
ในช่วงที่ตลาดการเงินผันผวนหรือเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ หรือความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ คำว่า สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) จึงเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง เพราะสามารถช่วยปกป้องพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น พี่โบ้จะพาไปทำความรู้จักว่า Safe Haven คืออะไร แล้วในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ควรลงทุนอะไรดี? ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันครับ!
Safe Haven คืออะไร?
Safe Haven คือ การลงทุนในทรัพย์สินที่มีความปลอดภัยสูงและความเสี่ยงต่ำ โดยมีเป้าหมายเพื่อสะสมมูลค่าและสร้างกำไรอย่างมั่นคงในระยะยาว ทรัพย์สินประเภทนี้มักมีมูลค่าสูงขึ้นในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ จึงเปรียบเสมือนหลุมหลบภัยที่ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด ถือเป็นการเปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสในการลงทุนอีกวิธีหนึ่งด้วยครับ
ลักษณะของ Safe Haven

- สร้างกำไรอย่างมั่นคงในระยะยาว
- มูลค่าสูงขึ้นในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ
- มีความน่าเชื่อถือสูง
- มีสภาพคล่องค่อนข้างสูง
- ความเสี่ยงต่ำ
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Safe Haven
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “Safe Haven” หรือสินทรัพย์ปลอดภัยมักเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุที่สามารถทำให้ผู้ลงทุนมีมุมมองที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสินทรัพย์เหล่านี้ นี่คือความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Safe Haven
1. คิดว่า Safe Haven มีแต่ทองคำ
แต่จริง ๆ แล้ว “Safe Haven” อาจหมายถึงสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น พันธบัตรรัฐบาลที่มีเครดิตดี (เช่น พันธบัตรสหรัฐฯ) หรือเงินสดในสกุลที่มั่นคง ไม่ใช่แค่ทองคำเท่านั้น
2. Safe Haven สามารถให้ผลตอบแทนสูงในทุกช่วงเวลา
ผู้ลงทุนบางคนคิดว่า Safe Haven จะให้ผลตอบแทนที่สูงเสมอในช่วงวิกฤต แต่ในบางครั้งสินทรัพย์เหล่านี้อาจมีผลตอบแทนที่ต่ำหรือไม่เปลี่ยนแปลงมากนักในช่วงที่สถานการณ์เริ่มกลับมาดีขึ้น
3. สินทรัพย์ Safe Haven ไม่มีความเสี่ยง
แม้ว่าสินทรัพย์ Safe Haven จะถูกมองว่าเป็นที่หลบภัยในช่วงเศรษฐกิจไม่แน่นอน แต่ในความเป็นจริงยังคงมีความเสี่ยงอยู่ เช่น ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย การเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน หรือแม้กระทั่งการมีผลตอบแทนต่ำในบางช่วงเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินทรัพย์ประเภทพันธบัตรรัฐบาลที่มีความอ่อนไหวต่อการปรับขึ้นหรือลงของอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง ซึ่งอาจส่งผลต่อมูลค่าและผลตอบแทนของการลงทุน
4. สามารถถือครอง Safe Haven ได้ตลอดเวลา
บางคนอาจคิดว่า Safe Haven เป็นสินทรัพย์ที่สามารถถือครองได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องพิจารณาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ แต่ในความเป็นจริง การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยต้องพิจารณาสถานการณ์เศรษฐกิจและวัฏจักรเศรษฐกิจในขณะนั้น ซึ่งอาจทำให้กลยุทธ์นี้ไม่เหมาะสมในบางช่วงเวลา แม้ว่าสินทรัพย์ Safe Haven จะมีความเสี่ยงต่ำเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่น แต่ในบางกรณี เช่น ภาวะวิกฤตที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาดการเงิน การลงทุนใน Safe Haven ก็อาจประสบปัญหาได้เช่นกัน
Safe Haven ควรลงทุนช่วงไหน?
Safe Haven หรือสินทรัพย์ปลอดภัยควรเน้นการลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย ตกต่ำ หรือเมื่อเกิดวิกฤตต่าง ๆ เช่น วิกฤตการเงิน สงคราม หรือโรคระบาด เพราะช่วงนี้ตลาดมีความผันผวนสูง นักลงทุนต้องการลดความเสี่ยงและรักษามูลค่าทรัพย์สินให้นิ่งที่สุด ในทางกลับกัน เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวหรือขยายตัว นักลงทุนสามารถลดสัดส่วนการลงทุนใน Safe Haven และหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่าเพื่อเพิ่มการเติบโตของพอร์ตการลงทุนในระยะยาวครับ
Safe Haven กับวัฏจักรเศรษฐกิจ 4 ระยะ
วัฏจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle) คือ วงจรการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา เพราะไม่มีเศรษฐกิจใดที่เติบโตตลอดไป และในขณะเดียวกันก็ไม่มีเศรษฐกิจใดที่ตกต่ำตลอดกาล วัฏจักรเศรษฐกิจนี้จึงส่งผลต่อ “พฤติกรรมการลงทุน” และ “การเลือกสินทรัพย์” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเข้าใจวัฏจักรเศรษฐกิจ 4 ระยะ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างเหมาะสม ปรับพอร์ตการลงทุนให้รับมือกับความเสี่ยงได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการเลือกถือสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ในช่วงเวลาที่เหมาะสมครับ
ช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery)

เป็นช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากช่วงที่ตกต่ำ ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมแก่การลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะยังเป็นช่วงที่ความเชื่อมั่นค่อนข้างที่จะสูงขึ้น ไม่ว่าจะลงทุนก็มักจะกำไรมากกว่าขาดทุน ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวในช่วงนี้ได้อีกด้วย
การลงทุน Safe Haven ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว : นักลงทุนมักลดสัดส่วนการลงทุนใน Safe Haven และหันไปเน้นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นครับ
ช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟู (Peak)

เป็นช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัวสูงสุด อัตราเงินเฟ้อจึงเพิ่มขึ้นตามรายได้และการจับจ่ายใช้สอยของผู้คน ทำให้ราคาหุ้นในช่วงนี้ผันผวนสูง
การลงทุน Safe Haven ในช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟู : นักลงทุนมักลดสัดส่วนการลงทุนใน Safe Haven และหันไปเน้นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นครับ
ช่วงเศรษฐกิจถดถอย (Recession)

เมื่อธุรกิจที่ผ่านช่วงที่รุ่งเรืองมาก ๆ แล้ว จะต้องมีการชะลอตัวลง เช่น อัตราการจ้างงาน รายได้ และผลประกอบการที่ลดลง ดังนั้น จึงเป็นช่วงที่เหมาะกับการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ
การลงทุน Safe Haven ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย : นักลงทุนมักเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ Safe Haven เพื่อปกป้องเงินทุนจากความผันผวนของตลาดครับ
ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ (Trough)

เป็นช่วงที่ตกต่ำที่สุดของเศรษฐกิจ ภาวะนี้ค่อนข้างทำอะไรก็ขาดทุนได้ง่ายมาก เนื่องจากการว่างงานที่สูงขึ้นทำให้ผู้คนไม่มีกำลังในการจับจ่ายใช้สอย ดังนั้น จึงควรเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาลง
การลงทุน Safe Haven ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ : นักลงทุนยังคงถือครอง Safe Haven ในสัดส่วนสูง เพื่อรักษาเสถียรภาพพอร์ตการลงทุนครับ
ทำไมต้องมี Safe Haven? เมื่อเศรษฐกิจเข้าสู่ช่วงวิกฤต
ในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ Safe Haven หรือสินทรัพย์ปลอดภัยเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องมีเพื่อปกป้องเงินทุนจากความผันผวนในตลาด ซึ่งพี่โบ้ได้นำ 5 ตัวอย่างวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในอดีตมาให้ทุกคนได้ดูกันว่า ทำไม Safe Haven ถึงมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้
5 วิกฤตเศรษฐกิจมีอะไรบ้าง?
เศรษฐกิจโลกเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่หลายครั้ง แต่ละวิกฤตล้วนทิ้งบทเรียนสำคัญและส่งผลกระทบทั้งระดับประเทศและประชาชนทั่วโลก บทสรุปนี้จะพาคุณย้อนดู 5 วิกฤตเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดที่นักลงทุนและผู้สนใจเศรษฐกิจควรรู้ไว้
1. ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (The Great Depression) ปี 1929-1939

- สถานที่: สหรัฐอเมริกา
- สาเหตุ: การเก็งกำไรในหุ้น, การล้มของธนาคาร, นโยบายเศรษฐกิจผิดพลาด
- ผลกระทบ: การว่างงานสูง, การถดถอยของเศรษฐกิจโลก
- สินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจ: ทองคำ, เงินสด, ปลอดภัย, ตราสารหนี้ของรัฐบาล, ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ (ในบางกรณี)
2. วิกฤตหนี้สาธารณะในลาตินอเมริกา (The International Debt Crisis) ปี 1982

- สถานที่: เม็กซิโก, อาร์เจนตินา, บราซิล ฯลฯ
- สาเหตุ: กู้ยืมเกินตัว, ดอกเบี้ยสูงจากสหรัฐฯ, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำ
- ผลกระทบ: เศรษฐกิจถดถอย, ปรับโครงสร้างหนี้, การแทรกแซงจาก IMF
- สินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจ: ทองคำ, เงินสดและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ, เงินดอลลาร์สหรัฐ
3. วิกฤตต้มยำกุ้ง (Asian Financial Crisis) ปี 1997

- สถานที่: ไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์
- สาเหตุ: การเก็งกำไรค่าเงินบาท, หนี้ภาคเอกชนสูง
- ผลกระทบ: ค่าเงินล่มสลาย, การล้มละลายของธนาคาร, ว่างงานสูง
- สินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจ: ทองคำ, เงินดอลลาร์สหรัฐ , พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
4. วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ (Subprime Crisis) ปี 2007-2009

- สถานที่: สหรัฐอเมริกา (ส่งผลทั่วโลก)
- สาเหตุ: สินเชื่อซับไพรม์, ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์
- ผลกระทบ: สถาบันการเงินล้ม, หุ้นตกหนัก, เศรษฐกิจหดตัว
- สินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจ: ทองคำ, พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ, เงินสด, เงินเยน
5. วิกฤตโควิด-19 (COVID-19 Pandemic) ปี 2020

- สถานที่: ทั่วโลก
- สาเหตุ: การระบาดของไวรัส SARS-CoV-2
- ผลกระทบ: การล็อกดาวน์, ว่างงานพุ่ง, การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน
- สินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจ: ทองคำ, หุ้นเทคโนโลยี, หุ้นธุรกิจสถานพยาบาล, หุ้นธุรกิจยาและอาหารเสริม, หุ้นธุรกิจเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์, พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ, เงินสด, Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัล
5 สินทรัพย์ปลอดภัยที่ควรลงทุนในช่วงเศรษฐกิจถดถอย
ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย นักลงทุนมักมองหาการลงทุนที่ช่วยรักษาเสถียรภาพและปกป้องเงินทุน และสินทรัพย์ที่เป็นหลุมหลบภัย หรือที่เรียกกันว่า “Safe Haven” แล้วสินทรัพย์ดังกล่าวมีอะไรบ้าง Traderbobo จะมาเล่าให้ฟังครับ
ทองคำ (Gold)

ทองคำนั้นเป็นทรัพย์สินที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานนับพันปี และยังได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่า ต่อให้ตลาดหุ้นจะผันผวนหรือร่วงลง ทองคำก็มักจะมีมูลค่ามากขึ้น เพราะทองคำไม่สามารถที่จะสามารถผลิตเพิ่มได้เหมือนเงินสกุลต่าง ๆ จึงทำให้ต้านทานเงินเฟ้อได้ดีครับ
พันธบัตรรัฐบาล (Government Bonds)

พันธบัตรรัฐบาลเป็นตราสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการหรือรัฐบาล จึงมีโอกาสที่จะผิดชำระหนี้ต่ำมาก นอกจากนี้มูลค่าพันธบัตรมักเพิ่มขึ้นเมื่อหุ้นตก เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่จะหลบภัยมาซื้อพันธบัตร และยังซื้อขายได้ง่ายแม้ในช่วงที่ตลาดผันผวนอีกด้วยครับ
เงินสด (Cash)

เงินสด หรือคำพูดที่มักได้ยิน “Cash is King” เวลาที่การลงทุนมีความไม่แน่นอน ถึงแม้เงินสดจะไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ แต่นักลงทุนยอมที่จะถือไว้ เพื่อรอโอกาสที่จะเข้าลงทุนเมื่อมีโอกาสดี ๆ และมูลค่าเงินสดไม่ผันผวนเหมือนกับหุ้นหรือสินทรัพย์อื่น ๆ โดยเฉพาะสกุลเงินUSD เพราะว่าถือเป็นสกุลเงินหลักของโลก มีความมั่นคงสูง และเป็นที่ยอมรับในการชำระหนี้ระหว่างประเทศ นักลงทุนจึงมักถือ USD เป็นเงินสดสำรองในช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอน
หุ้นปลอดภัย (Defensive Stock)

หุ้นปลอดภัย คือหุ้นที่มีความผันผวนต่ำและมีเสถียรภาพ แต่กำไรก็อาจเติบโตแบบไม่หวือหวานักในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งมักเป็นบริษัทที่ผลิตหรือจำหน่ายสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น หุ้นสาธารณูปโภค สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ยาและเวชภัณฑ์ รวมไปถึงโทรคมนาคม นอกจากนี้หุ้นปันผล ต่อให้หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจถดถอย แต่หุ้นที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอกลับเป็นหลุมหลบภัยที่ดีได้อีกด้วยครับ
อสังหาริมทรัพย์บางประเภท

อสังหาริมทรัพย์มีคุณสมบัติเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” ในบางแง่มุม แต่ไม่ทั้งหมด ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ อสังหาริมทรัพย์บางประเภทอาจมีคุณสมบัติคล้ายกับสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ไม่สามารถจัดเป็นหุ้นปลอดภัย (Defensive Stock) โดยสมบูรณ์ได้ นักลงทุนควรพิจารณาประเภท ทำเล และจังหวะเวลาอย่างรอบคอบ รวมถึงประเมินความเสี่ยงเฉพาะของอสังหาริมทรัพย์แต่ละแห่งด้วยนะครับ
*หมายเหตุ: ไม่ใช่ว่าสินทรัพย์ทุกประเภทจะเป็น Safe Haven ในทุกสถานการณ์ นักลงทุนควรพิจารณาตามบริบทเศรษฐกิจโลกในขณะนั้นด้วยครับ
เทคนิคการลงทุนในสินทรัพย์ Safe Haven
การลงทุนในสินทรัพย์ Safe Haven เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรักษามูลค่าทรัพย์สินของตนในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนหรือเศรษฐกิจไม่แน่นอน ซึ่งสามารถใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้การลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจหรือสถานการณ์ที่ตลาดผันผวนสูง
1. การกระจายการลงทุน
การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ Safe Haven ช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเดียวกัน การกระจายไปยังสินทรัพย์หลายประเภท เช่น ทองคำ, พันธบัตรรัฐบาล, อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้กระทั่งเงินสด จะช่วยให้พอร์ตการลงทุนของคุณมีความเสี่ยงที่ต่ำลงในช่วงเวลาที่ตลาดไม่แน่นอน
2. การติดตามภาวะเศรษฐกิจและความผันผวนของตลาด
การเฝ้าติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจควบคู่กับระดับความผันผวนในตลาดเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกลงทุนในสินทรัพย์ Safe Haven ที่เหมาะสม นักลงทุนควรสังเกตสัญญาณชะลอตัวของเศรษฐกิจ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงหรือวิกฤตการเงิน ซึ่งมักส่งผลให้พันธบัตรรัฐบาลกลายเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุด นอกจากนี้ ดัชนีความผันผวน (VIX) ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ประเมินความไม่แน่นอนในตลาด หาก VIX พุ่งสูง นักลงทุนมักจะย้ายเงินทุนไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำหรือเงินสด เพื่อป้องกันความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน
3. การวางแผนเป้าหมายระยะยาวและการจัดสรรเงินสด
การลงทุนใน Safe Haven ควรมีเป้าหมายระยะยาว เนื่องจากแม้ผลตอบแทนอาจไม่สูงในช่วงสั้น แต่ช่วยรักษามูลค่าเงินทุนในระยะยาวได้ ขณะเดียวกัน การกันเงินสดหรือสินทรัพย์สภาพคล่องไว้ก็สำคัญ เพื่อเตรียมพร้อมใช้โอกาสลงทุนในช่วงที่ราคาสินทรัพย์ลดลง
4. การใช้กลยุทธ์การขายระยะสั้น
การใช้กลยุทธ์การขายระยะสั้น เช่น การซื้อออปชัน (Options) หรือการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงก็เป็นวิธีหนึ่งในการใช้สินทรัพย์ Safe Haven
5. การประเมินความเสี่ยง-ผลตอบแทน
การลงทุนใน Safe Haven ควรเริ่มจากการประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนอย่างรอบคอบ แม้ผลตอบแทนจะไม่สูงมาก แต่สามารถช่วยรักษามูลค่าเงินทุนได้ดีในช่วงตลาดผันผวน โดยการเลือกสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ เช่น ทองคำ พันธบัตรรัฐบาล หรือเงินสด จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเมื่อตลาดขาดความแน่นอน
เคล็ดลับการลงทุนใน Safe Haven สำหรับนักลงทุนมือใหม่
เคล็ดลับสำหรับนักลงทุนมือใหม่มีหลายแนวทางที่สามารถช่วยให้การลงทุนมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนหรือเศรษฐกิจไม่แน่นอน
- เรียนรู้พื้นฐานการลงทุน
- เริ่มต้นด้วยเงินที่ไม่จำเป็น
- รู้จักเวลาที่จะเข้าหรือออกจากตลาด
- อย่าตัดสินใจจากความกลัวหรือความโลภ
- หาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
สรุป Safe Haven คืออะไร เหมาะกับใคร
ตารางเปรียบเทียบสินทรัพย์ Safe Haven
สินทรัพย์ | ความเสี่ยง | สภาพคล่อง | เหมาะกับใคร |
ทองคำ | ต่ำ | สูง | นักลงทุนที่ต้องการป้องกันความเสี่ยง |
พันธบัตร | ต่ำ | ปานกลาง | นักลงทุนที่ต้องการรายได้คงที่ |
เงินสด / USD | ต่ำมาก | สูง | นักลงทุนที่ต้องการความคล่องตัวสูง |
Bitcoin | สูง | สูง | นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ |
หุ้นตั้งรับ | ต่ำถึงปานกลาง | สูง | นักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงในตลาด |
อสังหาริมทรัพย์ | ปานกลางถึงต่ำ | ปานกลางถึงต่ำ | นักลงทุนที่มองหาเสถียรภาพและผลตอบแทนระยะยาว |
คำแนะนำเพิ่มเติม: การเลือกสินทรัพย์ควรพิจารณาความเสี่ยงและสภาพคล่องที่คุณสามารถยอมรับได้ และผลตอบแทนในปัจจุบันไม่สามารถการันตีอนาคตได้ นักลงทุนโปรดใช้ความระมัดระวังในการลงทุน
Safe Haven คือ สินทรัพย์ที่ช่วยลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดผันผวน หรือมีเหตุการณ์ไม่แน่นอน เช่น เศรษฐกิจถดถอย สงคราม หรือข่าวร้ายใหญ่ ๆ ที่กระทบตลาดทั่วโลก ซึ่งสินทรัพย์กลุ่มนี้จะถูกมองว่า “ปลอดภัยกว่า” สินทรัพย์อื่นในช่วงเวลานั้น ไม่ว่าจะเป็นทองคำ พันธบัตรรัฐบาล เงินดอลลาร์ หรือแม้แต่คริปโตบางตัวอย่าง Bitcoin
Safe Haven จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการวางแผนลงทุน หรือเทรดอย่างมีระบบ เพราะสามารถใช้ลดความเสี่ยง หรือพักเงินในช่วงที่ตลาดยังไม่นิ่งได้
อย่างไรก็ตาม การเลือกถือ Safe Haven ควรอิงตามสถานการณ์และกลยุทธ์ของแต่ละคน และควรทำความเข้าใจให้ดีนะครับ เพราะแม้จะเรียกว่าสินทรัพย์ปลอดภัย แต่การลงทุนทุกประเภทก็ยังมีความเสี่ยงอยู่เสมอ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยความรอบคอบก่อนลงทุนทุกครั้งครับ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Safe Haven
1. ทำไมควรลงทุนในทองคำ สินทรัพย์ที่ถูกยกเป็น Safe Haven
ทองคำถือเป็น Safe Haven เพราะมีคุณสมบัติในการรักษามูลค่าในระยะยาว แม้ในช่วงที่ตลาดทั่วโลกผันผวนอย่างหนัก ทองคำไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทหรือเศรษฐกิจประเทศใดประเทศหนึ่ง และยังมีตลาดซื้อขายที่กว้างทั่วโลก ทำให้สามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นเงินสดได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน
2. Financial Crisis คืออะไร
Financial Crisis หรือวิกฤตการเงิน คือ เหตุการณ์ที่ระบบการเงินของประเทศหรือทั่วโลกเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เช่น สถาบันการเงินล้มละลาย ตลาดหุ้นตกหนัก หรือสกุลเงินอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้เกิดภาวะถดถอย การว่างงานสูง และธุรกิจจำนวนมากปิดตัวลง เช่น วิกฤตซับไพรม์ปี 2008 หรือวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 1997
3. สินทรัพย์ปลอดภัยคืออะไร
สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Assets) คือ สินทรัพย์ที่นักลงทุนมักหันไปถือเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่แน่นอน เช่น วิกฤตเศรษฐกิจหรือสงคราม เพราะสินทรัพย์เหล่านี้มีแนวโน้มจะไม่สูญเสียมูลค่ามาก หรืออาจเพิ่มขึ้นสวนทางตลาด ตัวอย่างเช่น ทองคำ พันธบัตรรัฐบาล เงินสกุลแข็ง (เช่น ดอลลาร์สหรัฐ)
4.การลงทุนแบบไหนที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด
โดยทั่วไป “พันธบัตรรัฐบาล” ถือเป็นหนึ่งในการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด เพราะมีการค้ำประกันโดยรัฐบาล และให้ผลตอบแทนแน่นอนตามระยะเวลา ขณะที่ “เงินฝากธนาคาร” ก็เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยเช่นกัน แต่อาจให้ผลตอบแทนต่ำ การกระจายการลงทุนใน Safe Haven หลายประเภทก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการลดความเสี่ยงรวมของพอร์ต
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้
พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page