ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก และยังสามารถทำกำไรได้ตลอด 24 ชม. จึงไม่น่าแปลกใจหากใครหลาย ๆ คน ต้องการที่จะเข้าไปทำกำไรในตลาดเงินนี้ แต่สิ่งสำคัญก่อนที่คิดจะเริ่มลงทุน คือ ความรู้พื้นฐานของการซื้อขายในตลาด Forex และการเลือกโบรกเกอร์ที่ดี เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น ความรู้พื้นฐานจึงเป็นสิ่งแรกที่ต้องเรียนรู้ และ Time Frame ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากเช่นกัน สำหรับบทความนี้จะกล่าวถึงความหมาย ประโยชน์ของ Time Frame และวิธีการเลือกใช้ Time Frame สำหรับการเทรดในตลาด Forex
———————————— 🐶 ————————————
Time Frame คืออะไร ?
Time Frame (TF) มีความหมายตรงตัว คือ กรอบเวลาที่เป็นตัวกำหนดการแสดงของกราฟราคา ซึ่งก่อนที่จะทำการวิเคราะห์กราฟ หรือเปิดออเดอร์ต่าง ๆ จะต้องทำการเลือก Time Frame ก่อนทุกครั้งในแพลตฟอร์มที่ทำการเลือก เทรด Forex นั่นคือ MT4 และ MT5 ซึ่ง Time Frame ของทั้งสองแพลตฟอร์มจะแตกต่างกัน ดังนี้
- MT4 ประกอบด้วย M1, M5, M15, M30, H1, H4, D1, W1 และ MN
- MT5 ประกอบด้วย 21 Time Frame
ความหมายของแต่ละ Time Frame
ในทีนี้เราขอลงรายละเอียดไปที่ Time Frame ของ MT4 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่นักลงทุนส่วนใหญ่นิยมใช้กัน มาถึงตอนนี้หลายคนอาจสงสัยว่า ตัวอักษรหน้าตัวเลขต่าง ๆ คืออะไร
- M ย่อมาจาก Minute แปลว่า นาที
- H ย่อมาจาก Hour แปลว่า ชั่วโมง
- D ย่อมาจาก Day แปลว่า วัน
- W ย่อมาจาก Week แปลว่า สัปดาห์
- MN ย่อมาจาก Month แปลว่า เดือน
ตัวอย่าง กรณีที่เราเลือกใช้กราฟแท่งเทียน หากนักลงทุนเลือกใช้ Time Frame ที่ M15 นั่นหมายความว่า แท่งเทียนที่แสดงออกมาจะอยู่ในกรอบเวลา 15 นาที หรือกราฟแท่งเทียน 1 แท่ง จะมีค่าเท่ากับ 15 นาที และเมื่อไรที่กราฟสิ้นสุดก็จะมีกราฟเกิดใหม่ขึ้นทุก 15 นาที
เมื่ออ่านมาจนถึงตอนนี้ หากใครเป็นนักลงทุนมือใหม่คงเกิดคำถามฉุกคิดขึ้นแล้วว่า จะใช้ Time Frame เท่าไรดี ซึ่งการเลือกใช้ Time Frame ก็สำคัญไม่แพ้กับกลยุทธ์การเทรด Forex อื่น ๆ เลย
เทรด Forex ใช้ Time Frame ไหนดี ?
ในการเทรด Forex นักลงทุนจะต้องรู้ตัวเองก่อนตัวเองเป็นนักลงทุนประเภทไหน เพื่อที่จะสามารถเลือกใช้ Time Frame ที่เหมาะกับตัวนักลงทุน และเพื่อที่จะวางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย Time Frame สามารถที่จะแบ่งประเภทนักลงทุนออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
Time Frame สำหรับเทรดระยะสั้น
M1/M5/M15 : ใน Time Frame เหล่านี้ เป็น Time Frame ที่เหมาะกับนักเก็งกำไรที่ชอบเทรดในระยะเวลาสั้น ๆ ตั้งแต่ 1 นาที และไม่เกิน 20 นาทีเท่านั้น แต่เนื่องจากว่าเป็นการเข้าออกในระยะเวลาสั้น ๆ พอร์ตของนักลงทุนจำใน Time Frame นี้จะทำการออก Lot ที่สูงกว่าปกติ เพื่อที่จะสามารถทำกำไรด้วยการเคลื่อนที่เพียงเล็กน้อย โดยนักลงทุนที่ชอบเทรดใน TF นี้ จะเรียกว่า “Scalping”
Time Frame สำหรับเทรด 1 ชม. ขึ้นไป
M30/H1/H4 : ใน Time Frame นี้จะเหมาะกับนักเก็งกำไรที่ชอบเทรดตั้งแต่ 1 ชั่วโมง ไปถึงจบวันนั้น ๆ ซึ่งพอร์ตของนักลงทุนใน Time Frame นี้จะใช้จำนวนเงินน้อยกว่าการ Scalping เนื่องจากว่าในการเทรดใน Time Frame นี้ สามารถที่จะคาดหวังการเคลื่อนไหวของตลาดจำนวนมาก ๆ ได้ และไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ Lot ที่สูงมาก ก็สามารถคาดหวังกำไรได้แล้ว โดยนักลงทุนที่ชอบเทรดใน TF นี้ จะเรียกว่า “Day Trade”
Time Frame สำหรับเทรดระยะยาว
D/W/MN : ใน Time Frame นี้จะเหมาะกับ “นักลงทุน” ซึ่งจะแตกต่างจากนักเก็งกำไร เนื่องจากว่าเป็นทำกำไรในระยะยาว ซึ่งมีระยะเวลาในการถือออเดอร์นานกว่า 1 วัน ซึ่งอาจจะลากยาวไปถึงปี ในการเทรด Time Frame นี้ จะต้องพึ่งเงินทุนที่เยอะกว่าการ Scalping เนื่องจากเป็นการป้องกันการแกว่งตัวของราคาในวงกว้าง โดยนักลงทุนที่ชอบเทรดใน TF นี้ จะเรียกว่า “Swing Trade”
อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ Time Frame ล้วนขึ้นอยู่กับลักษณะการเทรดของแต่ละบุคคล ซึ่งสิ่งที่เรานำเสนอไปนั้นเป็นเพียงการเลือกใช้ส่วนใหญ่ของนักลงทุน แต่ก็ต้องดูด้วยว่า ใครชอบเทรดแบบใด บางคนอาจชอบถือยาวก็สามารถดู Time Frame รายสัปดาห์ (W) ได้ครับ ซึ่งหากต้องการ เทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จ นอกจากจะต้องรู้เทคนิคหรือกลยุทธ์ต่าง ๆ แล้ว ยังต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ พร้อมทั้งติดตามข่าวสาร เพื่อที่จะปรับการเทรดได้อย่างทันท่วงที
Source: ทีมงาน Traderbobo
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: สาระน่ารู้
อ่านรีวิวโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่: Review Broker