Indicator พื้นฐาน ที่ห้ามพลาด สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ทุกคน กลับมาพบกับพี่โบ้กันอีกครั้งนะครับ รอบนี้พี่โบ้จะมาแนะนำ Indicator พื้นฐาน ที่ห้ามพลาด สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันครับ!
1. Exponential Moving Average (EMA)
EMA เป็น Indicator ที่ใช้แสดงค่าเฉลี่ยของราคาสินทรัพย์ โดยเราจะสามารถระบุจำนวนวันที่ต้องการเฉลี่ยได้เองครับ
ตัวอย่างเช่น เส้น EMA 10 วัน หมายถึง เส้นที่โปรแกรมคำนวณค่าเฉลี่ยของราคาสินทรัพย์นั้นเป็นจำนวน 10 วันย้อนหลัง นั่นเองครับ
วิธีการดูจุดที่เราสามารถซื้อ – ขาย จากเส้น EMA
- ซื้อ ก็ต่อเมื่อเส้น EMA ที่วันน้อยกว่า ตัดเส้น EMA ที่วันมากกว่าขึ้นไป ตัวอย่างเช่น เส้น EMA 5 ตัดเส้น EMA 50 วันขึ้นไป
- ขาย ก็ต่อเมื่อเส้น EMA วันที่มากกว่า ตัดเส้น EMA ที่วันน้อยกว่าลงด้านล่าง ตัวอย่างเช่น เส้น EMA 50 วัน ตัดเส้น EMA 5 วันลงด้านล่าง
วิธีการเลือกใช้เส้น EMA
จริง ๆ แล้ว เราไม่สามารถระบุอย่างตายตัวได้ว่า ควรใช้ EMA เท่าไหร่ในการคำนวณ เพราะเราต้องดูรูปแบบการวิเคราะห์ของเพื่อน ๆ แต่ละคน และความถนัดในการวิเคราะห์รูปแบบประกอบด้วยครับ แต่อย่างไรก็ตาม พี่โบ้มีทริคที่นักลงทุนส่วนใหญ่ใช้กันมาแนะนำ นั่นคือ การใช้เส้น EMA 4 เส้น ได้แก่ 5, 50, 75 และ 200 วัน เพราะว่าระยะเวลาเหล่านี้ ถือว่าครอบคลุมระยะเวลาการเทรดทั้งหมดในช่วงนั้น ๆ ครับ
แต่หากเพื่อน ๆ อยากให้พี่โบ้แนะนำสำหรับเทรดเดอร์แต่ละสายจริง ๆ พี่โบ้จะแนะนำให้ดังนี้ครับ
- สายระยะสั้น คือ เส้น EMA 5 วัน
- สายระยะกลาง คือ เส้น EMA 50 และ 75 วัน
- สายเทรดระยะยาว คือ เส้น EMA 200 วัน
ใครเป็นสายไหนในการเทรดก็สามารถเลือกเส้น EMA ที่ตรงกับการเทรดของเราได้เลยนะครับ
2. Stochastic Oscillator
Stochastic Oscillator บางครั้ง เทรดเดอร์ก็เรียกย่อ ๆ ว่า STO ครับ โดยเป็นเครื่องมือที่นำ MACD และ RSI มารวมไว้ด้วยกัน ใช้สำหรับดูจุดซื้อ – ขาย และทำให้เราได้รู้ว่า สินทรัพย์ที่เราสนใจนั้น มีปริมาณการซื้อ – ขาย เป็นอย่างไร
โดยเครื่องมือดังกล่าวนี้ จะประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ คือ เส้น %K และเส้น %D
วิธีการดูจุดที่เราสามารถซื้อ – ขาย จาก Stochastic Oscillator
- ซื้อ ก็ต่อเมื่อเส้น %K ตัดเส้น %D ขึ้นที่จุดกลุ่ม หรือบริเวณค่าน้อยกว่า 20 หมายความว่า ช่วงนั้น สินทรัพย์ที่เราสนใจนี้ ขายถูกมากเกินไป (Oversold) ดังนั้น เราจึงควรเข้าซื้อสินทรัพย์นี้นั่นเอง
- ขาย ก็ต่อเมื่อเส้น %D ตัดเส้น %D ขึ้นที่จุดกลุ่ม หรือบริเวณค่ามากกว่า 80 หมายความว่า ช่วงนั้น สินทรัพย์ที่เราสนใจนี้ ขายแพงมากเกินไป (Overbought) ดังนั้น เราจึงควรขายสินทรัพย์นี้นั่นเอง
โดยสรุปแล้ว Indicator ทั้ง 2 ตัว ก็ถือเป็นเครื่องมือพื้นฐานสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ เพื่อใช้ดูจุดเข้าซื้อ และขายสินทรัพย์ครับ ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถเลือกใช้เครื่องมือทั้ง 2 ตัว ได้ตามความเหมาะสม หรืออาจจะใช้ทั้ง 2 เลยก็ได้ครับ! และถ้าใครสนใจ Indicator ตัวไหน ก็สามารถสอบถามพี่โบ้ได้เลยนะ เดี๋ยวพี่โบ้จะหาคำตอบมาให้ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม: สาระน่ารู้
วิเคราะห์ราคาทองคำรายวัน: วิเคราะห์ราคาทองคำ และ Facebook Page