Copy Trade คืออะไร? ทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาเทรดเอง!

Table of Contents
Copy Trade คืออะไร

Copy Trade คืออะไร? อีกหนึ่งรูปแบบการเทรดที่พี่โบ้เชื่อว่า ทั้งเทรดเดอร์มือใหม่หรือมือฉมังต้องเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว และคงสงสัยใช่ไหมล่ะครับว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราสามารถเข้าถึงความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของเทรดเดอร์มืออาชีพได้ โดยไม่ต้องลงมือเทรดเองแม้แต่คำสั่งเดียว งั้นมาไขข้อสงสัยที่คุณต้องการจะรู้กันครับ


*หมายเหตุ: บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับ Copy Trade เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด และการเทรดโดยใช้ Copy Trade อาจไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกคน ดังนั้น นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนเริ่มทำการลงทุนครับ

ข้อดีของ Copy Trade

  • เพิ่มโอกาสในการเทรด โดยใช้ประสบการณ์การเทรดของเทรดเดอร์มืออาชีพ
  • เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ไม่ค่อยมีเวลา
  • เป็นตัวช่วยให้กับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์น้อย
  • ลดการตัดสินใจโดยมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
  • เทรดเดอร์สามารถเรียนรู้จากกลยุทธ์การเทรดของ Master Trader ที่คุณคัดลอกได้ ทำให้เข้าใจวิธีการตัดสินใจและการบริหารความเสี่ยงมากขึ้น

ข้อเสียของ Copy Trade

  • เทรดเดอร์อาจไม่ได้ฝึกฝนความรู้และทักษะในการเทรดเท่าที่ควร
  • มีความเสี่ยงจากการขาดทุนของ Master Trader เนื่องจากผลงานในอดีตไม่สามารถรับประกันอนาคตได้
  • ผลตอบแทนที่ได้อาจลดลงเมื่อเทียบกับการเทรดด้วยตัวเอง เนื่องจากมีค่าคอมมิชชันและส่วนแบ่งกำไรที่ต้องแบ่งให้กับ Master Trader กรณีที่เทรดได้กำไร

………………….🐶………………….

ความนิยมของการ Copy Trade ในปัจจุบัน

ปัจจุบันการ Copy Trade ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น โดยวัดจากปริมาณการค้นหาเกี่ยวกับ Copy Trade ที่มีมากขึ้นทุกปี โดยมีอัตราเฉลี่ยระหว่าง 22%-38% ต่อปี รวมถึงในช่วงที่ผ่านมายังพบว่า ปริมาณการค้นหามีมากสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากข้อมูลที่กล่าวมา ทำให้พี่โบ้เกิดมุมมองเกี่ยวกับการ Copy Trade ดังนี้

Copy Trading กำลังเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วคราวที่เกิดขึ้นแบบฉาบฉวยอย่างที่หลายคนคิดกัน เพราะจากปริมาณการค้นหาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะในยุโรปและสหราชอาณาจักร แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนของ Copy Trade

อย่างไรก็ดี ในอุตสาหกรรมการเทรด พี่โบ้มองว่า ความนิยมของ Copy Trade ขึ้นอยู่กับการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีที่ทันสมัยผนวกรวมกับการให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ Copy Trade ที่ถูกต้อง เพื่อนำไปสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งและมีคุณภาพของ Copy Trade ในอุตสาหกรรมการเงินในระยะยาวครับ โดยหัวข้ออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Copy Trade ที่คุณควรรู้ พี่โบ้ได้จัดเตรียมมาไว้ให้แล้วในหัวข้อถัด ๆ ไปครับ

อ้างอิงข้อมูลจาก: Brokeree

Copy Trade คือ การคัดลอกคำสั่งซื้อขายของ Master Trader หรือนักเทรดต้นแบบ รวมถึงเทรดเดอร์คนอื่น ๆ ในตลาด Forex ไปที่บัญชีของคุณโดยอัตโนมัติ พูดง่าย ๆ คือ ใช้ความเชี่ยวชาญของเทรดเดอร์คนอื่นมาเทรดบนบัญชีของเรา โดยที่ไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์ตลาดเองครับ

ฟังดูง่ายและน่าสนใจใช่ไหมครับ? แต่แท้จริงแล้ว Copy Trade ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สำคัญ นั่นคือ ความเสี่ยงในการเลือก Master Trader ที่ไม่มีประสิทธิภาพ เพราะหากคุณเลือกคัดลอกคนที่ทำกำไรได้ไม่จริง หรือมีประวัติการขาดทุนสูง คุณก็อาจจะขาดทุนตามไปด้วย คุณจึงจำเป็นต้องดู Myfxbook ควบคู่ เพื่อตรวจสอบภาพรวมการเทรดทั้งหมดของเทรดเดอร์ครับ

Master Trader หรือ นักเทรดต้นแบบคืออะไร?

Master Trader ในบริบทของการ Copy trade นั้น จะหมายถึง เทรดเดอร์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการเทรดที่จะคอยให้สัญญาณ (Signal) รวมถึงเผยแพร่กลยุทธ์ที่ใช้ในการเทรดของตนเองให้เทรดเดอร์คนอื่น ๆ ได้คัดลอก โดยรูปแบบการให้บริการของ Master Trader ก็จะมีหลายรูปแบบด้วยกันขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้บริการครับ

………………….🐶………………….

รู้จัก 4 รูปแบบการให้บริการของ Master Trader

รูปแบบการให้บริการของ Master Trader

รูปแบบการให้บริการของ Master Trader สามารถให้บริการได้หลายรูปแบบ โดยพี่โบ้จะขอยกตัวอย่าง 4 รูปแบบที่เห็นได้บ่อย ๆ ดังนี้

  1. แบบสมัครสมาชิก: ผู้ใช้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายเดือน/รายปี
  2. แบบแบ่งกำไร: ผู้ให้สัญญาณจะได้รับส่วนแบ่งจากกำไรที่ผู้ใช้ทำได้จากการคัดลอกสัญญาณสามารถพบได้บ่อยใน Copy Trading หรือ บัญชี PAMM/MAM
  3. ให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม Copy Trade: ในบริบทของ Copy Trading นักเทรดต้นแบบ (Master Trader) ก็คือ ผู้ให้สัญญาณในการซื้อขาย (Signal Provider) ที่เทรดเดอร์รายอื่นสามารถคัดลอกการเทรดได้ โดยที่นักเทรดต้นแบบเหล่านี้ อาจได้รับค่าธรรมเนียมจากแพลตฟอร์ม เมื่อเทรดเดอร์รายอื่นใช้รูปแบบการเทรดของพวกเขา
  4. ไม่คิดค่าบริการ/ฟรี: Master Trader บางรายไม่คิดค่าบริการในการให้สัญญาณ เพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน

วิธีการเลือก Master Trader หรือ Signal Provider สำหรับการ Copy Trade

วิธีเลือก Master Trader และ Signal Provider

การเลือกต้นแบบในการเทรดหรือผู้ส่งสัญญาณเทรดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้ครับ

1. ผลการดำเนินงานและประวัติของเทรดเดอร์

  • พี่โบ้อยากให้คุณตรวจสอบประวัติการเทรด หรือติดตามดู Track Record ของ Master Trader อย่างน้อย 6-12 เดือน เพื่อประเมินความสม่ำเสมอของผลงาน 
  • ตรวจสอบเปอร์เซ็นต์การขาดทุนสูงสุดของ  Master Trader ซึ่งไม่ควรเกิน 30%-40% เพราะถือว่าเสี่ยงสูงมาก

2. ประเมินการจัดการความเสี่ยงของ Signal Provider

  • สำหรับพี่โบ้แล้ว เทรดเดอร์ที่วางแผนการเทรดมาอย่างดี ต้องมีการจัดการความเสี่ยงที่ชัดเจน ดังนั้น ควรดูว่าเทรดเดอร์มีการจัดการความเสี่ยงที่ดีหรือไม่ เช่น ใช้ Stop Loss อย่างสม่ำเสมอ หรือมีการควบคุมขนาดของ Position ที่เหมาะสมไหม
  • ดูรูปแบบการจัดการ Risk-Reward (RR) ของเทรดเดอร์ ซึ่งอัตรา RR ที่ดีควรอยู่ที่ระดับ 1:2 หมายความว่า เมื่อเสี่ยง 1 ควรได้กลับมา 2 ครับ เช่น หากคุณออกออเดอร์ด้วยเงินทุน 100 ต้องได้กลับคืนมา 200 ครับ

3. ประเมินความโปร่งใสจากการสื่อสารที่ชัดเจน

  • Master Trader ควรมีการสื่อสารที่ชัดเจน เช่น อธิบายเหตุผลในการเทรด การวิเคราะห์ และรายงานผลงานอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงคนที่เสนอผลตอบแทนที่ไม่สมเหตุสมผล หรือไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลการเทรดที่สำคัญ เช่น ส่วนแบ่งกำไรที่คุณต้องเสีย รวมถึงค่าคอมมิชชันต่าง ๆ 
  • ให้ความสำคัญกับผู้ที่สามารถตอบคำถามของเราได้อย่างละเอียด และมีการอัปเดตข้อมูลเป็นประจำ เพราะผมมองว่า Master Trader ที่ดี ไม่ควรจะหนีหายเมื่อเกิดการขาดทุน แต่ควรจะอธิบายสาเหตุและแผนการแก้ไขครับ

🐶💬พี่โบ้ขอแชร์… ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพแค่ไหนก็ล้วนแต่เคยผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้น ฉะนั้นแล้ว หลังจากเริ่ม Copy Trade คุณควรต้องติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ และทบทวนการเลือก Master Trader ทุก 3 เดือนเป็นอย่างต่ำ เพื่อประเมินว่า รูปแบบการเทรดของเขายังเหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของคุณอยู่ไหม

การเทรดทั่วไปมีความแตกต่างกับการเทรดแบบ Copy Trading แน่นอนอยู่แล้วครับ และเพื่อให้มีความเข้าใจที่เพิ่มมากขึ้น พี่โบ้จะขออธิบายความแตกต่างของทั้งสองรูปแบบการเทรด ดังนี้

ประเด็นการเปรียบเทียบ⭐เทรดโดยใช้ Copy Trade⭐⭐เทรดทั่วไป⭐
ความเสี่ยงความเสี่ยงที่ต้องเจอ มักมาจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเทรดเดอร์ต้นแบบความเสี่ยงมาจากการตัดสินใจของตัวเทรดเดอร์เอง
การตัดสินใจไม่ต้องตัดสินใจด้วยตนเอง ตัดสินใจและวิเคราะห์ตลาดด้วยตนเอง
ความรู้และทักษะลดความจำเป็นในการวิเคราะห์ตลาดเอง และได้เรียนรู้จากเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์อาศัยความรู้และทักษะการเทรดของตนเอง
การจัดการบัญชีช่วยให้เทรดเดอร์ประหยัดเวลาในการจัดการบัญชีจัดการบัญชีด้วยตนเอง
การใช้เวลาในการเทรดเทรดเดอร์ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา ทำให้ประหยัดเวลาในการเทรดต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ตลาดและตัดสินใจซื้อขายเอง

🐶🔍รู้หรือไม่? Copy Trading เป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของ Social Trading เท่านั้น ซึ่งรูปแบบของ Social Trade ที่นอกเหนือจาก Copy Trade คือ Mirror Trading และ Signal Trading แล้วทั้ง 3 รูปแบบนี้แตกต่างกันอย่างไรไปอ่านกันได้ในหัวข้อถัดไปได้เลย

Social Trading คืออะไร

คอนเซปต์ง่าย ๆ ของ Social Trade คือ ผสมผสานแนวคิดของโซเชียลมีเดียเข้ากับตลาดการเงิน เพื่อเปิดโอกาสให้เทรดเดอร์สามารถ “คัดลอก” หรือ “ติดตาม” กลยุทธ์การซื้อขายของเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ได้

จากที่กล่าวไปข้างต้น Social Trading จึงหมายถึง กลุ่มหรือชุมชนที่เทรดเดอร์สามารถเข้ามาและเปลี่ยนกลยุทธ์การเทรดของตนเอง ให้แก่เทรดเดอร์คนอื่น ๆ ได้ และเทรดเดอร์จะสามารถโต้ตอบแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้อย่างอิสระ ไม่ได้เจาะจงไปที่การคัดลอกรูปแบบการเทรดโดยตรงเหมือน Copy Trade 

Mirror Trading คืออะไร?

Mirror Trading คือ การเทรดที่จะคัดลอกรูปแบบการเทรดของเทรดเดอร์ต้นแบบ โดยสมบูรณ์แบบ 100% เทรดเดอร์ไม่สามารถแทรกแซงคำสั่งซื้อขายของเทรดเดอร์ต้นแบบได้ ซึ่งต่างจาก Copy Trade ที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า ทำให้กลยุทธ์การเทรดแบบ Mirror Trade เทรดเดอร์ต้องเป็นฝ่ายติดตามภาพรวมกลยุทธ์การซื้อขายทั้งหมด แทนที่จะติดตามเพียงการซื้อขายแค่เพียงบางออเดอร์

Signal Trading คืออะไร?

Signal Trading คือ การเทรดโดยอาศัยสัญญาณจากผู้เชี่ยวชาญ (Signal Provider) ในการเทรด หรือที่เราเห็นกันบ่อย ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์แบบว่า แจกซิก กลุ่มซิก นั่นแหละครับ แน่นอนว่าการที่คุณจะได้รับสัญญาณต้องสมัครรับข้อมูลก่อน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะมาในรูปแบบการวิเคราะห์ข้อมูลหรือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เพื่อให้เทรดเดอร์ได้นำไปตัดสินใจในการซื้อขาย ทำให้การเทรดประเภทนี้ เทรดเดอร์จะมีบทบาทในการตัดสินใจมากกว่าการเทรดแบบ Mirror Trade และ Copy Trade 

📢 Traderbobo แนะนำ
บทความที่ได้รวบรวม 80 คำศัพท์ Forex ที่จะเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการเริ่มต้นเทรดของคุณ! ไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ขั้นพื้นฐาน คำศัพท์เทคนิคอล หรือคำศัพท์หมวดการใช้งานอื่น ๆ สามารถอ่านได้ที่บทความนี้ 🧐💡

พี่โบ้ขอเปรียบเทียบความแตกต่างของ 3 รูปแบบของ Social Trading เพื่อให้เห็นความแตกต่างในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้

Copy Trading 
(คัดลอกการเทรด)
Mirror Trading
(เลียนแบบกลยุทธ์การเทรด)
Signal Trading 
(เทรดตามผู้ให้สัญญาณ)
สิ่งที่คัดลอกคำสั่งซื้อขายจริงของเทรดเดอร์ (การเปิด-ปิดออเดอร์ และการตั้ง SL/TP)ระบบและอัลกอริทึมการเทรด (EA)สัญญาณการซื้อขาย (บอกจังหวะการเข้า/ออก และการตั้ง SL/TP)
การควบคุม⭐⭐⭐
ผู้คัดลอกปรับความเสี่ยงได้บ้าง 
⭐⭐
ผู้คัดลอกแทบไม่สามารถปรับความเสี่ยงได้เลย
⭐⭐⭐⭐⭐
สามารถตัดสินใจและดำเนินการตามสัญญาณได้เอง
เหมาะกับใครมือใหม่, ผู้ที่ไม่มีเวลา และมีความต้องการเรียนรู้จากเทรดเดอร์ผู้มีประสบการณ์ผู้ที่ต้องการลงทุนอัตโนมัติแบบเต็มรูปแบบ และไม่ต้องการตัดสินใจด้วยตัวเองเทรดเดอร์ที่ต้องการไอเดียและอยากยืนยันความถูกต้องของการวิเคราะห์ แต่ยังต้องการควบคุมการเทรดด้วยตัวเอง

ขั้นตอนการเริ่มใช้ Copy Trade ง่ายนิดเดียวครับ ซึ่งจะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. เลือกโบรกเกอร์สำหรับการ Copy Trade
  2. ทำการลงทะเบียนเพื่อเปิดบัญชีเทรด
  3. เลือก Master Trader หรือ Signal Provider ที่ต้องการคัดลอกการเทรด
  4. ตั้งค่าการเทรด โดยอาจเริ่มจากเงินทุนเพียง 10%-20% ของเงินทุนทั้งหมดก่อน
  5. ติดตามผลและวางแผนการเทรด เพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุน

ปัจจุบันโบรกเกอร์หลายเจ้าได้มีการนำฟังก์ชันเสริมเกี่ยวกับการ Copy Trade เข้ามาให้เทรดเดอร์ใช้กัน เพื่อดึงดูดผู้ใช้ใหม่ ๆ สร้างความหลากหลายในการใช้งานและเพื่อให้เกิดข้อได้เปรียบจากการแข่งขันในตลาดการเงินที่มีค่อนข้างสูง โดย 5 ลำดับโบรกเกอร์ที่มี Copy Trade มีดังนี้

  • อันดับ 1 HFM
  • อันดับ 2 Pepperstone
  • อันดับ 3 EBC Financial Group 
  • อันดับ 4 Tickmill
  • อันดับ 5 AvaTrade

🐶💬 โบรกเกอร์ที่กล่าวไปก็ล้วนแต่มีข้อดีและเงื่อนไขการใช้งานที่แตกต่างกัน หากคุณต้องการศึกษา “เลือกโบรกเกอร์ที่มี Copy Trade เจ้าไหนดี” อย่างละเอียด สามารถอ่านเพิ่มเติม ได้ที่ GoTradeHere

Copy Trade ดีไหม ประสบการณ์จริงจากผู้ใช้ Copy Trade Pantip

ที่มา: Pantip

เคยลงทุน Forex จากเว็บหนึ่งที่มีระบบ Copy Trade คือ ระบบที่ ผู้เล่นคนไหนที่เก่ง ๆ เราสามารถคัดลอกการเทรดของเขาได้ เขาลงทุนอะไร แบบไหน ระบบจะเข้าซื้อให้เหมือนผู้ลงทุนคนนั้นแบบอัตโนมัติ ผมก็ลองเทรดไป ประมาณ 2,000 บาท เขาทำกำไรประมาณ 10% ให้ผมหลายวัน จากนั้นผมก็เพิ่มเงินทุนไปอีก 20,000 (ทุ่มหมดหน้าตัก) ได้กำไร 8%-10% ประมาณ 3 วัน จากนั้น วันที่ 4 ขาดทุนยับเลยครับ

ความคิดเห็น: เวลาจะ Copy ใคร ให้ดูผลงานยาว ๆ ยิ่งระยะยาวยิ่งดี จะดูแค่ 1-2 ปี มันไม่งพอ ถ้าดูยาวได้ 10 ปีให้ดูไปเลย อย่าไปเน้นผลตอบแทนสูง ๆ แต่ไม่สามารถทำกำไรได้ทุกปี ให้เน้นหาผลตอบแทนแบบสม่ำเสมอจะดีกว่า เช่น ทำกำไรได้ทุกปี ถึงจะกำไรไม่หวือหวา แต่ดีกว่าต้องมาเสี่ยง

🐶💬ความเห็นจากพี่โบ้: เคสนี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า  Copy Trade อาจดูเหมือนง่าย แต่ความจริง คือ ต้องทำความเข้าใจกลยุทธ์ของ Master Trader ให้ดี ที่สำคัญคือ การตั้งค่า Stop Loss และการจำกัดความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในบัญชีของคุณเอง รวมถึงการกระจายความเสี่ยงโดยไม่คัดลอก Master Trader เพียงคนเดียว เพราะการเทรดไม่ว่ารูปแบบใดก็มีความเสี่ยงทั้งนั้นครับ

Copy Trade เป็นเครื่องมือที่ “มีประโยชน์” ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงตลาดและประหยัดเวลาได้เป็นอย่างดีครับ แต่บางมุมก็เป็นเหมือน “ดาบสองคม” หากนักลงทุนไม่มีความรู้ความเข้าใจ ไม่มีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มากพอ ขาดการติดตามผลและปรับแผนการเทรดอย่างสม่ำเสมอ ก็มีโอกาสพลาดได้เหมือนกันครับ

อีกทั้ง การลงทุนใน Copy Trade ไม่ได้หมายความว่า เทรดเดอร์ไม่ต้องศึกษาอะไรเลย แค่นั่งเฝ้ารอผลการเทรดเฉย ๆ ก็พอ แบบนั้นเป็นความเชื่อที่ผิดนะครับ ความจริงแล้ว Copy Trade หมายถึงการย้ายภาระการตัดสินใจหลักไปให้ Master Trader ในขณะที่เราก็ยังคงต้องรับผิดชอบในการเลือก Master Trader ที่เหมาะสมและบริหารจัดการความเสี่ยงของพอร์ตตัวเองอย่างรอบคอบต่างหากครับ 

*หมายเหตุ: ก่อนพิจารณาใช้ Copy Trade ควรศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงให้ดีก่อนเริ่มทำการลงทุน 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Copy Trading

1. Copy Trade ดีไหม?

Copy Trade จะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งานครับ Copy Trade เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์และช่วยให้การเข้าถึงตลาดทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้นสำหรับบางกลุ่มนักลงทุน แต่ก็มีความเสี่ยงที่ตามมาอีกหลายข้อ การจะใช้ Copy Trade ให้ดี ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีความเข้าใจในตลาดและความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนครับ

2. Copy Trade เจ้าไหนดี?

ไม่มี Copy Trade เจ้าไหนที่เหมาะกับทุกคน ฉะนั้น เลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะกับแผนการลงทุนและสไตล์การลงทุนของตนเองดีที่สุด

3. Copy Trade ฟรีไหม?

Copy Trade ฟรี มีครับ แต่เป็นส่วนน้อย โดยทั่วไปการ Copy Trade จะถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น 1. ส่วนแบ่งกำไรที่ต้องจ่ายให้ Master Trader เมื่อคุณทำกำไร 2. ค่าธรรมเนียมที่มาจากการเทรดอยู่แล้ว เช่น ค่าสเปรด/ค่าคอมมิชชันที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจากการเทรด และ 3. อาจมีค่าธรรมเนียมในการฝาก/ถอนบางกรณี

4. ถ้าไม่มีความรู้เรื่องการเทรดสามารถใช้ Copy Trade ได้ไหม?

ไม่ควรครับ พี่โบ้ขอแนะนำให้คุณศึกษาความรู้พื้นฐานก่อน เพราะการมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการเทรด Forex และการบริหารความเสี่ยงเบื้องต้น จะช่วยให้คุณสามารถเลือก Master Trader และตั้งค่าการคัดลอกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้

พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense