profit เมื่อแนวโน้มระดับราคาไม่หยุดนิ่งและเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ หรือเมื่อเทรดเดอร์ไม่แน่ใจว่าราคาจะขยับขึ้นหรือร่วงไปถึงจุดไหน แต่ต้องการป้องกันการขาดทุนและรักษาผลกำไรไว้
  • คำสั่ง Stop Loss ใช้เมื่อต้องการกำหนดจุดตัดขาดทุน โดยจุดดังกล่าวต้องเป็นจุดที่มีการกำหนดระดับราคาชัดเจนและเฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นตำแหน่งราคานี้เท่านั้น หรือเมื่อคุณไม่ต้องการให้ Stop Loss เปลี่ยนแปลงหรือเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ

🐶💬 ฟังดูเหมือนง่ายใช่ไหมล่ะครับ แต่แท้จริงแล้วการจะตั้ง Trailing Stop ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้น ล้วนแล้วแต่ต้องผ่านการวิเคราะห์มาแล้วทั้งนั้นแล้วจะวิเคราะห์ได้อย่างไร? ในหัวข้อถัดไปมีคำตอบไว้ให้คุณแล้วครับ

เดิมทีแล้วพี่โบ้ต้องบอกก่อนครับว่า เทคนิคการตั้ง Trailing Stop นั้น ไม่มีสูตรตายตัว เพราะจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง แต่พี่จะแนะนำเทคนิคการตั้งให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ดังนี้

1. พิจารณาความผันผวนของตลาด

  • ช่วงตลาดมีความผันผวนสูง 🠒 ควรกำหนดระยะห่างของ Trailing Stop ให้กว้างขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปิดออเดอร์ก่อนเวลาอันควรจากการแกว่งตัวของราคาอย่างรวดเร็ว
  • ช่วงตลาดมีความผันผวนต่ำ 🠒 ควรกำหนดระยะห่างของ Trailing Stop ให้แคบลง เพื่อความรวดเร็วในการล็อกผลกำไร

2. วิเคราะห์จากกรอบเวลา หรือ Timeframe ที่เลือกใช้

  • กรอบเวลาระยะสั้น (นาที – ชั่วโมง) 🠒 ตั้ง Trailing Stop ให้มีระยะห่างที่ไม่กว้างมาก เพื่อตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในกรอบเวลาอันสั้น
  • กรอบเวลาระยะกลาง-ยาวขึ้น (วัน สัปดาห์ เดือน หรือปี) 🠒 ควรตั้ง Trailing Stop ให้มีระยะห่างที่กว้างขึ้นจากกรอบเวลาระยะสั้น เพื่อให้ราคาได้มีพื้นที่ในการเคลื่อนไหวตามแนวโน้มหลักที่มากขึ้น

3. ตั้งคำสั่งตามความผันผวนของคู่เงิน

  • คู่เงินที่มีความผันผวนสูง 🠒 ต้องใช้ Trailing Stop ที่มีระยะห่างมากกว่า เพราะคู่เงินดังกล่าวราคาจะมีความเคลื่อนไหวรวดเร็วและการแกว่งตัวของราคาจะกว้าง หากตั้ง Trailing Stop ไว้ในระยะที่แคบจนเกินไปจะทำให้ออเดอร์ถูกปิดไวกว่ากำหนดและพลาดโอกาสในการทำกำไร
  • คู่เงินที่มีความผันผวนไม่มาก 🠒 ควรตั้ง Trailing Stop ที่มีระยะห่างแคบ เพราะการเคลื่อนไหวของราคาของคู่เงินที่ความผันผวนต่ำจะไม่เปลี่ยนแปลงสูงมาก ส่งผลให้มีช่วงของการแกว่งตัวของราคาที่แคบกว่า จึงควรตั้ง Trailing Stop ให้มีระยะห่างที่แคบลงได้ เพื่อทำกำไรได้เร็วขึ้น

4. ตั้งตามกลยุทธ์การเทรดของแต่ละบุคคล

  • สายเทรดยาว 🠒 ตั้ง Trailing Stop ให้มีระยะห่างที่กว้างขึ้น เพื่อให้สามารถจับการเคลื่อนไหวของแนวโน้มที่มีระยะยาวได้
  • สายเทรดสั้น 🠒 ตั้ง Trailing Stop ให้มีระยะห่างที่แคบลง เพื่อล็อกกำไรจากการแกว่งตัวของราคาในแต่ละรอบ เพราะโดยทั่วไปสายเทรดระยะสั้นจะเน้นการทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาในปริมาณ 5-20 Pips อยู่แล้ว การตั้ง Trailing Stop ที่แคบจึงช่วยให้เทรดเดอร์สายนี้ทำกำไรจากการเทรดหลาย ๆ ครั้งได้

ข้อดีของ Trailing Stop

  • ช่วยให้กำไรวิ่งได้ยาวขึ้น
  • ลดการตัดสินใจ โดยมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
  • คำสั่งมีความยืดหยุ่น สามารถกำหนดระยะห่างเป็นจุดหรือเปอร์เซ็นต์ก็ได้
  • ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุนล่วงหน้าได้
  • คำสั่ง Trailing Stop ทำให้เทรดเดอร์ไม่ต้องคอยเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา เพราะคำสั่งจะทำงานเองโดยอัตโนมัติ

ข้อเสียของ Trailing Stop

  • ไม่เหมาะกับตลาดที่เป็น Sideways หรือตลาดที่มีแนวโน้มไม่ชัดเจน เพราะอาจทำให้เกิดสัญญาณผิดพลาดและคำสั่งหยุดบ่อยครั้ง
  • ต้องใช้ความเข้าใจในการใช้งานมาก อาจไม่เหมาะกับมือใหม่
  • มีโอกาสเกิด Slippage ในช่วงตลาดผันผวน
  • อาจพลาดโอกาสทำกำไรสูงสุด เพราะคำสั่งอาจทำให้คุณปิดออเดอร์ไวกว่าที่ควร

Trailing Stop เป็นหนึ่งคำสั่งในการบริหารความเสี่ยงที่มีกลไกการทำงานแบบไดนามิกที่คำสั่งจะเคลื่อนไหวไปตามระดับราคาที่ขยับขึ้นลงตลอดเวลาในตลาดฟอเร็กซ์ ซึ่งคำสั่งนี้จะทำงานภายใต้การตั้งค่าที่เทรดเดอร์กำหนดไว้ เช่น การกำหนดระยะห่างไว้ 40 Pips เป็นต้น  ทำให้คำสั่งประเภท Trailing Stop มีความแตกต่างจากคำสั่งบริหารความเสี่ยงอื่น ๆ

อย่างไรก็ดี การพิจารณาตั้งคำสั่ง Trailing Stop ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เทรดเดอร์จำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด เพราะหากคุณตั้งผิดพลาดคำสั่งที่ช่วยบริหารความเสี่ยงอาจกลับกลายเป็นคำสั่งที่เพิ่มความเสี่ยงให้กับคุณแทน

📢 Traderbobo แนะนำ

รู้ไหมครับว่า คำสั่งซื้อขายในตลาด Forex ไม่ได้มีแค่ Buy กับ Sell มาศึกษาคำสั่งซื้อขายในตลาด Forex ฉบับละเอียดพร้อมวิธีการใช้งานได้ที่บทความด้านล่างนี้ 👇📈

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Trailing Stop 

1. ควรตั้ง Trailing Stop เท่าไหร่ดี?

การตั้งระยะห่างของคำสั่ง Trailing Stop จะขึ้นอยู่กับรูปแบบการเทรดของเทรดเดอร์เองครับ ซึ่งหัวใจของการตั้ง Trailing Stop ให้มีระยะห่างที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ส่งผลต่อตลาด ณ ขณะนั้น และกลยุทธ์ในการเทรดของคุณเองครับ

2. สามารถใช้ Trailing Stop ได้ในทุกตลาดหรือไม่?

คำสั่ง Trailing Stop สามารถใช้ได้กับทุกตลาดครับ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดฟอเร็กซ์, ตลาดคริปโต, ตลาดหุ้น, ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และตลาดอนุพันธ์ ซึ่งรูปแบบการใช้งานจะแตกต่างกันไปตามรูปแบบและกลไกของตลาดนั้น ๆ รวมถึงคำสั่งนี้ยังนิยมเป็นพิเศษในตลาดหุ้นครับ

3. Trailing Stop สามารถใช้ในการเทรดระยะสั้นได้หรือไม่?

Trailing Stop สามารถใช้ได้ทั้งกับการเทรดสั้นและเทรดยาวครับ เพียงแต่เทรดเดอร์อาจต้องปรับการตั้งค่าระยะห่างให้สอดคล้องกับการเทรด เช่น หากเทรดระยะสั้นควรเลือกตั้งค่าระยะห่างคำสั่ง Trailing Stop ในช่วงสั้น ๆ เพราะการเทรดระยะสั้นจะทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อยครับ

4. คำสั่ง Trailing Stop สามารถใช้ได้ทั้งกับคำสั่ง Buy และ Sell ไหม?

คำสั่ง Trailing Stop สามารถใช้ได้ทั้งกับออเดอร์ซื้อ (Buy) และออเดอร์ขาย (Sell) ครับ โดยการทำงานของคำสั่งก็จะมีวัตถุประสงค์แตกต่างกันไปตามรูปแบบของออเดอร์ ดังนี้

  • ใช้คำสั่งกับออเดอร์ซื้อ (Buy) เพื่อป้องกันกำไรเมื่อราคาลง
  • ใช้คำสั่งกับออเดอร์ขาย (Sell) เพื่อป้องกันกำไรเมื่อราคาขึ้น


อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้

พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense
Top Forex Brokers
FXGT.com
4/5
EIGHTCAP
4/5
Pepperstone
2/5
FXGT.com
4/5
EIGHTCAP
4/5
Pepperstone
2/5