Fibonacci คืออะไร? อัตราส่วนทองคำแผนที่สำคัญในการเทรด Forex

Table of Contents
ฟีโบนักชี (Fibonacci) คืออะไร

คุณเคยได้ยินหรือไม่ว่า มีอนุกรมลำดับตัวเลขที่เชื่อมโยงกันอย่างน่าพิศวง เรียกว่า ‘ฟิโบนักชี’ จุดเด่นของมันคือ เมื่อนำตัวเลขสองตัวแรกมาบวกกัน จะได้ผลลัพธ์เป็นตัวเลขถัดไปต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ซึ่งความพิเศษนี้เอง ที่ทำให้ตัวเลขชุดดังกล่าวถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคในตลาดการเงิน หากคุณอยากทำความรู้จักกับฟิโบนักชีที่กลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องมือทรงพลังของเทรดเดอร์ ไปอ่านในบทความนี้กันครับ!

*หมายเหตุ: บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด อีกทั้ง การลงทุนมีความเสี่ยงสูงนักลงทุนควรศึกษารายละเอียดการลงทุนให้ละเอียดก่อนเริ่มทำการลงทุน

ผู้คิดค้น Fibonacci

ผู้ที่ทำให้เรารู้จักลำดับฟิโบนักชี (Fibonacci Sequence) คือ นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี เลโอนาร์โด ปิซาโน ฟิโบนักชี (Leonardo Pisano Fibonacci) หรือที่รู้จักกันในชื่อสั้น ๆ ว่า ฟีโบนัชชี เขาเป็นผู้เผยแพร่ระบบเลขอารบิกที่เรานำมาใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ฟิโบนักชีเป็นนักคณิตศาสตร์ที่ถูกยกย่องว่าเก่งที่สุดในยุคกลางครับ

🔻บางคนอาจคุ้นชื่อว่า ฟีโบนันชี, ฟีโบนัชชี หรือแม้แต่ฟีโบนักชี ซึ่งทั้งหมดนี้ จริง ๆ แล้วหมายถึงสิ่งเดียวกัน แต่ความแตกต่างของการเขียน เกิดจากการถอดเสียงออกมาในหลายรูปแบบและมีการใช้ปะปนกันไปครับ

ในตลาดการเงินตัวเลข Fibonacci คือ เครื่องมือทางเทคนิคที่มีรากฐานมาจากลำดับตัวเลขของฟิโบนักชี หรืออัตราส่วนทองคำที่นักวิเคราะห์หลายคนลงความเห็นว่า ตัวเลขเหล่านี้สามารถสะท้อนพฤติกรรมของธรรมชาติและจิตวิทยาการลงทุนของมนุษย์ได้ ทำให้ราคาของสินทรัพย์มักเคลื่อนไหวตามสัดส่วนเหล่านี้ ฟิโบนักชีจึงถูกนำมาใช้วิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของราคา หาแนวรับ-แนวต้าน หาจุดเข้าออเดอร์ที่เหมาะสม รวมถึงอ่านจิตวิทยาของนักลงทุนที่มีต่อตลาดครับ

Fibonacci Sequence หรือลำดับฟีโบนักชีคืออะไร

ลำดับฟิโบนักชี หรือ Fibonacci Sequence คือ ตัวเลขที่มาจากผลรวมของตัวเลข 2 ตัวด้านหน้า โดยเริ่มจาก 0 และ 1 บวกกันต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีจุดสิ้นสุด เช่น 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21… ทำให้อัตราส่วนของ Fibonacci Number สอดคล้องกับสัดส่วนธรรมชาติของสิ่งของต่าง ๆ ที่หลายคนเรียกว่า “อัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio)”

หลังจากที่เราเข้าใจแล้วว่า ลำดับฟิโบนักชีเกิดขึ้นได้อย่างไร ต่อมาสิ่งที่สำคัญคือ การนำตัวเลขเหล่านี้มาหารกันเพื่อให้ได้ “อัตราส่วนฟิโบนักชี (Fibonacci Ratio)” ซึ่งอัตราส่วนเหล่านี้แหละครับที่จะเข้ามามีบทบาทให้เทรดเดอร์ได้ใช้กันในตลาด Forex

อัตราส่วนฟิโบนักชี (Fibonacci Ratio) คือ อัตราส่วนที่ได้มาจากการนำตัวเลขของลำดับฟิโบนักชีมาหารกัน โดยวิธีการหาอัตราส่วนที่ว่า สามารถสรุปออกมาได้ ดังนี้

  • ถ้าหากหารด้วยลำดับถัดไป 1 ตำแหน่ง → 34 ÷ 55 หรือ 55 ÷ 89 … ผลลัพธ์ที่ได้จะประมาณ 0.618 (61.8%)
  • ถ้าหากหารด้วยลำดับถัดไป 2 ตำแหน่ง → 34 ÷ 89 หรือ 55 ÷ 144 … ผลลัพธ์ที่ได้จะประมาณ 0.382 (38.2%) 
  • ถ้าหากหารด้วยลำดับถัดไป 3 ตำแหน่ง → 34 ÷ 144 หรือ 55 ÷ 233 … ผลลัพธ์ที่ได้จะประมาณ 0.236 (23.6%)

ดังนั้น อัตราส่วนที่คำนวณออกมานี้ จึงมักถูกนำไปสร้างเป็นระดับของ Fibonacci ประเภทต่าง ๆ เพื่อช่วยหาจุดแนวรับ แนวต้าน และจุดกลับตัวของราคาในตลาดจริงครับ

ฟีโบนักชีมีกี่ประเภท

Fibonacci แบ่งออกได้หลากหลายประเภทตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน แต่วันนี้พี่โบ้จะขอหยิบยกมาแค่ 5 ประเภทที่ถูกนำมาใช้บ่อยในตลาด

  1. Fibonacci Retracement
  2. Fibonacci Extension หรือ Expansion
  3. Fibonacci Channel
  4. Fibonacci Speed Resistance Fan
  5. Fibonacci Time Zone

ตารางเปรียบเทียบประเภทของฟิโบนักชี

ประเภทของ Fibonacciการนำไปใช้งาน
Fibonacci Retracementหาจุดย่อตัว (Pullback) เพื่อระบุแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
Fibonacci Extension หรือ Expansionหาจุดทำกำไร (Take Profit) ตามทิศทางของแนวโน้ม
Fibonacci Channelสร้างกรอบคู่ขนานตามแนวโน้ม เพื่อดูแนวรับ แนวต้านในลักษณะ Channel
Fibonacci Speed Resistance Fanใช้เส้นเฉียงวัดความเร็วของแนวโน้ม และดูการพักตัวของราคา
Fibonacci Time Zoneจับจังหวะเวลาที่ราคาอาจเกิดการกลับตัว

แม้ประเภทของ Fibonacci จะมีหลากหลายประเภท แต่เทรดเดอร์สามารถศึกษาและเลือกใช้ Fibonacci รูปแบบต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับเป้าหมายในการเทรด รวมถึงความต้องการของตนเองได้ โดยฟิโบนักชีที่ถูกนำมาใช้งานมากที่สุดในการเทรด คือ Fibonacci Retracement และ Fibonacci Extension

🔻 คุณสามารถเลือกอ่านหัวข้อของ Fibonacci ที่ตนเองสนใจได้ที่นี่

1. Fibonacci Retracement คืออะไร?Read More
2. Fibonacci Extension หรือ Expansion คืออะไร?Read More
3. Fibonacci Channel คืออะไร?Read More
4. Fibonacci Fan คืออะไร?Read More
5. Fibonacci Time Zone คืออะไร?Read More

*หมายเหตุ: ตัวอย่างภาพต่อไปนี้เป็นการใช้งานผ่านแพลตฟอร์ม TradingView ซึ่งอาจมีเครื่องมือ ฟังก์ชัน หรือการแสดงผลที่แตกต่างจากแพลตฟอร์มการเทรดอื่น ๆ เทรดเดอร์ควรตรวจสอบความสอดคล้องของเครื่องมือก่อนการใช้งานจริง

Fibonacci Retracement คือ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคในตลาดการเงินที่ใช้เส้นแนวนอนแบ่งระดับการย่อตัวของราคา โดยอ้างอิงจากอัตราส่วนของฟิโบนักชี และลำดับเหล่านี้เองที่จะเข้ามาช่วยหาแนวรับแนวต้านที่สำคัญ และหาจุดย่อตัวและเด้งตัวกลับของกราฟราคาได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

การตี Fibonacci Retracement ในแนวโน้มขาขึ้น

การตี Fibonacci Retracement ในแนวโน้มขาขึ้น

เทรดเดอร์ต้องเริ่มต้นที่จุด A ไป จุด B โดยรูปแบบการตีเส้นมักเฉียงขึ้นตามแนวโน้ม 

  • จุด A คือ จุดต่ำสุด (Swing Low) → เป็นจุดเริ่มต้นการลากที่ระดับ 1 (หรือ 100%)
  • จุด B คือ จุดสูงสุด (Swing High) → เป็นจุดสิ้นสุดที่ระดับ 0 (หรือ 0%)

การตี Fibonacci Retracement ในแนวโน้มขาลง

การตี Fibonacci Retracement ในแนวโน้มขาลง

เทรดเดอร์ต้องเริ่มต้นที่จุด A ไป จุด B โดยรูปแบบการตีเส้นมักเฉียงลงตามแนวโน้ม 

  • จุด A คือ จุดสูงสุด (Swing High) → เป็นจุดเริ่มต้นการลากที่ระดับ 1 (หรือ 100%)
  • จุด B คือ จุดต่ำสุด (Swing Low) → เป็นจุดสิ้นสุดที่ระดับ 0 (หรือ 0%)

Fibonacci Retracement ใช้ยังไง

จากภาพเป็นการใช้ Fibonacci Retracement ในแนวโน้มขาลง โดยเทรดเดอร์สามารถกาง Fibo ตามระดับราคาที่สำคัญตามแนวโน้มได้เลย 

  1. กาง Fib Retracement โดยเริ่มจากจุดเริ่มต้นที่เป็น Swing High (A) และลากจาก Swing High (A) ที่ระดับ 1 (100%) ไปยัง Swing Low (B) ที่ระดับ 0 (0%) ส่วนนี้จะสัมผัสส่วนเนื้อเทียนหรือตัวเทียนก็ได้ครับ
  2. หาจุดเข้าออเดอร์ โดยสังเกตระดับของ Fibo ที่เป็น Sell Zone (0.382 – 0.618) เมื่อกราฟราคาเคลื่อนตัวแตะจุดดังกล่าว ให้พิจารณาเปิดออเดอร์ Sell 
  3. เมื่อกราฟราคาในแนวโน้มขาลงมีการ Pullback (ย้อนกลับขึ้นมาชั่วคราว) และไปแตะระดับสำคัญ 0.786 มักเป็นจุดสุดท้ายที่ราคาควรจะหยุดและกลับตัวลงมาเพื่อไปต่อ

Fibonacci Extension หรือ Expansion คือ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้หาแนวโน้มการขยายตัวของราคา และใช้ในการหาจุดทำกำไร  (Take Profit) ในอนาคต หลังจากที่ราคาเกิดการเคลื่อนที่และย่อตัวแล้ว

การตี Fibonacci Extension ในแนวโน้มขาขึ้น

การตี Fibonacci Extension ในแนวโน้มขาขึ้น 

เทรดเดอร์จำเป็นต้องกำหนดจุด A, B และ C เพื่อกำหนดตำแหน่งต่าง ๆ ของราคา จากนั้นทำการกาง Fibonacci Extension ได้โดยการลากจากจุด A → B → C ซึ่งจุดดังกล่าวสามารถกำหนดได้ ดังนี้

  1. จุด A เป็นจุด Swing Low กำหนดที่จุดเริ่มต้นที่ราคาเริ่มปรับตัวขึ้น
  2. จุด B เป็นจุด Swing High กำหนดที่จุดสิ้นสุดราคาที่ขึ้นรอบแรก
  3. จุด C เป็นจุดที่ราคาย่อตัวหรือจุดที่พักตัว Pullback Low (จุดที่ราคาปรับตัวลงหลังจากทำ High ที่ B)

การตี Fibonacci Extension ในแนวโน้มขาลง

การตี Fibonacci Extension ในแนวโน้มขาลง

เทรดเดอร์จำเป็นต้องกำหนดจุด A, B และ C เพื่อกำหนดตำแหน่งต่าง ๆ ของราคา จากนั้นทำการกาง Fibonacci Extension ได้โดยการลากจากจุด A → B → C ซึ่งจุดดังกล่าวสามารถกำหนดได้ ดังนี้

  1. จุด A เป็นจุด Swing High กำหนดที่จุดเริ่มต้นที่ราคาเริ่มปรับตัวลง
  2. จุด B เป็นจุด Swing Low กำหนดที่จุดสิ้นสุดที่ราคาทำได้ในรอบแรก
  3. จุด C เป็นจุด Pullback High กำหนดที่จุดที่ราคาปรับตัวขึ้นมาหลังจากทำ Low ที่ B

Fibonacci Extension หรือ Expansion ใช้ยังไง?

Fibonacci Extension ใช้ยังไง

จากภาพเป็นการใช้ Fibonacci Extension ในแนวโน้มขาขึ้น โดยเทรดเดอร์สามารถกาง Fibo ตามระดับราคาที่สำคัญตามแนวโน้มได้เลย 

  1. กาง Fib Extension โดยลากตามลำดับ A → B → C 
  2. สังเกตกราฟราคา หาก Pullback ลงมาที่จุด C แล้ว เมื่อราคา Breakout กลับขึ้นไปและทะลุเหนือจุด B สามารถใช้ระดับต่าง ๆ เป็นเป้าหมายในการทำกำไรได้ โดยระดับที่นิยมใช้ คือ 1.272, 1.414 และ 1.618 โดยเฉพาะระดับ 1.618 ที่มักเป็นเป้าหมายหลักที่เทรดเดอร์จับตามอง
  3. เมื่อราคาทะลุขึ้นจากจุด C และทะลุผ่านจุด B ได้ แสดงว่าแนวโน้มขาขึ้นกลับมาแข็งแกร่ง และราคามีแนวโน้มที่จะเคลื่อนตัวไปสู่ระดับ Extension ตามลำดับ ทำให้เทรดเดอร์สามารถวางแผน Take Profit ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Fib Channel คือ Fibonacci ในรูปแบบเฉียงที่ถูกสร้างมาจากตัวเลขของฟิโบนักชี คล้าย ๆ กับการลากเส้น Trend Line โดยเส้นเหล่านั้นจะถูกนำมาใช้เป็นแนวรับและแนวต้านในลักษณะ Channel ตามชื่อ

การตี Fibonacci Channel ในแนวโน้มขาขึ้น

การตี Fibonacci Channel ในแนวโน้มขาขึ้น 

เทรดเดอร์ต้องเริ่มต้นที่จุด A จากนั้น ตามด้วย B และ C ตามลำดับในภาพ

  • จุด A เป็น Swing Low 1 (จุดต่ำสุดแรก)
  • จุด B เป็น Swing Low 2 (จุดต่ำสุดที่สูงกว่า A)
  • จุด C เป็น Swing High (จุดสูงสุดที่ราคาปรับตัวขึ้น)

การตี Fibonacci Channel ในแนวโน้มขาลง

การตี Fibonacci Channel ในแนวโน้มขาลง 

เทรดเดอร์ต้องเริ่มต้นที่จุด A จากนั้น ตามด้วย B และ C ตามลำดับในภาพ

  • จุด A เป็น Swing High 1 (จุดสูงสุดแรก)
  • จุด B เป็น Swing High 2 (จุดสูงสุดที่ต่ำกว่า A)
  • จุด C เป็น Swing Low (จุดต่ำสุดที่ราคาปรับตัวลง)
Fibonacci Channel ใช้ยังไง

จากภาพเป็นการใช้ Fibonacci Channel ในแนวโน้มขาขึ้น โดยเทรดเดอร์สามารถกาง Fibo ตามระดับราคาที่สำคัญตามแนวโน้มได้เลย 

  1. กาง Fib Channel โดยวางรูปแบบตามแนวโน้ม
  2. ใช้เส้นแต่ละเส้นแทนแนวรับแนวต้าน 
  3. สังเกตเส้นต่าง ๆ ดังนี้
  • เส้น 0 และ 1 จะแสดงขอบเขตหลักของแนวโน้ม 
  • เส้นระหว่าง 0 ถึง 1 (0.236, 0.382, 0.5, 0.618 และ 0.786) จะทำหน้าที่เป็นแนวรับที่สำคัญ เมื่อราคามีการพักตัวลงมา
  • เส้นที่มากกว่า 1 (1.618) จะทำหน้าที่เป็นเป้าหมายราคาในขาขึ้นถัดไป หรือแนวต้านที่สำคัญ เมื่อราคาเคลื่อนที่ผ่านเส้น 1 ขึ้นไปได้

Fibonacci Fan (Fibonacci Speed Resistance Fan) คือ เครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้การลากเส้นจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง เพื่อคาดการณ์แนวรับแนวต้านแบบไดนามิก โดยอาศัยการใช้เส้นที่มีมุมเอียงจากอัตราส่วนของ Fibonacci เข้าช่วย

การตี Fibonacci Fan ในแนวโน้มขาขึ้น

การตี Fibonacci Fan ในแนวโน้มขาขึ้น

เทรดเดอร์ต้องเริ่มต้นที่จุด A ลากไปจุด B โดยรูปแบบการตีเส้น Fibonacci Fan ในแนวโน้มขาขึ้นสามารถทำได้ ดังนี้

  1. เลือกจุดต่ำสุด (Swing Low) เป็นจุด A
  2. เลือกจุดสูงสุด (Swing High) ที่ราคาได้ทำไว้เป็นจุด B

การตี Fibonacci Fan ในแนวโน้มขาลง

การตี Fibonacci Fan ในแนวโน้มขาลง

เทรดเดอร์ต้องเริ่มต้นที่จุด A ลากไปจุด B โดยรูปแบบการตีเส้น Fibonacci Fan ในแนวโน้มขาลงสามารถทำได้ ดังนี้

  1. เลือกจุดสูงสุด (Swing High) เป็นจุด A
  2. เลือกจุดต่ำสุด (Swing Low) เป็นจุด B
Fibonacci Fan ใช้ยังไง

จากภาพเป็นการใช้ Fibonacci Fan ในแนวโน้มขาขึ้น โดยเทรดเดอร์สามารถกาง Fibo ตามระดับราคาที่สำคัญตามแนวโน้มได้เลย 

  1. ลากเส้นเพื่อกาง Fibonacci Fan โดยหากเป็นแนวโน้มขาขึ้น ให้ลากจากจุด A ไป จุด B ตามภาพ (จุดต่ำสุดไปจุดสูงสุด) 
  2. ใช้เป็นแนวรับแนวต้านจากการที่ราคาเคลื่อนไหวไปตามเส้น Fibo ที่กางออกแต่ละเส้น เช่น เมื่อราคาอยู่ระหว่างเส้น Fan 0.5 และ 0.68 ให้ใช้เส้น 0.5 เป็นแนวรับ ส่วน 0.68 เป็นแนวต้าน
  3. ให้สังเกตพฤติกรรมของราคา เช่น ถ้าหากกราฟราคาวิ่งเกาะอยู่กับเส้น Fan นั้นบ่งบอกว่าแนวโน้มยังคงที่อยู่ แต่ถ้าแท่งเทียนราคาทะลุเส้นใดเส้นหนึ่งไปได้ เป้าหมายของการเคลื่อนตัวของราคาอาจเป็นเส้น Fan เส้นต่อไป

เส้นสำคัญที่ต้องเฝ้าจับตาคือเส้นไหน?

  • 0.382, 0.5 และ 0.618 คือ จุดที่ราคามักมีการเด้งตัวกลับบ่อย
  • เส้นต่ำกว่าระดับ 0.75 เพราะถ้าหลุดเส้นนี้ลงไป มักบ่งบอกว่าแนวโน้มอาจอ่อนแรง

🔻บทความที่เกี่ยวข้อง วิธีการหาแนวรับ-แนวต้าน

แนวรับ-แนวต้านแบบไดนามิก (Dynamic Support/Resistance) คือ แนวรับ-แนวต้านที่เปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลานั้น ๆ

Fibonacci Time Zone คือ การนำตัวเลขฟิโบนักชีมาสร้างเป็นกราฟแนวตั้งบนกราฟราคา เพื่อคาดการณ์ช่วงเวลาที่แนวโน้มจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือกลับตัว ซึ่งระยะห่างของเส้น Fibonacci Time Zone แต่ละช่องนั้นมาจากลำดับของตัวเลข Fibonacci ทำให้ Fibonacci Time Zone เป็นตัวช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวางแผนและคาดการณ์ช่วงเวลาที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญทางด้านราคาได้

การตี Fibonacci Time Zone ในแนวโน้มขาขึ้น

การตี Fibonacci Time Zone ในแนวโน้มขาขึ้น

เทรดเดอร์ต้องเริ่มต้นที่จุด A ลากไป จุด B โดยรูปแบบการตีเส้น Fibonacci Time Zone ในแนวโน้มขาขึ้นสามารถทำได้ ดังนี้

  1. เลือกจุดต่ำสุด (Swing Low) เป็นจุด A
  2. เลือกจุดสูงสุด (Swing High) ที่ราคาได้ทำไว้ เป็นจุด B

การตี Fibonacci Time Zone ในแนวโน้มขาลง

การตี Fibonacci Time Zone ในแนวโน้มขาลง

เทรดเดอร์ต้องเริ่มต้นที่จุด A ลากไป จุด B โดยรูปแบบการตีเส้น Fibonacci Time Zone ในแนวโน้มขาลงสามารถทำได้ ดังนี้

  1. เลือกจุดสูงสุด (Swing High) เป็นจุด A
  2. เลือกจุดต่ำสุด (Swing Low) เป็นจุด B

Fibonacci Time Zone ใช้ยังไง?

Fibonacci Time Zone ใช้ยังไง

จากภาพจะเห็นได้ว่า เป็นการใช้ Fibonacci Time Zone ร่วมกับการตีแนวรับ แนวต้าน เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการระบุจุดกลับตัวของกราฟราคา โดยรายละเอียดต่าง ๆ มีดังนั้น

  1. ลากเส้นเพื่อระบุจุดที่เป็นแนวโน้ม ตัวอย่างจากภาพ เป็นการลากเส้นจากจุด Swing High ไปยังจุด Swing Low เพื่อระบุแนวโน้มขาลง
  2. หาจุดเหมาะสม เพื่อลากแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
  3. สังเกตจุดกลับตัวของราคาจากการที่กราฟราคาเคลื่อนไหวไปชนแนวรับหรือแนวต้านสำคัญ จากภาพจะเห็นได้ว่า ราคาจะเด้งตัวกลับเมื่อเคลื่อนที่มาชนกับแนวรับหรือแนวต้าน

ความหมายของตัวเลขบนเส้น Fibonacci Time Zone

เส้นของ Fibonacci Time Zone (1, 2, 3, 5, 8, 13, …) แทนจำนวนแท่งเทียน หรือจำนวนชั่วโมง/วัน/สัปดาห์/เดือน (ขึ้นอยู่กับ Time Frame ที่คุณเลือกใช้) เช่น ถ้าคุณเทรดบน Time Frame D1 (1 วัน) เส้นหมายเลข 1 จะแทน 1 วันถัดมา และเส้นหมายเลข 5 ก็จะแทน 5 วันถัดมา ตามเส้นแนวตั้ง

🔻คำแนะนำจาก Traderbobo: เทรดเดอร์ควรใช้เครื่องมือ Fibonacci ร่วมกับอินดิเคเตอร์และเครื่องมือการวิเคราะห์อื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ

📢 Traderbobo แนะนำ

รวมอินดิเคเตอร์ยอดนิยมที่เทรดเดอร์ Forex ใช้งานกันบ่อยที่สุดเอาไว้ในที่เดียว! ใครอยากเพิ่มประสิทธิภาพให้การเทรด มาลองศึกษาไปพร้อมกับพี่โบ้ได้ที่บทความด้านล่างนี้ครับ 🚀

Fibonacci เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ถูกสร้างขึ้นจากลำดับตัวเลขที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน จนทำให้เกิดอัตราส่วนทองคำ หรือ Golden Ratio ซึ่งตัวเลขดังกล่าว ได้แก่ 0.236, 0.382, 0.618, 0.786 และ 1.618 ตัวเลขที่กล่าวมานี้ จึงถูกนำมาใช้วิเคราะห์ตลาดทางการเงิน 

ทั้งนี้ Fibonacci ยังมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน ทำให้เทรดเดอร์ส่วนมากนิยมหยิบเอาฟิโบนักชีบางประเภทมาใช้ในการหาแนวรับแนวต้าน จุดกลับตัว และจุดพักตัวของราคา หรือแม้กระทั่งนำมาหาตำแหน่งตั้งจุด Take Profit ที่เหมาะสม อย่างไรก็ดี ฟิโบนักชีก็เป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์ ไม่ใช่เครื่องมือวิเศษที่สามารถทำนายอนาคตของราคาได้อย่างแม่นยำ 100% แต่พี่โบ้อยากให้มองว่ามันเป็นเหมือนแผนที่ที่คอยช่วยนำทางให้คุณมองเห็นรายละเอียดของกราฟราคาได้อย่างลงลึกมากยิ่งขึ้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้ Fibonacci 

1. วิธีใช้ Fibonacci ใน Trading View ทำยังไง?

คุณสามารถเข้าใช้งานเครื่องมือ Fibonacci บนแพลตฟอร์ม TradingView ได้ตามวิธีต่อไปนี้ครับ

  1. เข้าโปรแกรม TradingView
  2. เลือกสินทรัพย์ที่ต้องการวิเคราะห์
  3. สังเกตแถบเครื่องมือด้านซ้ายมือ จะมีเครื่องมือชื่อว่า Fib Retracement 
  4. จากนั้นให้ทำการคลิกเข้าไป แถบเครื่องมือจะปรากฏประเภทของ Fibo รูปแบบต่าง ๆ ขึ้นมาครับ

2. ค่า Fibo ที่นิยมมีอะไรบ้าง?

ค่า Fibo ที่เทรดเดอร์นิยมใช้ในทางเทคนิค ได้แก่ 0.236 (23.6%), 0.382 (38.2%), 0.5 (50%), 0.618 (61.8%) และ 0.786 (78.6%) ครับ

3. อัตราส่วนทองคำของค่า Fibo คือระดับไหน?

ตัวเลขที่ถือเป็นอัตราส่วนทองคำของ Fibonacci คือ ค่า 0.618 และ 1.618 ครับ

4. Fibonacci มีกี่ประเภท?

Fibonacci มีอยู่หลากหลายประเภทมากครับ แต่หลัก ๆ ในการเทรด มักจะถูกนำมาใช้สองชนิด ได้แก่ Fibonacci Retracement และ Fibonacci Extension


อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้

พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ