
การเลือกกลยุทธ์การเทรด Forex ที่ดีจะช่วยให้การเทรดเกิดประสิทธิภาพและมีแบบแผน รวมถึงช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจอย่างมีหลักการ จนสามารถคว้าโอกาสในการทำกำไรได้อย่างแม่นยำ 😎
ทุกคนทราบดีว่า การเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ทำให้การเทรด Forex จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ เพื่อนำทางและช่วยให้เราสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำในตลาดที่เต็มไปด้วยความผันผวน ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึก 6 กลยุทธ์การเทรด Forex ที่หลากหลาย แล้วแต่ละกลยุทธ์มีข้อได้เปรียบและเหมาะกับใครบ้าง วันนี้พี่โบ้จะพาทุกคนไปหาคำตอบกันครับ!
*หมายเหตุ: บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้เท่านั้น การลงทุนในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง และกลยุทธ์การเทรด Forex แต่ละกลยุทธ์ก็ไม่ได้เหมาะกับนักลงทุนทุกประเภท ดังนั้น นักลงทุนควรศึกษาความเสี่ยงและข้อมูลให้ดีก่อนเริ่มทำการลงทุน
ตารางสรุปกลยุทธ์การเทรด Forex

การเทรด Forex คืออะไร?
การเทรด Forex คือ การถือครองคู่สกุลเงินเพื่อหวังทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงเวลานั้น ๆ โดยการถือครองออเดอร์ในตลาด Forex จะแบ่งได้หลัก ๆ คือ การถือครองออเดอร์ระยะสั้นและการถือครองออเดอร์ระยะยาว ซึ่งทำให้เทรดเดอร์แต่ละคนมีกลยุทธ์และเทคนิคในการเทรดที่แตกต่างกันไปตามรูปแบบและสไตล์การเทรดของตนเองครับ
เทรดระยะสั้น คืออะไร?
การเทรดระยะสั้น คือ การเทรดที่มักใช้ระยะเวลาถือครองออเดอร์ไม่เกิน 1 วัน โดยอาจถือครองเพียงไม่กี่นาทีหรือหลายชั่วโมงก็ได้ และส่วนใหญ่มักจะปิดออเดอร์ก่อนสิ้นสุดวันทำการ แต่ในบางกรณีอาจมีการถือข้ามคืนไปจนถึง 1 สัปดาห์ การเทรดประเภทนี้เทรดเดอร์จำเป็นต้องมีเวลาในการเทรดมากพอสมควร เพราะต้องติดตามการเคลื่อนไหวของราคาและดูทิศทางการทำกำไรของออเดอร์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจต้องเปิดและปิดหลายออเดอร์ภายในวันเดียว
เทรดระยะยาว คืออะไร?
การเทรดระยะยาว คือ การที่เทรดเดอร์ถือครองออเดอร์หลายวันไปจนถึงหลายสัปดาห์หรืออาจจะยาวนานไปจนถึงหลายเดือนหรือเป็นปี ซึ่งการเทรดประเภทนี้ เทรดเดอร์มักจะมองหาแนวโน้มขนาดใหญ่ เพื่อทำกำไร ทำให้การเทรดรูปแบบดังกล่าว ส่งผลให้เทรดเดอร์มีเวลาเหลือมากกว่าการเทรดระยะสั้น เพราะเปิดออเดอร์แต่ละออเดอร์ในระยะเวลาที่ห่างกัน ต่างจากการเทรดระยะสั้นที่จะมีการเปิดออเดอร์ถี่ ๆ ครับ
*หมายเหตุ: การถือครองสถานะเป็นเวลานาน อาจมีค่าใช้จ่ายที่ต้องคำนึงถึง เช่น ค่า Swap หรือค่าถือครองข้ามคืน (Overnight Fees) ซึ่งอาจจะส่งผลต่อผลกำไรโดยรวมของเทรดเดอร์ครับ
เทรดสั้นหรือเทรดยาว เลือกแบบไหนดีกว่ากัน?
การพิจารณาเลือกเทคนิคการเทรดไม่ว่าจะเป็นเทรดสั้นหรือเทรดยาวนั้น เทรดเดอร์สามารถพิจารณา ดังนี้
พิจารณาถึงเป้าหมายการลงทุน
- หากคุณต้องการที่จะเห็นผลลัพธ์ของการเทรดเร็ว ๆ ก็เลือกการเทรดสั้น ถ้าหากอยากเห็นผลตอบแทนที่สร้างความมั่นคงการเทรดยาวอาจเหมาะสมกว่าครับ
ความผันผวนที่ยอมรับได้
- การเทรดสั้น เทรดเดอร์จะพบกับความผันผวนมากกว่าการเทรดยาว ดังนั้น หากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบการพบเจอกับความผันผวนมาก ๆ อาจต้องพิจารณาเลือกการเทรดยาวครับ
ระยะเวลา
- การเทรดระยะยาวจะมีความยืดหยุ่นด้านเวลามากกว่าการเทรดระยะสั้น กล่าวคือ การเลือกเทรดแบบระยะยาวจะทำให้คุณไม่ต้องมานั่งเฝ้าจอตลอดเวลาเหมือนกับการเทรดระยะสั้นนั่นเอง
เทคนิคที่ใช้ รวมถึงความรู้และประสบการณ์
- การเทรดสั้นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในตลาด รวมถึงเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค ส่วนการเทรดยาวต้องอาศัยความเข้าใจในพื้นฐานของสินทรัพย์ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลักครับ
🐶💬 เทรดเดอร์ควรประเมินความถนัดของตนเอง เพื่อเลือกกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม โดยสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเสมอคือ การบริหารความเสี่ยง และการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งกลยุทธ์การเทรด Forex ก็มีหลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกันไปทั้งระยะสั้นและระยะยาวครับ
กลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Scalping Trade
การเทรดแบบ Scalping Trade เป็นการทำกำไรในระยะสั้นที่มุ่งเน้นสร้างผลตอบแทนจากการเปิดออเดอร์หลาย ๆ ครั้ง โดยเก็บเกี่ยวกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์เพียงไม่กี่ Pip อธิบายง่าย ๆ ก็คือ ทำน้อย ๆ แต่ทำบ่อยครั้งนั่นแหละครับ
กลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Scalping Trade เหมาะกับใคร?
กลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Scalping Trade เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีเวลาติดตามการเทรดตลอดเวลา และสามารถอดทนกับความเครียดได้เป็นอย่างดี รวมถึงการ Scalping Trade ยังจำเป็นต้องใช้เครื่องมือทางเทคนิคร่วมด้วยในการเทรด ทำให้ผู้ที่เหมาะกับการเทรดประเภทนี้ จำเป็นจะต้องมีทักษะการวิเคราะห์หรือ Technical Analysis ที่ดีพอตัวครับ
ข้อได้เปรียบของกลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Scalping
มีโอกาสในการทำกำไรบ่อยครั้ง
- เพิ่มโอกาสให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กน้อยได้บ่อยครั้งในแต่ละวัน
สามารถเลือกเทรดได้ตามช่วงเวลา
- ความยืดหยุ่นของการเทรดแบบ Scalping มีค่อนข้างสูง ทำให้เทรดเดอร์สามารถเลือกเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดมีสภาพคล่องสูงได้
ความเสี่ยงต่อการเทรดแต่ละครั้งค่อนข้างน้อย
- การตั้งเป้าหมายทำกำไรต่อออเดอร์ของการเทรดประเภทนี้ค่อนข้างต่ำ ทำให้การขาดทุนต่อครั้งของกลยุทธ์การเทรดประเภทนี้ต่ำไปด้วย เทรดเดอร์จึงไม่ต้องกังวลถึงความเสี่ยงขนาดใหญ่
ระยะเวลาถือครองออเดอร์สั้น
- ระยะเวลาของการถือครองออเดอร์ที่สั้นลงจะมีความเสี่ยงน้อยกว่าการถือครองออเดอร์ในระยะยาวที่อาจเกิดความผันผวนมาจากข่าวทางเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
ไม่จำเป็นต้องใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานมาก
- เนื่องจาก Scalping เน้นการทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น การวิเคราะห์ทางเทคนิค จึงมีความสำคัญมากกว่าการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
🐶💬 ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Scalping Trade อย่างลงลึก ได้ที่ คู่มือ Scalping Trade ฉบับละเอียด!
กลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Day Trade
กลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Day Trade จะมีความคล้ายคลึงกับ Scalping Trade อยู่เล็กน้อย แต่จะแตกต่างกันตรงที่การเทรดประเภทนี้ทำกำไรในจำนวน Pip ที่มากขึ้น เช่น Scalping Trade จะทำกำไรที่ 5-10 pips แต่ Day Trade จะทำกำไรที่ 20-100 pips ทั้งนี้การเทรดด้วยกลยุทธ์ดังกล่าว เป็นการเปิดออเดอร์ถี่กว่าการเทรดแบบ Scalping และยังถือครองออเดอร์ยาวนานกว่าด้วยครับ
กลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Day Trade เหมาะกับใคร?
ด้วยความที่เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ใช้ระยะเวลาสั้น ๆ ภายใน 1 วัน ทำให้กลยุทธ์ประเภทนี้ เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีเวลาว่างระหว่างวันอย่างน้อย 2-4 ชั่วโมง ในการวิเคราะห์และติดตามเทรนด์ตลาด ทั้งยังเหมาะกับผู้ที่ชอบการวิเคราะห์เชิงลึก ชอบศึกษาทั้งปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานก่อนตัดสินใจเทรด รวมถึงเทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเครียดจากการตัดสินใจแข่งกับเวลาแบบ Scalping Trade แต่ก็ไม่อยากรอผลลัพธ์นาน ๆ แบบการเทรดข้ามวันครับ
ข้อได้เปรียบของกลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Day Trade
ผลกระทบต่อต้นทุนและกำไรน้อยกว่าการเทรดแบบ Scalping
- Day Trade มักเปิดออเดอร์ 1-5 ออเดอร์ต่อวัน ในขณะที่ Scalping อาจเปิดออเดอร์มากถึง 10-100 ออเดอร์ต่อวัน ทำให้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายส่งผลกระทบต่อกำไรโดยรวมน้อยกว่ามาก
มีเวลาที่ยืดหยุ่นมากกว่าการเทรดแบบ Scalping
- ไม่จำเป็นต้องจับตาดูหน้าจอตลอดเวลา เพราะสามารถตั้งคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าและตรวจสอบเป็นระยะได้ ทำให้สามารถทำกิจกรรมอื่นระหว่างวันได้
สามารถใช้ประโยชน์จากข่าวเศรษฐกิจรายวัน
- สามารถทำกำไรจากความผันผวนที่เกิดจากการประกาศข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญประจำวันได้
มีโอกาสในการเทรดหลายครั้ง
- มีโอกาสเทรดหลายครั้งในหนึ่งวัน ทำให้มีความถี่ในการสร้างกำไรมากกว่าการเทรดระยะยาว
🐶💬 เจาะลึกกลยุทธ์การเทรดแบบ Day Trade ที่คุณต้องรู้ ได้ที่ กลยุทธ์ Day Trade เทคนิคทำกำไร 24 ชั่วโมง
กลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Hedging
กลยุทธ์การ Hedging เป็นการเทรดโดยการรักษาบาลานซ์ของบัญชีผ่านการเปิดออเดอร์สวนทางกับออเดอร์หลัก หรือสวนทางกับแนวโน้มของตลาด ณ ขณะนั้น ซึ่งก็ถือเป็นอีกกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์หลายท่านใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงเช่นกัน โดยความโดดเด่นของการเทรดประเภทนี้คือ มีรูปแบบการเทรดที่หลากหลายกว่ากลยุทธ์ประเภทอื่น ๆ ครับ
กลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Hedging เหมาะกับใคร?
Hedging เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เข้าใจในตลาดและเข้าใจความสัมพันธ์ของคู่สกุลเงิน รวมถึงสามารถวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของราคาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนจากความผันผวนของราคาอีกด้วยครับ
ข้อได้เปรียบของกลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Hedging
การรักษากำไรและขาดทุน
- เนื่องจากกลยุทธ์นี้ เป็นการเปิดออเดอร์ที่ตรงข้ามกัน ทำให้การใช้ Hedging จะช่วยล็อกกำไรหรือขาดทุนไว้ไม่ให้เปลี่ยนแปลงมากเกินไป
การลดความเสี่ยง
- Hedging ช่วยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ผ่านการเปิดออเดอร์ที่มีทิศทางตรงข้ามกันกับออเดอร์หลัก ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้พอร์ตการลงทุนเกิดการขาดทุนจนมากเกินไป
ความยืดหยุ่นในการใช้กลยุทธ์
- Hedging มีหลายวิธีให้เทรดเดอร์เลือกใช้ เช่น Direct Hedging, Correlation Hedging และ Option Hedging ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมกับสไตล์การเทรดของตนเองได้อย่างยืดหยุ่น
🐶💬 Hedging คืออะไร เหมาะกับการเทรดทั้งระยะสั้นและระยะยาวจริงไหม? หาคำตอบ ได้ที่ Hedging กลยุทธ์จัดการความเสี่ยง
กลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Swing Trade
Swing Trade เป็นกลยุทธ์การเทรด Forex ที่ทำกำไรโดยอาศัยการแกว่งตัวของราคาในตลาด Forex หรือจับจังหวะการแกว่งตัวของราคา (Swing) เพื่อทำกำไรในระยะสั้น ๆ ซึ่งเทรดเดอร์มักจะเปิดออเดอร์หลาย ๆ ออเดอร์ โดยเน้นการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาในระยะกลาง ผ่านการใช้กราฟรายวันหรือรายสัปดาห์ในการหาจุดเข้าซื้อและขาย
กลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Swing Trade เหมาะกับใคร?
Swing Trade กลยุทธ์การเทรด Forex แบบทำกำไรจากความผันผวนของราคาจะเหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำกำไรจากความผันผวนของตลาด อย่างผู้ที่มีงานประจำหรือมีภารกิจอื่น ๆ ที่ต้องทำ และไม่สามารถเฝ้าหน้าจอได้ตลอดเวลาเนื่องจากการเทรดแบบ Swing Trade ใช้เวลาน้อยกว่าการเทรดแบบ Day Trading ที่สำคัญยังเหมาะกับเทรดเดอร์ที่สามารถรับความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี ทำให้เทรดเดอร์ที่มีความรู้และความเข้าใจในการวิเคราะห์กราฟและการใช้เครื่องมือการวิเคราะห์จะได้เปรียบในการเทรดประเภทนี้เป็นอย่างมากครับ
ข้อได้เปรียบของกลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Swing Trade
มีความยืดหยุ่นด้านเวลา
- การเทรดประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องติดตามกราฟ ทำให้เหมาะกับผู้ที่มีงานประจำและไม่สามารถติดตามหน้าจอได้ตลอดเวลา
มีโอกาสในการทำกำไรขนาดใหญ่
- Swing Trade เน้นการสร้างผลกำไรขนาดใหญ่ โดยไม่จำเป็นต้องรันเทรนด์ยาวเหมือนกับการเทรดแบบ Trend Following ทำให้สามารถทำกำไรได้ในระยะเวลาสั้นกว่าครับ
ลดความเสี่ยงจากความผันผวนในระยะสั้น
- Swing Trade สามารถจัดการความเสี่ยงและความผันผวนในช่วงสั้น ๆ ได้ดีกว่าการเทรดแบบ Scalping หรือ Day Trade
🐶💬 กลยุทธ์ทำกำไรจากความผันผวนของราคาคืออะไร? อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ ล้วงลึกกลยุทธ์การทำกำไรแบบ Swing Trade
กลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Trend Following
การเทรดตามแนวโน้มหรือการเทรดแบบ Trend Following เป็นการทำกำไรจากการสังเกตแนวโน้มตลาดและมีคอนเซปต์ง่าย ๆ คือ เปิดออเดอร์ซื้อ (Buy) เมื่อแนวโน้มของราคาอยู่ในช่วงขาขึ้น และปิดออเดอร์ขาย (Sell) ในช่วงที่ราคาตลาดอยู่ในแนวโน้มขาลง
กลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Trend Following เหมาะกับใคร?
Trend Following เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีความเข้าใจในแนวโน้มของตลาดเป็นอย่างดี และเหมาะกับเทรดเดอร์ที่ไม่ค่อยมีเวลาและไม่ชอบการเปิดออเดอร์บ่อย ๆ เนื่องจากการเทรดประเภทนี้ เทรดเดอร์จะสามารถถือครองออเดอร์ได้นาน โดยไม่ต้องคอยมานั่งดูกราฟบ่อย ๆ ครับ
ข้อได้เปรียบของกลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Trend Following
ลดความถี่ในการตัดสินใจ
- กลยุทธ์ Trend Following เทรดเดอร์ไม่ต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องเท่ากับกลยุทธ์การเทรดแบบ Day Trade ทำให้ลดโอกาสการเกิดความเครียดและการตัดสินใจที่ผิดพลาดครับ
ลดผลกระทบจากความผันผวนระยะสั้น
- กลยุทธ์การเทรด Forex ประเภทนี้จะเน้นการติดตามแนวโน้มระยะยาว ทำให้ความผันผวนระยะสั้นในตลาดจะไม่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจในการเทรดมากนัก
ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเทรด
- เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเปิดหลายออเดอร์พร้อมกัน ทำให้ประหยัดค่าสเปรดและค่าคอมมิชชันได้ รวมถึงกลยุทธ์นี้ยังใช้เวลาในการติดตามกราฟน้อยกว่า 4 กลยุทธ์ข้างต้นด้วยครับ
🐶💬 เทรดตามแนวโน้มหรือ Trend Following ทำกำไรได้จริงไหม? ไขข้อสงสัย ได้ที่ การเทรดแบบ Trend Following
กลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Carry Trade
Carry Trade เป็นกลยุทธ์การเทรดที่เทรดเดอร์ทำกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยของคู่สกุลเงิน หรืออธิบายง่าย ๆ คือ การใช้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่มีอัตราที่ต่ำ เพื่อนำไปลงทุนและรอรับผลตอบแทนในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่านั่นเองครับ กลยุทธ์การลงทุนประเภทนี้จึงต้องอาศัยการเทรดเป็นเวลาหลายวัน หลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน
กลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Carry Trade เหมาะกับใคร?
กลยุทธ์การเทรดแบบ Carry Trade เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างอัตราดอกเบี้ยและค่าเงิน เพราะต้องอาศัยความเข้าใจในปัจจัยที่มีผลต่ออัตราดอกเบี้ยและอัตราการแลกเปลี่ยน ดังนั้น ผู้ที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจในตลาด Forex อาจไม่เหมาะกับกลยุทธ์นี้ โดยอาจจะเหมาะกับผู้ที่ชอบการลงทุนระยะยาวและไม่ต้องการติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดทุกวันครับ
ข้อได้เปรียบของกลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Carry Trade
มีโอกาสทำกำไรจากส่วนต่างของดอกเบี้ย
- การ Carry Trade มุ่งเน้นทำกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างคู่สกุลเงิน ทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสในการทำกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย
โอกาสในการทำกำไรระยะยาว
- หากคุณ Carry Trade ไว้เป็นระยะเวลานาน เทรดเดอร์ก็มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากส่วนต่างดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเหมือนกับการมี Passive Income นั่นเอง
สร้างผลตอบแทนได้สองทาง
- มีโอกาสได้รับผลตอบแทนทั้งจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยและส่วนต่างของการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน
🐶💬 เรียนรู้วิธีทำกำไรจากกลยุทธ์การเทรด Forex แบบ Carry Trade ได้ที่ Carry Trade คืออะไร?
สรุปเกี่ยวกับกลยุทธ์การเทรด Forex ที่ดีที่สุด
6 กลยุทธ์การเทรด Forex ที่ดีที่สุดที่พี่โบ้กล่าวไปข้างต้นนั้น จะสังเกตได้ว่า ไม่ว่ากลยุทธ์ใดก็จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการเทรด ความรู้เกี่ยวกับตลาด รวมถึงความเข้าใจในตลาดด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้น ให้จำไว้ว่าไม่ว่าคุณจะเลือกใช้กลยุทธ์การเทรด Forex ประเภทใด คุณก็จำเป็นต้องมีความรู้และความเข้าใจในตลาด และพี่โบ้ไม่อยากให้ลืมว่า กลยุทธ์การเทรด Forex ที่ดี ไม่ใช่กลยุทธ์ที่เทรดเดอร์ใช้แล้วประสบความสำเร็จกันมากที่สุด แต่เป็นกลยุทธ์ที่เหมาะกับตัวคุณเองครับ
นอกจากการเลือกกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมกับตัวคุณเองแล้ว การทดสอบกลยุทธ์ด้วยการเทรดบนบัญชี Demo และการปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการขาดทุนได้ครับ
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้
พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page