
OctaFX เป็นโบรกเกอร์ดังในแถบยุโรป ให้บริการนักเทรดใน 100 ประเทศทั่วโลก จากการทดลองเทรดบัญชี OctaFX MT5 ไม่มีค่า Swap สามารถถือยาวได้สบาย และยังทำกำไรได้มากขึ้นด้วยนะครับ เนื่องจากไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากและถอน นอกจากนี้ยังมีสเปรดที่ต่ำ และระบบ Copy Trade สำหรับมือใหม่อีกด้วย ในส่วนของใบอนุญาตก็ได้รับจากหน่วยงานกำกับโบรกเกอร์ชั้นนำ ถือเป็นโบรกเกอร์ที่น่าใช้งานโบรกเกอร์หนึ่งเลยครับ
1. ประวัติ

OctaFX หรือ Octa Markets Incorporated เป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกในการซื้อขาย Forex มีบริการอยู่ 100 ประเทศทั่วโลก จัดตั้งขึ้นในปี 2011 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศอังกฤษ แต่บริษัทจดทะเบียนที่ประเทศเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ (เป็นเกาะที่อยู่แถวทะเลแคริบเบียน) เป็นโบรกเกอร์ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยได้ระยะหนึ่ง แต่ได้รับรางวัลมากมายถึง 22 รางวัล ตลอดระยะเวลา 10 ปี นอกจากนี้ยังมีการให้ความรู้เกี่ยวกับ Forex รวมทั้งการวิเคราะห์ต่าง ๆ บนหน้าเว็บไซต์อีกด้วย
2. ใบอนุญาต
– ได้รับใบอนุญาต CySEC
3. คุณสมบัติเด่นของโบรก
- ไม่มีค่า Swap (เฉพาะบัญชี OctaFX MT5)
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากถอน
- มีบริการเทรด Cryptocurrency
- สเปรดต่ำสุดอยู่ที่ 0.6 pips
- มีระบบ Copy Trade
- หน้าเว็บรองรับภาษาไทย
- มีบทวิเคราะห์หน้าเว็บไซต์
- มีรางวัล IB
- มีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าใหม่
4. ประเภทบัญชี
OctaFX มีประเภทบัญชีให้เราเลือกเล่นอยู่ 2 บัญชี ได้แก่ OctaFX MT4 และ OctaFX MT5 โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ (เราขอแนะนำ ‘บัญชี MT4’ เนื่องจากมี Spread ต่ำ ไม่มีค่า Commission และการสร้าง EA หรือนำ EA ในท้องตลาดมา Run ทำได้สะดวกมากกว่า MT5 ครับ)

หมายเหตุ: Spread ลอยตัว หมายถึง Spread จะขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในตอนนั้นถ้าเกิดความผันผวนมาก โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดเป็นข่าว Spread ก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย
5. เครื่องมือการซื้อขาย
ทางโบรกมีเครื่องมือให้เราเลือกซื้อขายหลากหลายเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น Forex, CFD, สินค้าโภคภัณฑ์ และสามารถซื้อขาย Cryptocurrency ได้อีกด้วย
6. แพลตฟอร์มการซื้อขาย

สามารถเทรดได้ผ่าน MT4 และ MT5 รองรับทั้ง PC IOS และ Android ครับ
7. ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากและถอน สำหรับทุกบัญชี แต่มีค่า Commission จำนวน $4/Lot ในบัญชี ECN ครับ
8. การฝาก-ถอน
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากและถอน
- เงินฝากขั้นต่ำสุด: $100 ทุกบัญชี
- มีธนาคารไทยรองรับหลายธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารไทยพาณิชย์
- ความเร็วในการฝาก: ทันที
- ความเร็วในการถอน: โดยทั่วไปจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1-3 ชม.
9. การเปิดบัญชี
1. ไปที่หน้าแรกของเว็บไซต์ และกดที่ด้านบนขวา ‘เปิดบัญชี’ เพื่อดำเนินการเปิดบัญชี

2. กรอกข้อมูลเล็กน้อยแล้วกด ‘เปิดบัญชี’ และเมื่อใส่ข้อมูลแล้ว ทางระบบจะให้เราเข้าไปยืนยันตัวตนที่อีเมลล์อีกทีครับ (ต้องกรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษนะครับ)

3. ระบบจะพามาที่หน้านี้ เพื่อกรอกข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย และเลือกประเภทบัญชีที่ต้องการเทรดครับ (ในทีนี้โบ้จะเลือก MT4 ครับ) เมื่อกรอกเสร็จแล้วให้กดดำเนินการต่อ

4. เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ทางระบบจะให้เราทำการฝากเงินเข้าบัญชี และจะให้รายละเอียดบัญชี MT4 ของเรามาครับ (ในขั้นตอนนี้เราสามารถข้ามไป โดยยังไม่ฝากเงินได้นะครับ แล้วแต่เราสะดวก)

5. มาสู่ขั้นตอนการยืนยันตัวตน ให้ Log in เข้ามาในบัญชีของตัวเอง แล้วทำตามในรูปภาพได้เลยครับ โดยการอัปโหลดเอกสารต้องการเอกสาร 2 ประเภท คือ เอกสารยืนยันตัวตนและเอกสารยืนยันที่อยู่ ซึ่งจะใช้เวลาในการยื่นเรื่องทั้งหมดไม่นาน
6. เมื่อยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว สามารถนำตัวเลขบัญชีในขั้นตอนที่ 4 ไป Log in บนแพลตฟอร์ม แค่นี้ก็เริ่มเทรดได้เลยครับ
10. สนับสนุนลูกค้า

หน้าเว็บไซต์มีภาษาให้เลือกทั้งหมด 16 ภาษา ให้บริการ 24 ชม. ตลอด 5 วันทำการ แต่ Live Chat ยังไม่รองรับภาษาไทยนะครับ
11. โปรโมชั่นโบนัส

มีโปรโมชั่นให้เลือกมากมายเลยครับ แต่เราขอแนะนะ ‘โบนัสเงินฝาก 50%’ สำหรับลูกค้าใหม่ ถือว่าคุ้มมาก ๆ ครับ หากใครสนใจสามารถคลิ๊กเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://th.octafx.com/promotions/deposit-bonus/
12. ข้อดี – ข้อเสีย
ข้อดี
- ไม่มีค่า Swap (เฉพาะบัญชี OctaFX MT5)
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากถอน
- มีระบบ Copy Trade
- หน้าเว็บรองรับภาษาไทย
- มีรางวัล IB
- มีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าใหม่
- ไม่มีค่า Commission
- ฝากถอนผ่านบัญชีธนาคารของไทยได้โดยตรง
- มีการแข่งขัน OctaFX Champion Demo Contest, cTrader Weekly Demo Contest
- มีการวิเคราะห์ข่าวรายวัน
ข้อเสีย
- ไม่มี VPS
โดยรวมแล้วถือเป็นโบรกเกอร์ที่เราแนะนำให้คนไทยเปิดบัญชี เนื่องจากมีการแยกเงินของลูกค้าออกจากเงินของบริษัท อีกทั้งอยู่ภายใต้ CySEC จึงมีความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังมี Spread ต่ำ ฝากถอนเร็ว ได้รับ Leverage สูง และเคลมว่า ไม่มีการ Requote ในการเทรดด้วยนะครับ น่าสนใจมากเลยทีเดียว หากใครสนใจสามารถเข้าไปดูหน้าเว็บไซต์หลักเพิ่มเติมได้เลยครับ
Source: ทีมงาน Traderbobo
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: สาระน่ารู้
อ่านรีวิวโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่: Review Broker