
จากบทความรีวิวโบรกเกอร์หลาย ๆ บทความที่ผ่านมา ในที่สุดวันนี้ก็ถึงคิวของ โบรกเกอร์ HYCM อีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่น่าสนใจแห่งปี 2022 ครับ โดยโบรกเกอร์นี้จุดเด่นอย่างหนึ่งก็คือ มีความน่าเชื่อถือสูงมาก เนื่องจากอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FCA ซึ่งหากใครที่อยู่ในวงการการเทรด จะรู้ดีว่า โบรกเกอร์ที่มี FCA เป็นผู้กำกับดูแล จะเป็นโบรกเกอร์ที่มีความเชื่อถือสูง เพราะ FCA มีความเข้มงวดในการกำกับดูแลอย่างมากนั่นเองครับ ดังนั้น พี่โบ้จึงไม่มีความกังวลเลยว่า อาจจะโดนโบรกเกอร์นี้โกง ทำให้พี่โบ้เทรดได้อย่างสบายใจนั่นเองครับ ถึงจุดนี้ พี่โบ้รู้ว่า เพื่อน ๆ คงอยากจะรู้ถึงรายละเอียดอื่น ๆ เพื่อที่จะได้ตัดสินใจถูกว่า ควรลงทุนกับโบรกเกอร์นี้ดีไหมใช่ไหมล่ะครับ ถ้าอย่างนั้น ไปดูรายละเอียดอื่น ๆ ในรีวิวด้านล่างนี้พร้อม ๆ กันเลย
1. ประวัติของ โบรกเกอร์ HYCM

มาเริ่มกันที่ประวัติของ โบรกเกอร์ HYCM กันเลยครับ HYCM นั้น มีชื่อเดิมเรียกว่า HYMarkets ครับ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Henyep Group โดย HYCM เป็นโบรกเกอร์ที่มีอายุยาวนานมากกว่า 20 ปี เนื่องจากถูกจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 1998 สำนักงานใหญ่ของ HYCM นั้น ตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษครับ และยังมีสำนักงานอยู่ที่ไซปรัส ดูไบ คูเวต ฮ่องกง และหมู่เกาะเคลย์แมนอีกด้วยครับ และเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ ให้บริการถึง14 ภาษา ทำให้ผู้คนจากหลายประเทศสามารถใช้บริการได้ครับ
2. ใบอนุญาต
- ได้รับใบอนุญาต FCA หมายเลข 186171
- ได้รับใบอนุญาต CySEC หมายเลข 259/14
- ได้รับใบอนุญาต DFSA หมายเลข F000048
- ได้รับใบอนุญาต CIMA หมายเลข 1442313
3. Spread
สำหรับค่า spread นั้น จะแตกต่างกันออกไปตามประเภทบัญชีครับ ซึ่งมีดังนี้
- บัญชี Fixed ค่า spread จะเริ่มที่ 1.5
- บัญชี Classic ค่า spread จะเริ่มที่ 1.2
- บัญชี Raw ค่า spread จะเริ่มที่ 0.1
4. ประเภทบัญชีของ โบรกเกอร์ HYCM
มาถึงเรื่องของบัญชีการซื้อขายที่ HYCM มีให้บริการ พี่โบ้ขอบอกเพื่อน ๆ เลยครับว่า HYCM มีบัญชีซื้อขายทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกันครับ นั่นก็คือ บัญชี Fixed, บัญชี Classic, และบัญชี Raw โดยแต่ละประเภทบัญชีก็มีรายละเอียดแตกต่างกันออกไปดังนี้ครับ

บัญชี Fixed
- ค่า Spread จะเริ่มที่ 1.5 Pips
- ฝากเงินขั้นต่ำ 100 USD
- ปริมาณการซื้อขายขั้นต่ำจะอยู่ที่ 0.01
- ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
บัญชี Classic
- ค่า Spread จะเริ่มที่ 1.2 Pips
- ฝากเงินขั้นต่ำ 100 USD
- ปริมาณการซื้อขายขั้นต่ำจะอยู่ที่ 0.01
- ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
- มีระบบ EA
บัญชี Raw
- ค่า Spread จะเริ่มที่ 0.1 Pips
- ฝากเงินขั้นต่ำ 200 USD
- ปริมาณการซื้อขายขั้นต่ำจะอยู่ที่ 0.01
- มีค่าคอมมิชชั่น 4 USD ต่อรอบ
5. ช่องทางการฝาก-ถอน
สำหรับช่องทางการฝากเงินและถอนเงิน HYCM ก็มีช่องทางไว้ให้เราเลือกได้อย่างหลากหลายเลยครับ ที่สำคัญคือ ไม่เสียค่าธรรมเนียมทั้งการฝากและถอน ส่วนระยะเวลาที่ใช้ดำเนินการธุรกรรมนั้น อย่างเร็วที่สุดจะอยู่ที่ 1 ชั่วโมง และอย่างช้าที่สุดจะอยู่ที่ 7 วันครับ
การฝากเงิน

การถอนเงิน

6. ผลิตภัณฑ์ที่สามารถเทรดได้
HYCM ก็เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่มีผลิตภัณฑ์ให้เพื่อน ๆ เลือกเทรดได้อย่างหลากหลายครับ ไม่ว่าจะเป็น Forex, หุ้น, ดัชนี, คริปโต ฯ, และสินค้าโภคภัณฑ์ โดยแต่ละผลิตภัณฑ์ก็มีตัวเลือกให้เลือกได้หลากหลายอีกด้วยครับ

7. Platform ที่ใช้เทรด
ในส่วนของ platform ที่ HYCM มีให้ใช้เทรด นั่นก็คือ MT4 และ MT5 ที่เป็น platform การซื้อขายที่คนใช้กันอย่างแพร่หลายนั่นเองครับ นอกจากนี้ HYCM ยังมีเวอร์ชันที่เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์ iOS, Android, และเดสก์ท็อปด้วยนะครับ โดยเพื่อน ๆ สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งจุดนี้ ทำให้พี่โบ้สามารถใช้งานโบรกเกอร์ HYCM ได้อย่างสะดวก ง่ายต่อการดำเนินการธุรกรรมต่าง ๆ ครับ

8. จุดแข็ง-จุดอ่อนของ โบรกเกอร์ HYCM
จุดแข็ง
- มีความน่าเชื่อถือสูงมาก เนื่องจากอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหลายองค์กร
- มีผลิตภัณฑ์ให้เทรดที่หลากหลาย
- ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากเงิน
- สะดวกต่อการใช้งาน เนื่องจากมีเวอร์ชันแอปพลิเคชั่นบน iOS, Android, และเดสท์ด็อปให้ดาวน์โหลดใช้ได้ฟรี
จุดอ่อน
- หน้าเว็บไม่รองรับภาษาไทย
- มีค่าธรรมเนียมการถอนเงินที่น้อยกว่า 300 USD
- งานฝากเริ่มต้นค่อนข้างสูง เนื่องจากเงินฝากขั้นต่ำอยู่ที่ 100 USD
- มีค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน
9. สรุปภาพรวมของ โบรกเกอร์ HYCM
ถ้าจะให้พี่โบ้สรุปการใช้งานภาพรวมของโบรกเกอร์ HYCM พี่โบ้ขอบอกเลยว่า ค่อนข้างประทับใจครับ สิ่งที่พี่โบ้ชอบที่สุดของโบรกเกอร์นี้ก็คือ มีเวอร์ชันแอปพลิเคชันบน iOS, Android, และเดสท์ท็อปให้ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรีนี่แหละครับ ทำให้พี่โบ้ไม่ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอคอมอยู่บ้านตลอดเวลา รวมถึงการอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหลากหลายองค์กรที่น่าเชือถือ พี่โบ้จึงไม่มีความกังวลว่า อาจจะถูกโกงจากโบรกเกอร์นี้เลยครับ
อย่างไรก็ตาม มีบางจุดที่ขัดใจพี่โบ้เล็กน้อย นั่นก็คือ หน้าเว็บไม่รองรับภาษาไทยนี่แหละครับ ทำให้พี่โบ้อาจจะเข้าใจผิด หรือสามารถทำความเข้าใจได้ยากในรายละเอียดบางอย่างที่สำคัญ รวมถึงการมีค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานด้วยครับ แต่พี่โบ้ว่า ทั้ง 2 อย่างนี้ ก็ไม่ได้เป็นปัญหามากมายครับ พี่โบ้ยังยกให้โบรกเกอร์นี้เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ดีของปี 2022 ครับ ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจจะลงทุนกับโบรกเกอร์นี้ สามารถลองเข้าไปดูได้ที่นี่ สำหรับวันนี้ ก็หมดหน้าที่พี่โบ้แล้วครับ ถ้าเพื่อน ๆ ชอบบทความการรีวิวนี้ พี่โบ้ก็ฝากทุกคนติดตามบทความต่อ ๆ ไปด้วยนะครับ พี่โบ้รับรองว่า ไม่ผิดหวังแน่นอน
อ่านรีวิวโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่: Review Broker
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: สาระน่ารู้