ถ้าพูดถึงการลงทุนที่มั่นคงและสามารถทำได้ในระยะยาว หลายคนคงนึกถึงการ ลงทุนหุ้น โดยเราสามารถเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจที่เราสนใจได้โดยไม่ต้องลงมือบริหารเอง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการ ลงทุนหุ้น นั้นยังมีความเสี่ยง เนื่องจากราคาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ผลประกอบการของบริษัท หรือของทั้งอุตสาหกรรมเอง อีกทั้งยังต้องดูควบคู่กับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคต ซึ่งนอกจากการศึกษาข้อมูลและติดตามข่าวสารต่าง ๆ ให้มากขึ้นแล้ว บทความนี้ขอนำเสนอเทคนิคที่จะทำให้การอยู่รอดในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ง่าย
ความหมายของการ “ลงทุนหุ้น”
หุ้น (stock) คือ สินทรัพย์ที่กิจการหนึ่ง ๆ ออกให้แก่หุ้นส่วนเพื่อเป็นเครื่องหมายว่า คน ๆ นั้น เป็นหุ้นส่วนที่ร่วมลงทุนกับกิจการ และจะทำการเปลี่ยนมือก็ต่อเมื่อเจ้าของเดิมได้ทำการขายสิทธิ์ในการแสดงความเป็นเจ้าของหรือยกสิทธิ์ของตนไปสู่มือของผู้อื่นนั่นเองครับ ซึ่งในส่วนของการซื้อขายเปลี่ยนมือนั้น ปัจจุบันมีตลาดกลางที่ทำหน้าที่ในการเป็นตัวกลางในการซื้อขายที่เรียกว่า “ตลาดหลักทรัพย์” โดยจะทำการรวบรวมทั้งหุ้น ผู้ซื้อ เเละผู้ขายให้ได้มาเจอกัน การลงทุนในหุ้นจึงได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของนักลงทุน เเต่ใช่ว่า หุ้นจะมีความเสี่ยงน้อยไปกว่าการลงทุนรูปแบบอื่น เพราะทุกการลงทุนย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยง
9 เทคนิคในการ “ลงทุนหุ้น“
1. ก่อนจะลงทุนต้องศึกษาตลาดหุ้นให้เข้าใจ
การลงทุนในตลาดหุ้นไม่ใช่การเสี่ยงโชค ผู้ที่เข้ามาในตลาดด้วยแนวคิดแบบนี้ ล้วนแล้วแต่ต้องขาดทุนไปนับไม่ถ้วนครับ เพราะหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงไม่น้อย ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจเข้ามาลงทุนจำเป็นต้องทำการศึกษาให้เข้าใจถึงกลไกต่าง ๆ ของตลาดอย่างดีเสียก่อน รวมถึงวิธีการซื้อขาย และจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่จะทำการซื้อขาย ยิ่งรู้มากเพียงใดก็จะปิดโอกาสขาดทุนมากขึ้นตามไปด้วย
2. ต้องเข้าใจว่า หุ้นนั้น ๆ ทำธุรกิจอะไร
เหตุผลที่ต้องเข้าใจว่า หุ้นทำธุรกิจอะไร เนื่องจากหุ้นเป็นสิทธิ์ในการแสดงความเป็นเจ้าของร่วมของธุรกิจ ดังนั้น ก่อนที่จะทำการตัดสินใจเลือกว่าจะซื้อหุ้นตัวใด จำเป็นต้องรู้ให้แน่ชัดว่า หุ้นตัวกำลังจะซื้อนั้นประกอบธุรกิจอย่างไร และธุรกิจนั้นมีสภาพคล่องหรือสุขภาพทางการเงินที่ดีมากน้อยเพียงใด เพื่อประเมินความเสี่ยงเบื้องต้นให้แก่ตัวเอง
3. รู้ว่าตนเองถนัดการลงทุนในรูปแบบใด
การ ลงทุนหุ้น เราสามารถแบ่งสายการลงทุนได้เป็น 2 สาย คือ แนว Trader และแนว Value ซึ่งแนวทางทั้งสองนั้น มีแนวคิดในการลงทุนที่แตกต่างกันแทบจะสิ้นเชิง ดังนั้น ต้องสำรวจดูให้รู้ตัวเองก่อนว่า ตนเองถนัดการลงทุนในแนวไหน แล้ววางกลยุทธ์ในการลงทุนให้เป็นไปตามความถนัด
4. รู้วัตถุประสงค์ในการลงทุน
ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในแนวทางของ Trader หรือ Value ก็ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยเวลา ความอดทนและความใส่ใจอยู่มาก หากคิดจะเข้ามา ลงทุนหุ้น เพื่อหวังความฉาบฉวย ความคิดเช่นนี้อาจทำให้ต้องขาดทุนอย่างหนัก ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจเข้ามาลงทุนต้องถามตัวเองให้ชัดเจนก่อนว่า มีวัตถุประสงค์อะไร รวมถึงสามารถแบกรับความเสี่ยงได้มากน้อยเพียงใด
5. เงินที่นำมาใช้ลงทุนควรจะต้องเป็นเงินเย็น
ข้อควรคำนึงที่สำคัญอีกข้อหนึ่งของการลงทุนในหุ้น คือ เงินลงทุนที่นำมาใช้ต้องเป็นเงินเย็น ซึ่งเป็นเงินที่ไม่ได้วางแผนเอาไปใช้ประโยชน์ในระยะเวลาอันใกล้ เพราะการลงทุนในหุ้นให้ประสบความสำเร็จระยะเวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก และเป็นปัจจัยที่จะบอกถึงความสำเร็จได้เลย
6. วางกลยุทธ์ในการลงทุนให้ดีและเหมาะสมกับตนเองให้มากที่สุด
การลงทุนจะลงทุนให้ประสบความสำเร็จนั้น การวางกลยุทธ์เป็นสิ่งสำคัญ หากสามารถวางกลยุทธ์ในการลงทุนให้เหมาะสมกับตนเองได้ การลงทุนนั้นก็จะมีความเสี่ยงที่จะล้มเหลวน้อยมาก ดังนั้น ก่อนการลงทุนทุกครั้งควรกำหนดกลยุทธ์ในการลงทุนแต่ละครั้งให้ดีเสียก่อน
7. เรียนรู้กราฟเทคนิคและ Indicator ต่าง ๆ
การใช้กราฟเทคนิครวมถึง Indicator ต่าง ๆ ไม่ใช่สิ่งที่นักลงทุนในสาย Trader เท่านั้นที่ต้องเรียนรู้ นักลงทุนในแนว Value ก็มีความจำเป็นต้องเรียนรู้เช่นกัน เพราะ Indicator ต่าง ๆ จะช่วยให้เราสามารถกำหนดช่วงราคาที่เหมาะสมในการทำการซื้อขาย และจังหวะที่น่าสนใจในการซื้อขายได้
8. ตั้งสติในการลงทุนทุกครั้ง
การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น เรื่องของอารมณ์สามารถทำให้ตกที่นั่งลำบากและขาดทุนได้ ทุกครั้งที่ได้กำไรหรือขาดทุน อย่าให้อารมณ์ความโลภและความตื่นตระหนกมามีอิทธิพลเหนือการตัดสินใจเด็ดขาด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด สติและวินัยในการลงทุนจะช่วยทำให้การลงทุนผ่านพ้นไปได้ในทุก ๆ สภาวะของตลาด
9. ไม่ควรซื้อหรือครอบครองหุ้นหลายตัว
ท้ายที่สุดวินัยในการลงทุน คือ สิ่งที่จะช่วยให้อยู่รอดในการลงทุนหุ้นอย่างแท้จริง เพราะแม้ว่าจะเรียนรู้มากเพียงใด แต่หากไร้ซึ่งวินัยและการทำตามวินัยอย่างเคร่งครัด ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะประสบความสำเร็จในการ ลงทุนหุ้น อีกสิ่งสำคัญ คือ ควรที่จะเลือกซื้อในหุ้นตัวที่รู้จักและเข้าใจพื้นฐานของมันเป็นอย่าง
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ก็คือ 9 เทคนิคการลงทุนในหุ้นให้ได้กำไร และลดความเสี่ยงของการขาดทุน การลงทุนในหุ้น แม้ว่าจะสร้างผลกำไรให้แก่นักลงทุนอย่างงดงาม แต่การลงทุนนี้ก็สามารถที่จะทำให้นักลงทุนผู้ไม่มีประสบการณ์ขาดทุนจากการลงทุนมาแล้วนับไม่ถ้วน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจในการลงทุนในตลาดหุ้น ลองศึกษาตามแนวทางข้างต้น เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดทุนลงให้ได้มากที่สุดครับ
Source: ทีมงาน Traderbobo
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: สาระน่ารู้
อ่านรีวิวโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่: Review Broker