
มาพบกับรีวิวโบรกเกอร์กันอีกครั้งครับ วันนี้ พี่โบ้จะพาไปดูรีวิวของ Rakuten Securities Australia ที่เจาะลึกทุกรายละเอียด ทั้งจุดเด่น และจุดด้อย สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่กำลังเลือกโบรกเกอร์ให้พิจารณากันครับ!

1. ประวัติ
Rakuten Securities Australia เป็นแบรนด์ภายใต้การจัดการของบริษัท Rakuten Securities, Inc. ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1999 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานมากกว่า 20 ปี ประกอบกับผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการอย่างหลากหลาย ทำให้มีการขยายสาขาไปยังฮ่องกง และออสเตรเลีย ซึ่งทำให้แบรนด์ดังกล่าว ถือกำเนิดขึ้นในปี 2011 ครับ จากนั้น ก็พัฒนามาเรื่อย ๆ จนปัจจุบัน กลายเป็น 1 ในโบรกเกอร์ออนไลน์รายใหญ่ของญี่ปุ่น และเอเชียครับ ในส่วนของหน้าเว็บเองก็มีทั้งภาษาอังกฤษ จีนกลาง อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทยรองรับครับ
2. ใบอนุญาต
- Australian Securities & Investments Commission (ASIC), หมายเลขใบอนุญาต 418036
- Japan Financial Services Agency (FSA), หมายเลขใบอนุญาต 5010701021660
- Hong Kong Securities and Futures Commission (SFC), หมายเลขใบอนุญาต AIM232
3. Spread
สำหรับค่า Spread ของโบรกเกอร์นี้ เริ่มต้นที่ 0.5 Pips

4. ประเภทบัญชี
โบรกเกอร์นี้มีประเภทบัญชีให้เพื่อน ๆ เลือกใช้อยู่ 4 แบบ คือ
- บัญชีแบบ Retail
- บัญชีแบบ Pro 1
- บัญชีแบบ Pro 2
- บัญชีแบบ Pro VIP
โดยแต่ละบัญชี มีรายละเอียดดังนี้ครับ

5. ช่องทางการฝาก – ถอน
การฝากเงิน มีขั้นต่ำ 50 USD ยกเว้นบัญชีประเภท Pro VIP โดยช่องทางที่รองรับ มีดังนี้ครับ
- NAB (การโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศและระหว่างประเทศ)
- บัตรเครดิต / เดบิต Visa หรือ Mastercard
- POLi
- NETELLER
- Skrill
- China UnionPay (uPOP)
- Instant transfer for South East Asia (เติมเงินได้ทันทีจากทุกธนาคารหลักในมาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม)
- TransferWise
โดยการโอนเงินผ่านธนาคาร ผู้ค้าที่ถอนเงินผ่าน NETELLER & Skrill จะต้องเสียค่าธรรมเนียม 2% ส่วนระยะเวลาในการดำเนินการก็ไม่นานครับ เหมือนกับโบรกเกอร์อื่น ๆ เลย คือ การฝาก รอไม่เกิน 1 วัน และการถอน รอไม่เกิน 3 วันทำการครับ
6. ผลิตภัณฑ์ที่สามารถเทรดได้
- Forex
- โลหะมีค่า
- น้ำมัน
- ดัชนี CFD
- Cryptocurrency
7. Platform ที่ใช้เทรด
เพื่อน ๆ สามารถเทรดได้ผ่านแพลตฟอร์ม MT4 ทั้งเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันบนมือถือเลยครับ
8. จุดแข็ง – จุดอ่อน
จุดแข็ง
- มีใบอนุญาต
- มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกเทรดหลากหลาย
- มีประเภทบัญชีให้เลือกเยอะ
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝาก
- ไม่มีค่า Commission
จุดอ่อน
- มีค่า Swap
- ค่า Spread เริ่มต้นสูงกว่าโบรกเกอร์อื่น ๆ
- ฝากขั้นต่ำค่อนข้างสูง
- มีค่าธรรมเนียมในการถอนเงินค่อนข้างสูง
- หน้าเว็บภาษาเพี้ยน
- แพลตฟอร์มที่รองรับมีน้อย
โดยสรุปแล้ว โบรกเกอร์นี้ก็ถือเป็นโบรกเกอร์ชั้นนำของเอเชียเลยครับ เท่าที่ดูก็ใช้งานไม่ยากมาก เพียงแต่หน้าเว็บภาษาไทยอาจจะงง ๆ บ้าง ดังนั้น ควรใช้หน้าเว็บภาษาอังกฤษจะสะดวกสำหรับศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่าครับ ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถเยี่ยมชมได้ที่ เว็บไซต์ภาษาไทย และเว็บไซต์ภาษาอังกฤษครับ แต่อย่างไรก็ดี โบรกเกอร์นี้ก็มีค่า Spread และค่าธรรมเนียมการถอนสูงกว่าโบรกอื่น ๆ ดังนั้น จึงอาจไม่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์รายย่อย หรือผู้ที่ไม่ชอบความยุ่งยากครับ
Source: ทีมงาน Traderbobo
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: สาระน่ารู้
อ่านรีวิวโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่: Review Broker