ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ Money Management  

Table of Contents
Money Management คือ
Money Management คือ

Money Management หรือการบริหารจัดการเงินทุน เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับนักลงทุน เนื่องจากการจัดการเงินทุนช่วยให้พอร์ตลงทุนของเรามีความเสี่ยงน้อยลง ดังนั้น พี่โบ้จึงเขียนบทความเรื่อง Money Management ให้กับนักลงทุนทั้งมือใหม่ และนักลงทุนที่มีประสบการณ์ทำความเข้าใจ ก่อนที่จะลงทุนกันครับ 

Money Management คืออะไร? 

Money Management หรือ MM คือ การบริหารจัดการเงินทุนอย่างเป็นระบบ ถือว่าเป็นการบริหารความเสี่ยงในการลงทุนอย่างหนึ่ง และช่วยให้นักลงทุนเห็นข้อได้เปรียบในการลงทุน

ทำไม Money Managememt มีความสำคัญกับนักลงทุน?

อดีตนักลงทุนส่วนใหญ่ได้มองข้ามการบริหารจัดการเงินทุนเพราะเห็นว่าไม่มีความสำคัญกับการลงทุน ทำให้นักลงทุนเข้าทำการลงทุน โดยไม่ได้มีการวางแผนบริหารความเสี่ยง ซึ่งนักลงทุนบางรายขาดทุน จากการสูญเสียเงินจำนวนมากในพอร์ต ดังนั้น ปัจจุบันนักลงทุนต่างหันมาให้ความสนใจการบริหารจัดการเงินทุน เพื่อให้พอร์ตการลงทุนมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น หรือสามารถบริหารเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นเองครับ 

ขั้นตอนการทำ Money Management

พี่โบ้ขอแนะนำนักขั้นตอนการทำ Money Management ให้กับนักลงทุนทุกคน ก่อนตัดสินใจลงทุน ซึ่งแบ่งออกได้ 3 ขั้นตอน ดังนี้ครับ

1. การควบคุมความเสี่ยง

ตามที่ทุกคนทราบกันว่า ตลาดการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ดังนั้น นักลงทุนจึงได้มีการวางแผนการลงทุนก่อนทุกครั้ง เพราะเราไม่สามารถทราบถึงอนาคตของตลาดได้ ที่ทำได้เป็นเพียงการคาดการณ์แนวโน้มทิศทางของตลาด ซึ่งการควบคุมความเสี่ยง คือ Risk & Reward โดย Risk เป็นการวางจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ป้องกันความเสียหายของพอร์ตการลงทุน และ Reward คือ โอกาสที่นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ (Take Profit)

ยกตัวอย่างเช่น คุณได้เข้าซื้อหุ้น A ปรากฏว่าได้ราคาหุ้นดังกล่าวมาในราคา 40 บาท หากคุณวิเคราะห์กราฟแล้วคาดว่าราคาของหุ้นสามารถขึ้นไปได้ถึง 45 บาท คุณจึงกำหนด Take Profit แต่ถ้าหากคุณคิดว่าราคาปิดต่ำกว่า 37 บาท ถือว่าเป็นเลือกการลงทุนผิดทาง ดังนั้น คุณอาจกำหนดราคาเป็นจุด Stop loss แทน 

สูตรการคำนวณ 

การคำนวณ Risk&Reward คิดจากการนำส่วนต่างของราคาเข้าซื้อกับจุด Stop Loss มาหารด้วยจุด Take Profit กับราคาเข้าซื้อ หาค่าได้ดังนี้ (40-38)/(45-40) = 0.4 หรือเขียนเป็นสัดส่วน Risk:Reward ได้ 1:2.5 ครับ  

โดยทั่วไปแล้ว RR ที่พอสามารถเสี่ยงลงทุนระยะสั้นได้จะอยู่ที่ 1:2 และลงทุนระยะยาวได้เมื่อมี RR ตั้งแต่ ตั้งแต่ 1:3 ขึ้นไป ทั้งนี้การที่ราคาจะขึ้นไปถึงจุด Take Profit หรือชน Stop Loss ก่อนนั้นขึ้นกับระบบเทรดและการวิเคราะห์กราฟของแต่ละคนทั้งสิ้น RR ดังนั้น จึงช่วยบอกได้ว่าจุดที่คุณเลือกเข้าลงทุนได้เปรียบมากน้อยแค่ไหน

2. การจัดสรรเงินทุน

การจัดสรรเงินทุนขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของนักลงทุนเอง โดยส่วนมากเป็นการกระจายความเสี่ยงของสินทรัพย์ที่ลงทุน ไม่ควรนำเงินทั้งหมดลงทุนเพียงสินทรัพย์เดียว หรือเป็นการจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation)

3. การวางแผนการลงทุน

การวางแผนการลงทุน สามารถวิเคราะห์ได้จากหลายปัจจัย เช่น ปัจจัยทางเศรษฐกิจ, ปัจจัยทางการเมือง หรือความมั่นคงทางการเมือง และการเคลื่อนย้ายเงินทุนของต่างชาติ (Fund Flow) เป็นต้น ซึ่งนักลงทุนต้องทำการวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

ตามที่พี่โบ้กล่าวมาข้างต้น Money Management หรือการบริหารจัดการเงินทุน เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้พอร์ตการลงทุนประสบความสำเร็จ เพราะการบริหารจัดการเงินทุน ทำให้เห็นภาพรวมพอร์ตการลงทุนของเรา จะได้วางแผนการลงทุน และช่วยระบุความเสี่ยงในการซื้อขายของตลาดได้ ดังนั้น ก่อนที่ทุกคนจะทำการลงทุน ควรศึกษาเรื่อง Money Management และทำตามขั้นตอน Money Management ที่พี่โบ้แนะนำกันด้วยนะครับ



อ่านบทความเพิ่มเติม: สาระน่ารู้

วิเคราะห์ราคาทองคำรายวัน: วิเคราะห์ราคาทองคำ และ Facebook Page

Social Share
Facebook
Twitter