เข้าใจจิตวิทยาตลาดช่วงไซด์เวย์ (Sideway) ง่าย ๆ ใน 5 นาที

Table of Contents
ไซด์เวย์คืออะไร (Sideway)

รู้หรือไม่ครับว่า ตลาด Forex ส่วนใหญ่ราคามักจะอยู่ในช่วง “ไซด์เวย์” หรือช่วงที่เขาว่ากันว่า เป็นฝันร้ายของเทรดเดอร์ เพราะมันถือเป็นช่วงการเคลื่อนไหวของตลาดที่เทรดเดอร์หลายคนไม่กล้าเปิดออเดอร์ แท้จริงแล้วช่วงตลาดไซด์เวย์น่ากลัวแบบที่เราคิดกันจริงหรือไม่ หรือเป็นแค่ความกังวลที่บอกต่อกันมา

วันนี้พี่โบ้จะพาทุกคนไปหาคำตอบกันครับว่า ตลาดช่วงไซด์เวย์คืออะไร? และไม่ควรเปิดออเดอร์เทรดในช่วงดังกล่าวจริงหรือไม่

*หมายเหตุ: บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงให้ชัดเจน

ไซด์เวย์คืออะไร (Sideway)

ไซด์เวย์ คือ ช่วงที่ตลาดมีแรงซื้อและแรงขายเท่ากัน (อุปสงค์ = อุปทาน) ทำให้ราคาเคลื่อนที่อยู่ในกรอบแคบ ๆ หรือง่าย ๆ ก็คือ เป็นช่วงที่ตลาดไม่มีเทรนด์ที่ชัดเจนนั่นเอง ส่งผลให้ตลาดช่วงนี้ค่อนข้างคาดเดาทิศทางได้ยาก

ตลาด Sideway แตกต่างจากตลาดช่วงที่เป็น Trend อย่างไร?

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ไซด์เวย์คือช่วงที่ตลาดเคลื่อนที่โดยไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน และวิ่งไปเรื่อย ๆ ในกรอบแคบ แต่ในช่วงที่ตลาดเป็น Trend ราคาจะเคลื่อนที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงอย่างชัดเจนครับ

ตลาดช่วงไซด์เวย์บอกอะไร? 

สภาวะตลาดที่อยู่ในช่วงไซด์เวย์สามารถบอกเราได้หลายอย่างเลยครับ เช่น บ่งบอกสภาวะตลาดที่อยู่ในช่วงพักตัวและกำลังรอสัญญาณในการกลับตัว รวมถึงบ่งบอกในเชิงจิตวิทยาว่า นักลงทุนกำลังอยู่ในช่วงลังเลหรือรอจังหวะดี ๆ ในการเข้าเทรด

เหตุผลที่ทำให้ตลาดอยู่ในช่วงไซด์เวย์นั้น เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนี้

  1. ขาดแรงจูงใจและสิ่งกระตุ้นในการซื้อขาย
  2. เกิดความสมดุลของแรงซื้อและแรงขายในตลาด ทำให้ตลาดไม่แสดงเทรนด์ชัดเจนในฝั่งใดฝั่งหนึ่ง
  3. เกิดการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อมูลค่าของสกุลเงิน เช่น การปรับเปลี่ยนนโยบายของธนาคารกลาง ความขัดแย้งระหว่างประเทศหรือความขัดแย้งภายในประเทศ

ลักษณะของตลาดไซด์เวย์

ลักษณะของไซด์เวย์นั้น ถ้าจะพูดให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ ราคาจะถูกดึงด้วยแรงของทั้งสองฝั่งทั้งแรงซื้อและแรงขาย ทำให้เส้นราคาจะเคลื่อนที่อยู่ในพื้นที่ที่จำกัด เหมือนลูกบอลที่เด้งไปมาระหว่างกำแพงสองข้าง โดยมีแนวรับเป็นพื้นและแนวต้านเป็นเพดาน หรือคุณสามารถสังเกตได้จากข้อต่อไปนี้

  1. ราคาแกว่งไปมาในช่วงแคบ ๆ
  2. ราคาไม่สามารถทะลุแนวรับหรือแนวต้านได้
  3. ราคามีการเด้งกลับ เมื่อแตะระดับสำคัญ

นอกจากลักษณะที่กล่าวมานี้ ไซด์เวย์ยังสามารถแบ่งออกได้มากถึง 6 รูปแบบ ตามลักษณะของกราฟและพฤติกรรมของราคาครับ

รูปแบบของไซด์เวย์สามารถแบ่งได้ตามรูปแบบการเคลื่อนตัวของกราฟราคา ออกมาเป็น 6 รูปแบบ ดังนี้

ไซด์เวย์รูปแบบที่ 1 : Range-Bound

รูปแบบของไซด์เวย์: Range Bound

ลักษณะ: ราคาจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบที่จำกัดระหว่างแนวรับและแนวต้าน โดยมีลักษณะการเคลื่อนที่คล้ายอักษร “W” หรือ “M” สลับกันไป

ความหมาย: บ่งบอกถึงช่วงเวลาที่ตลาดกำลังลังเลและยังไม่มีทิศทางที่แน่นอน แรงซื้อและแรงขายมีความสมดุลกันอย่างชัดเจน

ไซด์เวย์รูปแบบที่ 2 : Horizontal Channel

รูปแบบของไซด์เวย์: Horizontal Channel

ลักษณะ: คล้ายกันกับ Range-Bound แต่กรอบการเคลื่อนที่ของราคามักจะดูเป็นระเบียบและชัดเจนมากกว่า รวมถึงไม่แกว่งตัวมากเท่ากับ Range-Bound  ซึ่งแนวรับและแนวต้านจะอยู่ในตำแหน่งที่ขนานกัน

ความหมาย: เป็นช่วงที่ราคากำลังพักตัวและรวบรวมพลังก่อนที่จะเลือกทิศทางในการเคลื่อนตัวใหม่ และรูปแบบนี้เทรดเดอร์มักนิยมใช้กลยุทธ์ “Range Trading” ในการเข้าเทรด

ไซด์เวย์รูปแบบที่ 3 : Consolidation Zone

รูปแบบของไซด์เวย์: Consolidation Zone

ลักษณะ: ราคาเคลื่อนที่อยู่ในกรอบสามเหลี่ยมที่บีบตัวแคบลงเรื่อย ๆ 

ความหมาย: เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผันผวนที่ลดลง และบ่งบอกว่าตลาดกำลังเตรียมตัวที่จะ Breakout ออกนอกกรอบสามเหลี่ยมไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างรุนแรง

ไซด์เวย์รูปแบบที่ 4 : Rectangle Pattern

รูปแบบของไซด์เวย์: Rectangle Pattern

ลักษณะ: รูปแบบที่ราคาเคลื่อนที่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ชัดเจน มีแนวรับและแนวต้านที่ขนานกัน

ความหมาย: เป็นรูปแบบการพักตัวที่บ่งชี้ถึงความลังเลของตลาดคล้ายกันกับ Horizontal Channel มักเกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวของราคาแบบมีแนวโน้มชัดเจน และราคาจะหยุดพักตัวอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมก่อนที่จะไปในแนวโน้มเดิมต่อ

📌 ข้อสังเกตเพิ่มเติม: แม้ทั้งสองรูปแบบจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ Horizontal Channel จะบ่งบอกถึงช่วงสภาวะตลาดที่อยู่ในช่วงไซด์เวย์มาเป็นเวลานานแล้ว แต่ Rectangle Pattern จะเกิดหลังจากที่ตลาดมีแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาที่เป็นแนวโน้มที่ชัดเจนมาก ๆ ดังนั้น Rectangle Pattern มักใช้ในบริบทของการพักตัวเพื่อไปต่อ ในขณะที่ Horizontal Channel มักใช้เพื่ออธิบายสภาวะตลาดไซด์เวย์ที่คงที่ครับ

รูปแบบของไซด์เวย์: With Slight Slope

ลักษณะ: ราคาจะวิ่งโดยมีแนวโน้มขึ้นหรือลงเล็กน้อย และในกรอบการเคลื่อนที่ของราคาจะมีความชัน ซึ่งอาจเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมที่ชันขึ้น (Ascending Triangle) หรือสามเหลี่ยมที่ลาดลง (Descending Triangle) ก็ได้

ความหมาย: ทิศทางของตลาดกำลังถูกผลักให้ไปในทางใดทางหนึ่ง โดยอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวหรือการพักตัวก่อนไปต่อ

รูปแบบของไซด์เวย์: Choppy Market

ลักษณะ: ราคาเคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างรวดเร็ว อย่างไม่เป็นระเบียบ และไม่มีทิศทางที่แน่นอน ทำให้ไม่สามารถระบุแนวรับหรือแนวต้านได้อย่างชัดเจน

ความหมาย: เป็นช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงและไม่มีทิศทางที่แน่นอน แนะนำให้เทรดเดอร์หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงเวลานี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่สูงมากและมีโอกาสในการทำกำไรต่ำ

กลยุทธ์การเทรดในช่วงตลาดไซด์เวย์จะแบ่งออกเป็น 3 กลยุทธ์ ดังนี้

  • กลยุทธ์การเทรดแบบ Range Trading
    • การทำกำไรในกรอบแคบ ๆ คือ เข้าซื้อที่แนวรับและขายที่แนวต้าน
  • กลยุทธ์การเทรดแบบ Breakout Trading
    • เป็นการรอให้ราคาทะลุเส้นแนวรับหรือแนวต้านก่อน จึงค่อยทำการเปิดออเดอร์เทรด เช่น หากราคาเคลื่อนตัวทะลุแนวต้านขึ้นไป ควรเปิดออเดอร์ Buy หากทะลุแนวรับลงมา ควรเปิดออเดอร์ Sell เพื่อทำกำไร
  • กลยุทธ์การเทรดแบบ Scalping
    • เป็นกลยุทธ์การเทรดแบบระยะสั้น โดยทำกำไรจากเคลื่อนไหวของราคาในระยะเวลาสั้น ๆ เน้นเข้าออเดอร์เร็วและปิดออเดอร์เร็ว เพื่อทำกำไรจากความผันผวนที่เกิดขึ้นในช่วงไซด์เวย์

จากกลยุทธ์ทั้งหมดที่กล่าวไปนั้น จะมีหนึ่งกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์หลายคนนิยมนำมาเทรดในช่วงตลาดไซด์เวย์ นั่นคือ กลยุทธ์การเทรดแบบ Range Trading ครับ

พี่โบ้ขอขยายความว่า Range Trading คือ กลยุทธ์เทรดในช่วงที่ตลาดเคลื่อนที่แบบไซด์เวย์ โดยจะอาศัยประโยชน์จากเส้นแนวรับและแนวต้าน เพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในกรอบเพียงช่วงสั้น ๆ

กลยุทธ์ Range Trading คืออะไร

การเทรดแบบ Range Trading ทำอย่างไร?

จากภาพ เป็นตัวอย่างการเทรดโดยใช้กลยุทธ์ Range Trading ในช่วงตลาดไซด์เวย์ โดยมีการนำเครื่องมือทางเทคนิคอย่าง Stochastic เข้ามาช่วยระบุสัญญาณ โดยองค์ประกอบของรูปภาพจะประกอบไปด้วย

  1. เส้นแนวต้าน (อยู่ด้านบนของราคา)
  2. เส้นแนวรับ (อยู่ด้านล่างของราคา)
  3. อินดิเคเตอร์ Stochastic Oscillator ตัวช่วยยืนยันแนวโน้มที่จะช่วยระบุจุด Overbought และ Oversold (พื้นที่ด้านล่างของกราฟราคา)

การระบุจุดเข้า Buy และ Sell ตามกลยุทธ์ Range Trading

เมื่อทราบองค์ประกอบของภาพแล้ว ทีนี้พี่โบ้จะพาทุกคนไปหาจุดเข้า Buy และ Sell ที่เหมาะสมกันครับ

จุดเข้า Buy (ซื้อ)

  • จุดเข้าซื้อที่เหมาะสม คือ เมื่อราคาลงมาแตะแนวรับ และ Stochastic Oscillator ส่งสัญญาณว่าเป็นช่วงที่ราคาอยู่ในโซน “Oversold” ซึ่งเป็นสัญญาณที่แข็งแกร่งในการเข้า Buy

จุดเข้า Sell (ขาย)

  • จุดเข้าขายที่เหมาะสม คือ เมื่อราคาขึ้นไปแตะแนวต้าน และ Stochastic Oscillator ส่งสัญญาณว่าเป็นช่วงที่ราคาอยู่ในโซน “Overbought”

*คำแนะนำจาก Traderbobo: เทรดเดอร์ควรตั้ง Stop Loss เสมอ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุน สำหรับออเดอร์ Buy ควรตั้ง Stop Loss ไว้ใต้แนวรับเล็กน้อย และฝั่งของออเดอร์ Sell ควรตั้ง Stop Loss ไว้เหนือแนวต้านเล็กน้อยเช่นกัน

เหตุผลที่เทรดเดอร์ส่วนมากหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงไซด์เวย์ มีดังนี้

  1. มีความเสี่ยงที่จะการเกิด False Breakout
  2. เป็นช่วงที่แนวโน้มของตลาดไม่ชัดเจน ทำให้ยากต่อการวิเคราะห์
  3. ทำส่วนต่างของกำไรได้ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับการเทรดในช่วงที่ตลาดเป็นเทรนด์
  4. อาจทำให้ต้นทุนการเทรดสูงขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากต้องเปิดออเดอร์เพื่อทำกำไรบ่อยครั้งในช่วงที่ราคาเคลื่อนตัวในกรอบแคบ

False Breakout คืออะไร?

False Breakout คือ สถานการณ์ที่ราคาสามารถเคลื่อนที่ทะลุกรอบแนวรับ-แนวต้านไปได้แล้ว แต่ก็กลับตัวมาเคลื่อนที่ในกรอบเดิม

ภาวะไซด์เวย์ คือ ช่วงที่ตลาดเคลื่อนที่อยู่ในแนวโน้มแบบคงที่และไม่แสดงแนวโน้มหรือเทรนด์ที่ชัดเจนออกมา ทำให้เทรดเดอร์ส่วนมากไม่นิยมเข้าเทรดในตลาดช่วงดังกล่าว แต่แท้จริงแล้ว การเทรดในช่วงนี้สามารถทำได้และไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอย่างที่คิดครับ เพียงแต่คุณต้องเข้าใจสภาวะของตลาดและอ่านมันให้ขาด เพียงเท่านี้การเทรดในช่วงไซด์เวย์ก็จะไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไซด์เวย์ (Sideway)

1. แนวโน้ม Sideway คืออะไร?

แนวโน้มช่วงไซด์เวย์เป็นแนวโน้มที่เคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ โดยไม่แสดงลักษณะของแนวโน้มอย่างชัดเจน

2. Breakout คืออะไร?

Breakout คือ จุดที่ราคาทะลุเส้นแนวรับหรือแนวต้าน ซึ่งการเกิด Breakout ก็สามารถสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้อีกด้วยครับ

3. หุ้น Sideway หมายถึงอะไร?

หุ้น Sideway หมายถึง ช่วงที่ราคาของหุ้นเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบ ๆ หรือเป็นช่วงพักตัวของหุ้น

4. Sideway Up และ Sideway Down คืออะไร?

Sideway Up และ Sideway Down คือ ช่วงที่ราคาเคลื่อนที่แบบไม่มีทิศทางชัดเจน ซึ่ง Sideway Up กราฟราคาจะมีแนวโน้มเอียงขึ้นเล็กน้อย ส่วน Sideway Down แนวโน้มราคาจะเอียงลงเล็กน้อยครับ


อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้

พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense