
ในช่วงที่ตลาดการเงินผันผวน วิกฤตเศรษฐกิจ หรือมีความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ “สินทรัพย์ปลอดภัย” (Safe Haven) มักจะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง เพราะสามารถช่วยปกป้องพอร์ตการลงทุนของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น พี่โบ้จะพาไปทำความรู้จักว่า Safe Haven คืออะไร แล้วในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ควรลงทุนอะไรดี? ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันครับ!
Safe Haven คืออะไร?
Safe Haven คือ การลงทุนในทรัพย์สินที่มีความปลอดภัยและความเสี่ยงต่ำ โดยมีเป้าหมายเพื่อสะสมมูลค่าและสร้างกำไรอย่างมั่นคงในระยะยาว ทรัพย์สินประเภทนี้มักมีมูลค่าสูงขึ้นในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ จึงเปรียบเสมือนหลุมหลบภัยที่ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด ถือเป็นการเปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสในการลงทุนอีกวิธีหนึ่งด้วยครับ
ลักษณะของ Safe Haven

- มีโอกาสสร้างกำไรอย่างมั่นคงในระยะยาว
- มูลค่าอาจจะมีการเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ
- มีความน่าเชื่อถือ
- มีสภาพคล่องค่อนข้างสูง
- ความเสี่ยงถือว่าต่ำ
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Safe Haven
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “Safe Haven” หรือสินทรัพย์ปลอดภัย มีอยู่หลายสาเหตุที่อาจจะทำให้ผู้ลงทุนมีมุมมองที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสินทรัพย์เหล่านี้ โดยความเข้าใจผิดที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับ Safe Haven มีดังนี้
1. เข้าใจว่า Safe Haven มีแต่ทองคำ
ความจริงแล้ว Safe Haven อาจหมายถึงสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น พันธบัตรรัฐบาลที่มีเครดิตดี (เช่น พันธบัตรสหรัฐ) ไม่ใช่แค่เพียงทองคำเท่านั้น
2. คิดว่า Safe Haven สามารถให้ผลตอบแทนสูงในทุกช่วงเวลา
ผู้ลงทุนบางคนคิดว่า Safe Haven จะสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงได้เสมอในช่วงวิกฤต แต่ในบางครั้งสินทรัพย์เหล่านี้อาจมีผลตอบแทนที่ต่ำหรือไม่เปลี่ยนแปลงมากนักในช่วงที่สถานการณ์เริ่มกลับมาดีขึ้น
3. สินทรัพย์ Safe Haven ไม่มีความเสี่ยง
แม้ว่าสินทรัพย์ Safe Haven จะถูกมองว่าเป็นที่หลบภัยในช่วงเศรษฐกิจไม่แน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ โดยอาจจะเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย การเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน หรือแม้กระทั่งการมีผลตอบแทนต่ำในบางช่วงเวลา โดยเฉพาะสินทรัพย์ประเภทพันธบัตรรัฐบาลที่มีความอ่อนไหวต่อการปรับขึ้นหรือลงของอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง ซึ่งอาจส่งผลต่อมูลค่าและผลตอบแทนของการลงทุน
4. สามารถถือครอง Safe Haven ได้ตลอดเวลา
บางคนอาจคิดว่า Safe Haven เป็นสินทรัพย์ที่สามารถถือครองได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องพิจารณาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยยังต้องพิจารณาสถานการณ์เศรษฐกิจและวัฏจักรเศรษฐกิจในขณะนั้น แม้ว่าสินทรัพย์ Safe Haven จะมีความเสี่ยงต่ำเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่น แต่ในบางกรณี เช่น ภาวะวิกฤตที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาดการเงิน ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนใน Safe Haven ได้เช่นกัน
Safe Haven ควรลงทุนช่วงไหน?
Safe Haven หรือสินทรัพย์ปลอดภัยควรเน้นการลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย ตกต่ำ หรือเมื่อเกิดวิกฤตต่าง ๆ เช่น วิกฤตการเงิน สงคราม หรือโรคระบาด เพราะช่วงนี้ตลาดมีความผันผวนสูง นักลงทุนต้องการลดความเสี่ยงและรักษามูลค่าทรัพย์สินให้นิ่งที่สุด ในทางกลับกัน เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวหรือขยายตัว นักลงทุนสามารถลดสัดส่วนการลงทุนใน Safe Haven และหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่าเพื่อเพิ่มการเติบโตของพอร์ตการลงทุนในระยะยาวครับ
*หมายเหตุ: การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจทุกครั้ง และบทความนี้ไม่ใช่การแนะนำให้ลงทุนแต่อย่างใด
Safe Haven กับวัฏจักรเศรษฐกิจ 4 ระยะ
วัฏจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle) คือ วงจรการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา เพราะไม่มีเศรษฐกิจใดที่เติบโตตลอดไป และในขณะเดียวกันก็ไม่มีเศรษฐกิจใดที่ตกต่ำตลอดกาล วัฏจักรเศรษฐกิจนี้จึงส่งผลต่อ “พฤติกรรมการลงทุน” และ “การเลือกสินทรัพย์” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเข้าใจวัฏจักรเศรษฐกิจ 4 ระยะ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างเหมาะสม ปรับพอร์ตการลงทุนให้รับมือกับความเสี่ยงได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการเลือกถือสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ในช่วงเวลาที่เหมาะสมครับ
📢 Traderbobo แนะนำ
สำหรับเทรดเดอร์หรือผู้ที่สนใจต้องการศึกษาเกี่ยวกับวัฏจักรเศรษฐกิจแบบเจาะลึกในแต่ละช่วง บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวัฏจักรเศรษฐกิจได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น ทั้งสาเหตุ จุดสังเกต และเคล็ดลับในการลงทุนแต่ละช่วงครับ!
ช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery)

เป็นช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากช่วงที่ตกต่ำ ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมแก่การลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะยังเป็นช่วงที่มีความเชื่อมั่นสูง ในช่วงนี้การลงทุนมีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนได้ดีพอสมควร ส่งผลให้เศรษฐกิจยังสามารถขยายตัวต่อเนื่อง
การลงทุน Safe Haven ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว : นักลงทุนมักลดสัดส่วนการลงทุนใน Safe Haven และหันไปเน้นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงครับ
ช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟู (Peak)

เป็นช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัวสูงสุด อัตราเงินเฟ้อจึงเพิ่มขึ้นตามรายได้และการจับจ่ายใช้สอยของผู้คน ทำให้ราคาหุ้นในช่วงนี้ผันผวนสูง
การลงทุน Safe Haven ในช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟู : นักลงทุนมักลดสัดส่วนการลงทุนใน Safe Haven และหันไปเน้นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงครับ
ช่วงเศรษฐกิจถดถอย (Recession)

เมื่อธุรกิจผ่านช่วงที่รุ่งเรืองมากมาแล้ว จะเกิดการชะลอตัวลง เช่น อัตราการจ้างงาน รายได้ และผลประกอบการที่ลดลง ดังนั้น จึงเป็นช่วงที่เหมาะกับการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ
การลงทุน Safe Haven ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย : นักลงทุนมักเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ Safe Haven เพื่อปกป้องเงินทุนจากความผันผวนของตลาดครับ
ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ (Trough)

เป็นช่วงที่ตกต่ำที่สุดของเศรษฐกิจ เนื่องจากการว่างงานที่สูงขึ้นทำให้ผู้คนไม่มีกำลังในการจับจ่ายใช้สอย ดังนั้น จึงควรเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากการปรับลดลงของอัตราดอกเบี้ย
การลงทุน Safe Haven ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ : นักลงทุนยังคงถือครอง Safe Haven ในสัดส่วนสูง เพื่อรักษาเสถียรภาพพอร์ตการลงทุนครับ
ทำไมคนนิยมลงทุนใน Safe Haven? เมื่อเศรษฐกิจเข้าสู่ช่วงวิกฤต
ในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ Safe Haven หรือสินทรัพย์ปลอดภัยเป็นสิ่งที่นักลงทุนมักมองหา เพื่อปกป้องเงินทุนจากความผันผวนในตลาด ซึ่งพี่โบ้ได้นำ 5 ตัวอย่างวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในอดีตมาให้ทุกคนได้ดูกันว่า ทำไม Safe Haven ถึงมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้
5 วิกฤตเศรษฐกิจมีอะไรบ้าง?
เศรษฐกิจโลกเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่หลายครั้ง โดยแต่ละวิกฤตล้วนทิ้งบทเรียนสำคัญและส่งผลกระทบทั้งในระดับประเทศและประชาชนทั่วโลก โดยพี่โบ้จะพาคุณไปย้อนดู 5 วิกฤตเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด
1. ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (The Great Depression) ปี 1929-1939

- สถานที่: สหรัฐอเมริกา
- สาเหตุ: การเก็งกำไรในหุ้น, การล้มของธนาคาน และนโยบายเศรษฐกิจผิดพลาด
- ผลกระทบ: การว่างงานสูง และการถดถอยของเศรษฐกิจโลก
- สินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจ: ทองคำ, เงินสด, ปลอดภัย, ตราสารหนี้ของรัฐบาล, ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ (ในบางกรณี)
2. วิกฤตหนี้สาธารณะในลาตินอเมริกา (The International Debt Crisis) ปี 1982

- สถานที่: เม็กซิโก, อาร์เจนตินา และบราซิล ฯลฯ
- สาเหตุ: กู้ยืมเกินตัว, ดอกเบี้ยสูงจากสหรัฐฯ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำ
- ผลกระทบ: เศรษฐกิจถดถอย, ปรับโครงสร้างหนี้ และการแทรกแซงจาก IMF
- สินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจ: ทองคำ, เงินสดและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และเงินดอลลาร์สหรัฐ
3. วิกฤตต้มยำกุ้ง (Asian Financial Crisis) ปี 1997

- สถานที่: ไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
- สาเหตุ: การเก็งกำไรค่าเงินบาท, หนี้ภาคเอกชนสูง, อัตราแลกเปลี่ยนผูกกับดอลลาร์ และการไหลออกของเงินทุนต่างชาติ
- ผลกระทบ: ค่าเงินล่มสลาย, การล้มละลายของธนาคาร และอัตราว่างงานสูง
- สินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจ: ทองคำ, เงินดอลลาร์สหรัฐ และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
4. วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ (Subprime Crisis) ปี 2007-2009

- สถานที่: สหรัฐอเมริกา (ส่งผลทั่วโลก)
- สาเหตุ: สินเชื่อซับไพรม์ และฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์
- ผลกระทบ: สถาบันการเงินล้ม, หุ้นร่วงหนัก, เศรษฐกิจหดตัว และต้องใช้เงินภาษีช่วยเหลือธนาคาร
- สินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจ: ทองคำ, พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ, เงินสด และเงินเยน
5. วิกฤตโควิด-19 (COVID-19 Pandemic) ปี 2020

- สถานที่: ทั่วโลก
- สาเหตุ: การระบาดของไวรัส SARS-CoV-2 เป็นวิกฤตทางสาธารณสุขที่กลายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ
- ผลกระทบ: การล็อกดาวน์, อัตราการว่างงานพุ่งสูง และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน
- สินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจ: ทองคำ, หุ้นเทคโนโลยี, หุ้นธุรกิจสถานพยาบาล, หุ้นธุรกิจยาและอาหารเสริม, หุ้นธุรกิจเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์, พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และเงินสด
5 สินทรัพย์ปลอดภัยยอดนิยมในช่วงเศรษฐกิจถดถอย
ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย นักลงทุนมักมองหาการลงทุนที่ช่วยรักษาเสถียรภาพและปกป้องเงินทุน และสินทรัพย์ที่เป็นหลุมหลบภัย หรือที่เรียกกันว่า “Safe Haven” มีอะไรบ้าง? วันนี้ทีมงาน Traderbobo จะพาทุกคนไปดูกันครับ
ทองคำ (Gold)

ทองคำนั้นเป็นทรัพย์สินที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานนับพันปี และยังได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เพราะทองคำไม่สามารถที่จะสามารถผลิตเพิ่มได้เหมือนเงินสกุลต่าง ๆ จึงทำให้ต้านทานเงินเฟ้อได้ดีครับ
พันธบัตรรัฐบาล (Government Bonds)

พันธบัตรรัฐบาลเป็นตราสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการหรือรัฐบาล จึงมีโอกาสที่จะผิดชำระหนี้ต่ำ และยังซื้อขายได้ง่ายแม้ในช่วงที่ตลาดผันผวนอีกด้วยครับ
เงินสด (Cash)

เงินสด หรือคำพูดที่มักได้ยินว่า “Cash is King” เวลาที่การลงทุนมีความไม่แน่นอน ถึงแม้เงินสดจะไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ แต่นักลงทุนมักจะยังถือไว้ และมูลค่าเงินสดไม่ผันผวนเหมือนกับหุ้นหรือสินทรัพย์อื่น ๆ โดยเฉพาะสกุลเงิน USD เพราะว่าถือเป็นสกุลเงินหลักของโลก มีความมั่นคงสูง และเป็นที่ยอมรับในการชำระหนี้ระหว่างประเทศ นักลงทุนจึงมักถือ USD เป็นเงินสดสำรองในช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอน
หุ้นปลอดภัย (Defensive Stock)

หุ้นปลอดภัย คือ หุ้นที่มีความผันผวนต่ำและมีเสถียรภาพ แต่กำไรอาจจะเติบโตแบบไม่หวือหวาในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งหุ้นเหล่านี้มักเป็นบริษัทที่ผลิตหรือจำหน่ายสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น หุ้นสาธารณูปโภค สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ยาและเวชภัณฑ์ รวมไปถึงโทรคมนาคม แม้หุ้นบางกลุ่มจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่หุ้นที่มีประวัติการจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง มักถูกมองว่าเป็นทางเลือกในการป้องกันความเสี่ยงที่น่าสนใจ
อสังหาริมทรัพย์บางประเภท

อสังหาริมทรัพย์มีคุณสมบัติที่คล้ายกับสินทรัพย์ปลอดภัยในบางแง่มุม แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ แต่ไม่สามารถจัดเป็นหุ้นปลอดภัย (Defensive Stock) โดยสมบูรณ์ได้ นักลงทุนควรพิจารณาประเภท ทำเล และจังหวะเวลาอย่างรอบคอบ รวมถึงประเมินความเสี่ยงเฉพาะของอสังหาริมทรัพย์แต่ละแห่งด้วยนะครับ
*หมายเหตุ: ไม่ใช่สินทรัพย์ทุกประเภทที่จะเป็น Safe Haven ในทุกสถานการณ์ นักลงทุนควรพิจารณาตามบริบทเศรษฐกิจโลกในขณะนั้นด้วยครับ
ตารางเปรียบเทียบสินทรัพย์ Safe Haven
สินทรัพย์ | ความเสี่ยง | สภาพคล่อง |
ทองคำ | ต่ำ | สูง |
พันธบัตร | ต่ำ | ปานกลาง |
เงินสด / USD | ต่ำ | สูง |
หุ้นตั้งรับ | ต่ำถึงปานกลาง | สูง |
อสังหาริมทรัพย์ | ปานกลางถึงต่ำ | ต่ำ |
คำแนะนำเพิ่มเติม: การเลือกสินทรัพย์ควรพิจารณาความเสี่ยงและสภาพคล่องที่คุณสามารถยอมรับได้ และผลตอบแทนในปัจจุบันไม่สามารถการันตีอนาคตได้ นักลงทุนโปรดใช้ความระมัดระวังในการลงทุน
เทคนิคการลงทุนในสินทรัพย์ Safe Haven
การลงทุนในสินทรัพย์ Safe Haven เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรักษามูลค่าทรัพย์สินของตนในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนหรือเศรษฐกิจไม่แน่นอน ซึ่งสามารถใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้การลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย 5 เทคนิคการลงทุนในสินทรัพย์ Safe Haven มีดังนี้
1. การกระจายการลงทุน
การกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ Safe Haven หลายประเภท เช่น ทองคำ พันธบัตรรัฐบาล อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่เงินสด ช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน ไม่ต้องพึ่งพาสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งมากเกินไป
2. การติดตามภาวะเศรษฐกิจและความผันผวนของตลาด
การเฝ้าติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจควบคู่กับระดับความผันผวนในตลาดเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกลงทุนในสินทรัพย์ Safe Haven นักลงทุนควรสังเกตสัญญาณชะลอตัวของเศรษฐกิจ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงหรือวิกฤตการเงิน นอกจากนี้ ดัชนีความผันผวน (VIX) ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ประเมินความไม่แน่นอนในตลาด หาก VIX พุ่งสูง นักลงทุนมักจะย้ายเงินทุนไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน
3. การวางแผนเป้าหมายระยะยาวและการจัดสรรเงินสด
การลงทุนใน Safe Haven ควรมีเป้าหมายระยะยาว เนื่องจากแม้ผลตอบแทนอาจไม่สูงในช่วงระยะสั้น แต่ช่วยรักษามูลค่าเงินทุนในระยะยาวได้ ขณะเดียวกัน การจัดสรรเงินสดหรือสินทรัพย์สภาพคล่องไว้ก็สำคัญ เพื่อเตรียมพร้อมใช้โอกาสลงทุนในช่วงที่ราคาสินทรัพย์ลดลง
4. การป้องกันความเสี่ยงด้วยสัญญาอนุพันธ์ (Derivatives)
การใช้กลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง เช่น การซื้อออปชัน (Options) หรือการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่สามารถนำมาใช้ร่วมกับการลงทุนในสินทรัพย์ Safe Haven
5. การประเมินความเสี่ยง-ผลตอบแทน
ก่อนลงทุนใน Safe Haven ควรเริ่มจากการประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนอย่างรอบคอบ เพราะแม้ว่าผลตอบแทนจะไม่สูงมาก แต่ก็สามารถช่วยรักษามูลค่าเงินทุนได้ดีในช่วงตลาดผันผวน
สรุป Safe Haven คืออะไร เหมาะกับใคร
Safe Haven คือ สินทรัพย์ที่ช่วยลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดผันผวน หรือมีเหตุการณ์ไม่แน่นอน เช่น เศรษฐกิจถดถอย สงคราม หรือข่าวร้ายใหญ่ ๆ ที่กระทบตลาดทั่วโลก ซึ่งสินทรัพย์กลุ่มนี้จะถูกมองว่า “ปลอดภัยกว่า” สินทรัพย์อื่นในช่วงเวลานั้น
อย่างไรก็ตาม การเลือกถือ Safe Haven ควรอิงตามสถานการณ์และกลยุทธ์ของแต่ละคน เพราะแม้จะเรียกว่าสินทรัพย์ปลอดภัย แต่การลงทุนทุกประเภทก็ยังมีความเสี่ยงอยู่เสมอ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยความรอบคอบก่อนลงทุนทุกครั้งครับ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Safe Haven
1. ทำไมทองคำถูกยกให้เป็น Safe Haven
ทองคำถือเป็น Safe Haven ยอดนิยม เพราะมีคุณสมบัติในการรักษามูลค่าในระยะยาว แม้ในช่วงที่ตลาดทั่วโลกผันผวนอย่างหนัก เพราะทองคำไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทหรือเศรษฐกิจประเทศใดประเทศหนึ่ง และยังมีตลาดซื้อขายที่กว้างทั่วโลก
2. Financial Crisis คืออะไร
Financial Crisis หรือวิกฤตทางการเงิน คือ เหตุการณ์ที่ระบบการเงินของประเทศหรือทั่วโลกเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เช่น สถาบันการเงินล้มละลาย ตลาดหุ้นตกหนัก หรือสกุลเงินอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้เกิดภาวะถดถอย การว่างงาน และธุรกิจจำนวนมากปิดตัวลง เช่น วิกฤตซับไพรม์ปี 2008 หรือวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 1997
3. สินทรัพย์ปลอดภัยคืออะไร
สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Assets) คือ สินทรัพย์ที่นักลงทุนมักมองหาเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่แน่นอน เช่น วิกฤตเศรษฐกิจหรือสงคราม เพราะสินทรัพย์เหล่านี้มีแนวโน้มจะไม่สูญเสียมูลค่ามาก หรืออาจเพิ่มขึ้นสวนทางตลาด ตัวอย่างเช่น ทองคำ พันธบัตรรัฐบาล และสกุลเงิน (เช่น ดอลลาร์สหรัฐ)
4.การลงทุนแบบไหนที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด
โดยทั่วไป “พันธบัตรรัฐบาล” ถือเป็นหนึ่งในการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด เพราะมีการค้ำประกันโดยรัฐบาล และให้ผลตอบแทนแน่นอนตามระยะเวลา ในขณะที่ “เงินฝากธนาคาร” ก็เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยเช่นกัน แต่อาจให้ผลตอบแทนต่ำ ซึ่งการกระจายการลงทุนใน Safe Haven หลายประเภทก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการลดความเสี่ยงรวมของพอร์ต ทั้งนี้ นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น เป้าหมายการลงทุน ระยะเวลา และสถานการณ์ทางการเงินส่วนบุคคลด้วยเช่นกัน
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้
พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page