
เทรด Forex คืออะไร?
เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันผู้คนหันมาให้ความสนใจในการลงทุนหรือการเทรดมากยิ่งขึ้น ยิ่งคนรุ่นใหม่และนักลงทุนในตลาดอื่น ๆ ต่างก็ให้ความสนใจในตลาดการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ หรือที่เรียกว่า Forex (Foreign Exchange) โดยมูลค่าการซื้อขายของตลาดนี้ ถึงแม้ว่าจะรวมมูลค่าการซื้อขายกันทุกตลาด ก็ยังไม่สามารถเทียบมูลค่าการซื้อขายตลาด Forex ได้เลย
ตลาด Forex จัดอยู่ในหมวดหมู่ของ CFD ซึ่งในตลาดสากลนักลงทุนส่วนใหญ่ทั่วโลก จะมีการซื้อขาย CFD รวมกันมากกว่าตลาดหุ้นหรืออื่น ๆ รวมกันถึงเกือบ 500 เท่า และ Forex เป็นตลาดที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด เกือบ 10 ล้าน ๆ ดอลลาร์ต่อวันที่อยู่ในกลุ่ม CFD
ลักษณะของโบรกเกอร์เทรด Forex ที่พบได้บ่อย
ตลาด Forex และ CFD ต่างก็เป็นที่ต้องการสูงสำหรับนักลงทุน จึงทำให้เหล่าโบรกเกอร์เกิดใหม่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เยอะในชนิดที่เรียกว่า มีโบรกเกอร์ Forex อยู่เต็มไปหมด เมื่อเป็นเช่นนี้ โบรกเกอร์แต่ละบริษัทเองก็จะมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป โดยเราขอกล่าวถึงลักษณะของโบรกเกอร์ที่ถูกพบบ่อย เพื่อการทำความเข้าใจที่ง่ายขึ้น
โบรกเกอร์ Forex มีความน่าเชื่อสูง มีใบอนุญาตรองรับ
โบรกเกอร์บางแห่งมีความน่าเชื่อถือสูงเนื่องจากถือใบอนุญาตจากหลายหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งยิ่งมีใบอนุญาตมากเท่าไร ก็ยิ่งมีข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจน้อยลง และต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบด้านการเงิน การดำเนินงาน หรือการป้องกันการละเมิดกฎใด ๆ ที่อาจกระทบต่อใบอนุญาตโดยตรง
อย่างไรก็ดี ความเข้มงวดเหล่านี้อาจทำให้บางครั้งการทำธุรกรรม เช่น การโอนเงิน การถอนเงิน เกิดการล่าช้าไปบ้าง เพราะต้องผ่านการตรวจสอบก่อน จึงอาจไม่เหมาะกับนักลงทุนบางกลุ่มที่ต้องการความรวดเร็วในการทำธุรกรรมดังกล่าว
โบรกเกอร์ Forex ค่าธรรมเนียมสูง Swap สูง Spread สูง
บางโบรกเกอร์ก็มีค่าธรรมเนียมที่สูงมาก ๆ ทั้งค่า Swap ไหนจะค่า Spread ที่สูง โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่โบรกเกอร์เก็บค่าธรรมเนียมสูงนั้น เพราะส่วนใหญ่พวกเขามีค่าใช้จ่ายสูง เช่น ค่านายหน้าหรือการจ่ายเงินให้กับ Introducing Broker หรือที่เรียกว่า IB จึงไม่แปลกใจที่คุณจะได้รับค่าธรรมเนียมที่สูง ส่งผลให้คุณเอาชนะตลาดได้ยากยิ่งขึ้น เนื่องจากผลกำไรที่คุณควรจะได้รับกลับต้องมาโดนค่าธรรมเนียมที่แสนแพง ซึ่งส่งผลให้กำไรน้อยลงและวางแผนการซื้อขายได้ยากมาก ๆ
โบรกเกอร์ Forex ค่าธรรมเนียมต่ำจนน่าสงสัย
บางโบรกเกอร์ก็มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก ๆ ต่ำจนเราอดคิดไม่ได้ว่า โบรกเกอร์จะเอากำไรจากที่ไหน แน่นอนว่าเป็นเรื่องปกติที่คนทั่วไปจะคิดแบบนี้ ดังนั้น เรามาทำความเข้าใจ ระหว่างตรงกลางของโบรกเกอร์ก่อนว่า โบรกเกอร์ที่มีค่าธรรมเนียม Spread ถูกได้เพราะอะไร สูงเพราะอะไร ถ้าเรามองหาตรงกลางที่เหมาะสมออก เราจะตัดสินใจได้เลยว่า เราควรเลือกใช้โบรกเกอร์ใด
“โปรดทราบไว้ว่าโบรกเกอร์ คือ บริษัท ดังนั้น บริษัทไม่ทำการกุศล พวกเขามีต้นทุน พวกเขามีความเสี่ยงในหลายเรื่อง ต้องมองหาความสมเหตุสมผลให้เจอในแต่ละโบรกเกอร์“
เข้าใจค่าธรรมเนียมของ Broker ก่อนเริ่มเทรด Forex
ก่อนเริ่มต้นเทรด เทรดเดอร์ควรทำความเข้าใจค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับโบรกเกอร์ก่อนครับ โดยทั่วไปค่าธรรมเนียมหลักที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจะอยู่ในรูปแบบของค่าสเปรด ทั้งนี้ค่าสเปรดของแต่ละโบรกเกอร์อาจแตกต่างกันไป เพราะบางโบรกเกอร์กำหนดสเปรดค่อนข้างสูง โดยพี่โบ้จะสรุปความแตกต่างของสเปรดทั้งสองประเภทดังนี้
- สเปรดสูง → ค่าธรรมเนียมแพง เพราะโบรกเกอร์กำหนดค่าใช้จ่ายในการจ่ายให้ผู้แนะนำหรือค่าการตลาดของพวกเขา
- สเปรดต่ำ → ค่าธรรมเนียมต่ำ เพราะโบรกเกอร์ไม่มีค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดมากและทำให้พวกเขามีสเปรดต่ำ
เข้าใจประเภทของโบรกเกอร์ก่อนเทรด Forex กับ IUX
โบรกเกอร์ประเภทที่ 1
ต้นทุนการเทรดสูง > ค่าธรรมเนียมสูง สเปรดสูง และคิดค่า Swap ข้ามคืน
ข้อดีของโบรกเกอร์ประเภทนี้ คือ เหมาะสำหรับผู้ที่ทำ IB แต่ไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ เพราะยิ่งค่าธรรมเนียมสูง กำไรที่เทรดเดอร์ได้รับก็จะน้อยลง ในขณะเดียวกันที่ความเสี่ยงในการเทรดยังคงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะหากมีค่า Swap เข้ามาเกี่ยวข้อง จะยิ่งทำให้เทรดเดอร์เสียเปรียบได้ในระยะยาวครับ
ตัวอย่าง
หากเทรดเดอร์ซื้อขายด้วยต้นทุนรวม 15 USD
- โบรกเกอร์เก็บเป็นกำไร 8 USD
- อีก 7 USD ถูกแบ่งให้ IB เป็นค่าตอบแทนทางการตลาด
โบรกเกอร์ประเภทนี้เหมาะกับใคร? : ไม่เหมาะกับนักเทรด
โบรกเกอร์ประเภทนี้ไม่เหมาะกับใคร? : คนที่เน้นทำ IB
โบรกเกอร์ประเภทที่ 2
ต้นทุนการเทรดกลาง ๆ > ค่าธรรมเนียมกลาง ๆ สเปรดไม่สูงมาก และคิดค่า Swap ข้ามคืนน้อย
สำหรับโบรกเกอร์ประเภทนี้ แตกต่างจากประเภทแรกตรงที่ ค่าธรรมเนียมในการเทรดถูกลงมาหน่อยและแม้จะจ่ายผลตอบแทนให้ IB น้อยลง แต่ก็ยังคงมีการแบ่งผลประโยชน์ให้กับ IB อยู่ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับทั้งเทรดเดอร์และ IB
อธิบายง่าย ๆ คือ โบรกเกอร์ประเภทนี้ จะคิดค่าธรรมเนียมในการเทรดแก่เทรดเดอร์ในอัตราที่ถูกลง เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ประเภทแรก และ IB เองก็ยังได้รับค่าตอบแทนเช่นกัน แต่จะอยู่ในอัตราที่ต่ำกว่าโบรกเกอร์ประเภทแรก ซึ่งโดยรวมโบรกเกอร์ประเภทนี้ถือว่า ช่วยสร้างสมดุลระหว่าง เทรดเดอร์ที่จ่ายค่าธรรมเนียมการเทรดถูกลง และ IB ที่ยังคงได้รับรายได้ครับ โบรกเกอร์ประเภทนี้จึงเป็นโมเดลที่โบรกเกอร์หลายเจ้านิยมใช้กัน
ตัวอย่าง
- เทรดเดอร์จ่ายค่าธรรมเนียมรวม 12 USD (ถูกกว่าประเภทแรกที่ 15 USD)
- โบรกเกอร์ยังคงได้กำไร 8 USD เท่ากับแบบแรก
- ส่วน IB ได้รับ 4 USD เป็นค่าการตลาด (ลดลงจากเดิม 7 USD)
โบรกเกอร์ประเภทนี้เหมาะกับใคร? : เทรดเดอร์บางส่วน
โบรกเกอร์ประเภทนี้ไม่เหมาะกับใคร? : คนที่ทำ IB บ้าง
โบรกเกอร์ประเภทที่ 3
ต้นทุนการเทรดถูก > ค่าธรรมเนียมถูก สเปรดถูก และไม่คิดค่า Swap
โบรกเกอร์ประเภทสุดท้ายจะมีประโยชน์ต่อเทรดเดอร์โดยตรง แต่แทบจะไม่มีผลตอบแทนให้กับ IB เลย เนื่องจากโบรกเกอร์ประเภทนี้ จะเก็บค่าธรรมเนียมการเทรดน้อยลงเทรดเดอร์จึงได้ประโยชน์โดยตรงจากต้นทุนการเทรดที่ถูกขึ้น ทำให้สามารถวางแผนการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีโอกาสทำกำไรสูงขึ้น
ตัวอย่าง
- นักลงทุนเสียค่าธรรมเนียมรวม 10 USD (ถูกกว่าแบบที่ 1 ที่ 15 USD และแบบที่ 2 ที่ 12 USD)
- โบรกเกอร์ได้รับกำไรสุทธิ 8 USD เท่ากับโบรกเกอร์ประเภทก่อนหน้า
- ส่วน IB ได้รับค่าตอบแทนเพียง 2 USD เท่านั้น (ลดลงจาก 7 USD และ 4 USD ของสองประเภทแรก)
โบรกเกอร์ประเภทนี้เหมาะกับใคร? : เทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดแบบประหยัดต้นทุนและต้องการความคุ้มค่า
โบรกเกอร์ประเภทนี้ไม่เหมาะกับใคร? : คนที่เน้นทำ IB
ข้อดี-ข้อเสียของโบรกเกอร์แต่ละประเภท
หากเราต้องการเป็นเทรดเดอร์ที่ต้องพึ่งพา IB ให้สอนหรือให้คำแนะนำ คุณอาจจะต้องเลือกโบรกเกอร์ประเภทที่ 1 และ 2 ตามความเหมาะสม แต่ถ้าหากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดเองจริง ๆ โดยพึ่งพาประสบการณ์ความสามารถของตัวเองไม่ต้องการซื้อ-ขาย ด้วยค่าธรรมเนียมที่สูง คุณก็อาจจะเลือกโบรกเกอร์ประเภทที่ 3
เทรด Forex กับ IUX เพิ่มโอกาสชนะให้นักเทรดจริงหรือไม่?
ใบอนุญาตและการจดทะเบียนของ IUX
- Australian Securities and Investments Commission (ASIC)
หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของออสเตรเลีย ดูแลการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัท ตลาดทุน และบริการด้านการเงินในออสเตรเลีย - Financial Sector Conduct Authority (FSCA) in South Africa
หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของแอฟริกาใต้ มีหน้าที่ควบคุมดูแลตลาดการเงินและให้ความคุ้มครองผู้บริโภคในภาคการเงิน - Financial Services Commission (FSC Mauritius) in Mauritius
คณะกรรมการบริการด้านการเงินมอริเชียส ดูแลภาคการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร รวมถึงการให้ใบอนุญาตและกำกับดูแลบริษัทบริการทางการเงินในมอริเชียส - จดทะเบียนบริษัทกับ Financial Services Authority in Saint Vincent and the Grenadines (SVGFSA)
หน่วยงานบริการทางการเงินในเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ กำกับดูแลภาคการเงิน รวมถึงบริการทางการเงินที่มีอยู่ในประเทศ
โบรกเกอร์ IUX จัดอยู่ในโบรกเกอร์ประเภทไหน?
โบรกเกอร์ IUX จัดอยู่ในโบรกเกอร์ประเภทที่ 3 ครับ เนื่องจาก IUX มีค่าธรรมเนียมถูก, สเปรดต่ำ, ไม่มีค่า Swap ทุกประเภทบัญชี และไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากถอน อีกทั้งทางโบรกไม่เน้นการตลาดผ่าน IB ทำให้เหมาะกับเทรดเดอร์มากกว่าผู้ทำ IB ครับ โดย IUX มี Live Chat ภาษาไทย 24/7 ซึ่งจากการทดลองใช้งาน Live Chat พบว่าไม่ได้เป็นการพูดคุยผ่าน Bot แต่เป็นการคุยกับเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
จุดเด่นอีกอย่างก็คือ ระยะเวลาการฝากเงินสามารถทำได้อย่างรวดเร็วแทบจะทันทีเลยก็ว่าได้ครับ รวมถึงด้านการถอนที่ใช้เวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 3-5 นาที ทำให้ยอดเงินเข้าบัญชีของนักลงทุนได้เร็วมาก ๆ ส่วนนี้ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อเทรดเดอร์มากครับ เพราะมันจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวางแผนการเทรดและการฝากถอนได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้
พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page